เศรษฐกิจตกต่ำ-การเงินเครียด คิวหย่าจีนแน่น ต้องจ้างตัวแทนกดบัตรคิว

สภาวะเศรษฐกิจจีนที่ตกต่ำบวกกับความตึงเครียดด้านการเงินในครอบครัวส่งผลให้มีคู่สมรสตัดสินใจหย่าร้างกันจำนวนมาก จนคิวจดทะเบียนหย่ารายวันเต็มอย่างรวดเร็ว สร้างกระแสอาชีพเสริมใหม่อย่าง “ผู้รับจ้างกดคิวจดทะเบียนหย่า”
เศรษฐกิจจีน ที่ชะลอตัวลงสร้างความตึงเครียดทางการเงินให้คู่สมรสในประเทศ ส่งผลให้หลายคู่ตัดสินใจแยกทางกัน จำนวนคู่สมรสต้องการหย่าร้างที่เพิ่มขึ้นทำให้การดำเนินการหย่าร้างเป็นไปได้ยากขึ้นเช่นกัน
คิวดำเนินการรายวันที่สามารถกดรับได้จากเว็ปไซต์ของรัฐบาลมีจำนวนจำกัดและมักจะเต็มอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนเริ่มหันมารับจ้างกดคิวเป็นรายได้เสริม ผู้รับจ้างบางรายได้รับค่าจ้างถึง 400 หยวน (ประมาณ 1,800 บาท) ต่อคิว
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนยังไม่ประกาศอัตราการหย่าร้างในปี 2024 อย่างเป็นทางการ แต่ยี ฟูเซียน นักประชากรศาสตร์ชาวจีนและนักวิทยาศาสตร์อาวุโสของมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสันคาดการณ์ว่า อัตราการหย่าร้างจะพุ่งสูงถึง 2.6 ต่อประชากร 1,000 คน สูงกว่าอัตราในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งอยู่ที่ 2.0 และอัตราของทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ที่ 1.5 และ 1.8 ตามลำดับ
ยียังกล่าวอีกว่า “ความยากจนนั้นทำลายความสัมพันธ์ของสามีภรรยา” พร้อมเตือนว่าอัตราการหย่าร้างที่สูงขึ้นทำให้อัตราการเกิดลดลงไปอีก และอาจส่งผลให้วิกฤติประชากรของประเทศแย่ลงเช่นกัน เขาเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจจีนที่ถดถอยและอัตราการว่างงานของเยาวชนที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ “ศักยภาพทางเศรษฐกิจของครอบครัวลดลงและความขัดแย้งภายในครอบครัวเพิ่มขึ้น” ทำให้อัตราการหย่าร้างเพิ่มขึ้น
แม้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 5% ต่อปี แต่ครัวเรือนจีนกลับหันมาออมเงินมากขึ้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของงานและผลกระทบจากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ยังมีอยู่ต่อเนื่อง
การเติบโตของเศรษฐกิจจีนส่วนใหญ่เป็นผลจากความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออก แต่บริษัทจีนซึ่งได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐ ได้ลดพนักงานและลดค่าจ้างไปแล้วเพื่อลดต้นทุน ขณะที่บัณฑิตจบใหม่อีกหลายล้านคนพยายามดิ้นรนหางานทำ
สถานการณ์ความตึงเครียดทางการเงินในปัจจุบันได้รับความสนใจมากขึ้นเมื่อปีที่แล้ว หลังชายคนหนึ่งเกิดความเครียดรุนแรงที่ต้องหย่าร้างกับภรรยา จนตัดสินใจขับรถยนต์พุ่งเข้าชนฝูงชน เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 35 ราย มากที่สุดในรอบกว่า 10 ปีของจีน โดยผู้ต้องหาถูกสั่งตัดสินประหารชีวิตแล้วเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
ไม่นานหลังจากนั้น Qiushi นิตยสารสองเดือนของพรรคคอมมิวนิสต์นำคำปราศรัยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อปี 2016 มาตีพิมพ์ซ้ำ “ครอบครัวกลมเกลียวนำไปสู่สังคมที่มีเสถียรภาพ”
ปัญหาทางการเงินส่งผลให้หย่าร้าง
นักประชากรศาสตร์ชี้ถึงข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าอัตราการหย่าร้างในภูมิภาคใกล้ชายฝั่งที่ร่ำรวยของจีนนั้นต่ำกว่าภูมิภาคตอนในและตอนเหนือที่ยากจนกว่า ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าความตึงเครียดทางเศรษฐกิจมีส่วนเกี่ยวข้องกับอัตราการหย่าร้างที่เพิ่มสูงขึ้น
โจว หมิงฮุยเป็นหนึ่งในผู้ที่หย่าร้างด้วยเหตุผลด้านเศรษฐกิจ โจวจองนัดหมายจดทะเบียนหย่าด้วยตัวเองสำเร็จหลังจากพยายามจองมากว่า 5 ครั้ง ด้วยความกังวลว่าอดีตสามีจะเปลี่ยนใจเรื่องการแยกทางกัน
เธอให้เหตุผลว่า เลือกที่จะหย่าร้างเพราะสามี “ไม่รอบคอบในการลงทุน” และเสียเงินให้ตลาดหุ้นไปกว่า 4 ล้านหยวน (ประมาณ 18 ล้านบาท) ภายในเวลาเพียง 3 ปี ทำให้ทั้งสองจำเป็นต้องขายบ้านเพื่อจ่ายหนี้ แต่ถึงอย่างไร เงินที่ได้มาจากการขายบ้านนั้นสามารถชำระหนี้ได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
“ผู้คนไม่ควรกระตือรือร้นที่จะลงทุนหรือบริโภคมากเกินไปเมื่อเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะถดถอย” โจวแนะนำ
- เกิดธุรกิจรับจ้าง ‘กดจองคิว’
นักประชากรศาสตร์คาดว่า อัตราการหย่าร้างที่ลดลงในยุคโควิด-19 เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากการหยุดให้บริการสาธารณะที่ไม่จำเป็นต่างๆ รวมไปถึงระบบใหม่ที่เริ่มใช้ในปี 2021 ซึ่งกำหนดให้คู่สมรสที่ต้องการหย่าร้างกันนอกศาลจำเป็นต้องรอ 30 วันก่อนจะดำเนินการต่อได้ โดยระยะเวลานี้กำหนดไว้เผื่อให้ทั้งสองฝ่ายตัดสินใจว่าจะยกเลิกหรือดำเนินการต่อ
นอกจากนี้ คู่สมรสยังจำเป็นต้องเข้าเว็บไซต์ของกรมกิจการพลเรือนสองครั้ง ก่อนและหลังระยะเวลา 30 วัน เพื่อจองนัดหมายจดทะเบียนหย่าร้าง แต่ปัจจุบันจำนวนคิวที่สามารถจองได้ต่อวันน้อยกว่าจำนวนคู่สมรสที่ต้องการหย่าร้างกัน การจองนัดหมายจึงเป็นไปได้ยาก
เพราะเหตุนี้ ผู้คนจึงเริ่มหันมารับงานเป็นตัวแทนจองนัดหมายจดทะเบียนหย่าร้างในราคาตั้งแต่ 50 หยวนไปจนถึง 999 หยวน (ประมาณ 227 บาท ถึง 4500 บาท)
ฉิน เมิ่ง พนักงานสำนักงานการแพทย์ที่รับจ้างจองคิวจดทะเบียนหย่าเป็นอาชีพเสริมเผยว่า เธอได้รับเงินค่าจ้างกว่า 5,000 หยวน (ประมาณ 22,000 บาท) ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่เริ่มงานเสริมนี้ในเดือนมี.ค. ซึ่งเกือบเท่ากับครึ่งหนึ่งของเงินเดือนปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีลูกค้าสอบถามเข้ามาหลายรายต่อวันทำให้ฉินคาดการว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นไปอีกในอนาคต
ฉินกล่าวเพิ่มเติมว่า “เศรษฐกิจปัจจุบันไม่ดี แรงกดดันในการทำงานมากขึ้น ทำให้ความขัดแย้งในชีวิตคู่ก็เพิ่มมากขึ้นไปด้วย” เธอเชื่อว่าอัตราการหย่าร้างต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน