จับสัญญาณราคาน้ำมันพุ่ง หากอิหร่านเปลี่ยนรัฐบาล

จับสัญญาณราคาน้ำมันพุ่ง หากอิหร่านเปลี่ยนรัฐบาล

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลคาด การโจมตีอิหร่านอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนระบอบการปกครอง และเหตุการณ์ที่จะส่งผลใหญ่หลวงต่อตลาดน้ำมันโลก 

สิ้นสุดการรอคอยสหรัฐโจมตีอิหร่านเร็วเกินคาด  เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลกล่าวในสัปดาห์นี้ว่า การระดมโจมตีอิหร่านอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนระบอบการปกครอง เหตุการณ์ที่จะส่งผลใหญ่หลวงต่อตลาดน้ำมันโลก 

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ตลาดน้ำมันโลกยังคงรับมือได้กับการที่อิสราเอลถล่มอิหร่านผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดอันดับสามของโอเปคต่อเนื่องมาหลายวัน แต่สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงเมื่อจู่ๆ สหรัฐก็ร่วมวงความขัดแย้งแบบไม่คาดคิดในวันเสาร์ (21 มิ.ย.) ด้วยการโจมตีฐานนิวเคลียร์อิหร่านสามแห่ง ทั้งที่ฟอร์โด, นาทานซ์ และอิสฟาฮาน

ตลาดน้ำมันดิบซื้อขายล่วงหน้าทั้งดับเบิลยูทีไอและเบรนท์ เริ่มต้นการซื้อขาย เวลา 18.00 น.วันอาทิตย์ (22 มิ.ย.) เช่นเดียวกับตลาดหุ้นฟิวเจอร์ ถือเป็นตัวชี้วัดปฏิกริยาต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้

นับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มโจมตีอิหร่านในวันที่ 13 มิ.ย. ราคาน้ำมันขยับขึ้นไปแล้วราว 10% แต่ทั้งดับเบิลยูทีไอและเบรนท์ราคายังไม่ถึง 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เสี่ยงราคาน้ำมันพุ่งสูง

เหล่านักวิเคราะห์พลังงงานมองว่า ความเสี่ยงที่อุปทานน้ำมันจะสะดุดกระตุ้นให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างมากยังมีโอกาสเป็นไปได้ต่อ เพราะความขัดแย้งไม่มีทีท่ายุติ

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยข่มขู่หมายชีวิตอยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน นักวิเคราะห์กล่าวว่า ถ้าผู้นำอิหร่านรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยก็เป็นไปได้ที่จะเล่นงานโรงงานน้ำมันในภูมิภาค

สก็อตต์ โมเดล ซีอีโอบริษัทที่ปรึกษา Rapidan Energy Group กล่าวว่า เป้าหมายเบื้องต้นของอิสราเอลคือตัดกำลังโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน แต่ดูเหมือนว่าอิสราเอลจะมีเป้าหมายบั่นทอนความมั่นคงของผู้นำอิหร่านด้วย การขยายขอบเขตเช่นนี้จะทำให้ฝ่ายต่อต้านในประเทศลุกฮือขึ้นมาโค่นรัฐบาลเตหะรานได้

“พวกเขาไม่ได้เรียกร้องเปลี่ยนระบอบจากภายนอก แต่เรียกร้องการเปลี่ยนระบอบจากภายใน” โมเดล อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอ และผู้เชี่ยวชาญด้านอิหร่านขณะประจำในตะวันออกกลาง กล่าวกับซีเอ็นบีซี

อิสราเอลปฏิเสธ

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ปฏิเสธเมื่อวันพฤหัสบดี (19 มิ.ย.) ว่า อิสราเอลไม่ได้มีเป้าหมายโค่นรัฐบาลอิหร่าน เรื่องนี้คนภายในประเทศต้องตัดสินใจกันเอง แต่เขายอมรับว่าระบอบคาเมเนอีอาจล่มสลายผลจากความขัดแย้ง

วันรุ่งขึ้น (20 มิ.ย.) อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล สั่งกองทัพโจมตีอิหร่านหนักยิ่งขึ้น ด้วยเป้าหมาย “ทำลายเสถียรภาพรัฐบาล” ด้วยการ “โจมตีพื้นฐานอำนาจ” มีรายงานด้วยว่า อิสราเอลพยายามปลิดชีพคาเมเนอี แต่ทรัมป์ยับยั้งแผนการนี้ไว้

ในทัศนะของโมเดล รัฐบาลอิหร่านยังไม่มีสัญญาณล่มสลายแต่นาตาชา คาเนวา หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์โลกจากเจพีมอร์แกน ระบุในรายงานให้ลูกค้าในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าหากการเมืองอิหร่านยังไร้เสถียรภาพต่อไปอีก “อาจทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง”

จากข้อมูลของเจพีมอร์แกน นับตั้งแต่ปี 1979 เคยมีการเปลี่ยนระบอบการปกครองในประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ 8 ครั้ง ราคาน้ำมันเคยขึ้นสูงสุดเฉลี่ย 76% หลังการเปลี่ยนแปลง ก่อนที่จะลดลงมาอยู่ในระดับเสถียรซึ่งสูงกว่าก่อนเกิดวิกฤติราว 30%

ตัวอย่างเช่น ราคาน้ำมันขึ้นไปเกือบสามเท่าช่วงกลางปี 1979- กลางปี 1980 หลังการปฏิวัติอิหร่านโค่นกษัตริย์ชาห์ เปลี่ยนระบอบเป็นสาธารณรัฐอิสลาม ฉุดให้เศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก

หรือที่ใกล้กว่านั้นคือการปฏิวัติในลิเบีย โค่นมูอัมมาร์ กัดดาฟี เขย่าราคาน้ำมันจาก 93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือน ม.ค.2011 ไปอยู่ที่ 130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในเดือน เม.ย.ปีเดียวกันสอดรับกับช่วงเวลาวิกฤติหนี้ยุโรป จนเกือบจะเป็นเหตุให้เศรษฐกิจโลกถดถอย

ใหญ่กว่าลิเบีย

โมเดลกล่าวต่อไปว่า การเปลี่ยนระบอบการปกครองในอิหร่านจะส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันโลกใหญ่กว่าการปฏิวัติลิเบียในปี 2011 มาก เพราะอิหร่านเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่กว่า

“เราจำเป็นต้องเห็นตัวชี้วัดแข็งแกร่งบางอย่างว่า รัฐบาลอิหร่านกำลังล่มหรืออาจถูกโค่น ก่อนที่ตลาดจะมีปฏิกิริยาต่อความเสี่ยงที่ว่า น้ำมันกว่าสามล้านบาร์เรลต่อวันกำลังจะหายไป” โมเดลกล่าว

เฮลิมา ครอฟต์ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์ จาก RBC Capital Markets ถ้ารัฐบาลอิหร่านเชื่อว่า กำลังเผชิญวิกฤติก็อาจใช้คลังแสงขีปนาวุธพิสัยสั้นที่มี ทำลายคลังน้ำมันในภูมิภาคหรือเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวเปอร์เซีย หรืออาจวางระเบิดช่องแคบฮอร์มุซ ทางน้ำแคบๆ ระหว่างอิหร่านกับโอมาน ทางผ่านของน้ำมันราว 20% ของโลก มีรายงานว่าอิหร่านกวนเครื่องรับสัญญาณของเรือรุนแรงมาก

ครอฟต์เผยว่า กระทรวงพลังงานกาตาร์และกระทรวงการขนส่งทางเรือของกรีซ เตือนเรือของประเทศตนไปแล้วว่าหากเป็นไปได้ขอให้หลีกเลี่ยงช่องแคบฮอร์มุซ

“ช่องแคบฮอร์มุซไม่ใช่น่านน้ำที่สุขสงบ แม้ยังไม่มีขีปนาวุธป้วนเปี้ยนก็ตาม” นักวิเคราะห์รายนี้ย้ำ

ซาอูล คาโวนิก นักวิเคราะห์พลังงานจาก MST Marquee กล่าวว่า ราคาน้ำมันจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการตอบโต้ของอิหร่าน แต่ก็อาจไปถึง 100 ดอลลาร์ได้ ถ้าอิหร่านทำจริงอย่างที่เคยขู่เอาไว้ด้วยการเล่นงานผลประโยชน์ของสหรัฐในตะวันออกกลาง รวมถึงคลังน้ำมันในอิรัก หรือคุกคามช่องแคบฮอร์มุซ ช่องแคบแห่งนี้ไม่ได้ใช้ขนส่งเฉพาะน้ำมันจากอิหร่าน แต่ยังรวมถึงน้ำมันจากซาอุดีอาระเบีย อิรัก คูเวต และสมาชิกโอเปคอื่นๆ

ไม่กี่ชั่วโมงหลังสหรัฐโจมตีฐานนิวเคลียร์อิหร่านสามจุดในวันเสาร์ (21 มิ.ย.) ทรัมป์แถลงออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ว่า การโจมตีทำลายล้างเป้าหมายทั้งสามแห่งสำเร็จแล้ว และขู่ว่าจะมีปฏิบัติการทางทหารอีกถ้าอิหร่านไม่สงบศึกกับอิสราเอล

“ตลาดต้องการความแน่นอน แต่สถานการณ์ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า สหรัฐถลำลึกเข้าสู่ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง แต่ผมคิดว่า กองทัพเรือสหรัฐจะได้รับมอบหมายทำให้ช่องแคบฮอร์มุซเปิดได้ต่อไป” โจ เดอลอรา อดีตนักค้าและนักยุทธศาสตร์พลังงานโลกกล่าวและว่า ราคาน้ำมันอาจเดินหน้าเข้าสู่กรอบ 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ก้าวต่อไปของอิหร่าน

ส่วนสถานการณ์ความขัดแย้ง แอรอน เดวิด มิลเลอร์ อดีตนักเจรจาประเด็นตะวันออกกลางทั้งในรัฐบาลเดโมแครตและรีพับลิกัน กล่าวกับรอยเตอร์ส

“ขีดความสามารถทางทหารของอิหร่านอ่อนแรงลงมาก แต่ยังมีวิธีสู้กลับแบบไม่คาดคิดอีกมาก เรื่องนี้ไม่จบลงง่ายๆ”

เอริก ล็อบ จากคณะรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยนานาชาติฟลอริดา กล่าวว่า ยังไม่แน่ชัดว่าอิหร่านจะทำอะไรต่อไป แต่ในบรรดาการตอบโต้ที่อิหร่านจะทำ อาจพุ่งไปที่ “เป้าหมายอ่อน” ของสหรัฐและอิสราเอลทั้งภายในและภายนอกภูมิภาคตะวันออกกลาง

แต่ก็เป็นไปได้ที่อิหร่านจะหวนคืนสู่โต๊ะเจรจา “แม้อยู่ในสถานะเสียเปรียบกว่าเมื่อก่อน” หรือใช้วิธีการทางการทูต อย่างไรก็ตาม ในระยะกลางหลังจากถูกสหรัฐโจมตี อิหร่านแสดงออกเพียงเล็กน้อยว่าอยากอ่อนข้อ