'AI avatar' มาแรงในไลฟ์ขายของจีน ขายแทนคน 7 ชั่วโมง ทำเงิน 7 ล้านดอลลาร์

ถึงยุค 'มนุษย์ดิจิทัล' ทำเงินในจีน วงการอินฟลูฯ ไลฟ์ขายของหันใช้ 'AI avatar' แทนคนจริง แค่ 7 ชั่วโมงขายของได้กว่า 7 ล้านดอลลาร์
CNBC รายงานว่า "วงการไลฟ์สดขายของในจีน" กำลังขยับก้าวขึ้นไปอีกขั้น เมื่ออินฟลูเอนเซอร์หลายรายหันมาใช้ "AI Avatar" หรือ "อวตาร" ที่สร้างขึ้นจาก AI ให้มาไลฟ์ขายของแทนคนจริงๆ และตอนนี้ AI avatar ก็สามารถขายของได้มากกว่าคนจริงๆ ไปแล้ว ในไลฟ์ที่เป็นความร่วมมือระหว่างบิ๊กเทค ไป่ตู้ (Baidu) และช่องไลฟ์สตรีมชื่อดังในจีน
ลั่ว หยงเฮ่า ซึ่งเป็นหนึ่งในไลฟ์สตรีมเมอร์รายแรกๆ และดังที่สุดในจีน และคู่หูอย่าง เสี่ยว มู่ ได้ใช้ AI avatar ที่เป็นร่างเสมือนของตัวเองในเวอร์ชั่นดิทัล ไลฟ์ขายของและสนทนาโต้ตอบกับผู้ชมแบบเรียลไทม์เป็นเวลา 6 ชั่วโมงกว่าในวันอาทิตย์ บนแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดทางอีคอมเมิร์ซ "Youxuan" ของไป่ตู้ และสามารถทำรายได้ไปถึง 55 ล้านหยวน (7.65 ล้านดอลลาร์) หรือราว 250 ล้านบาท
ความสำเร็จนี้ใช้เวลาเพียงไม่นานเมื่อเทียบกับไลฟ์ขายของครั้งแรกของพวกเขาบนแพลตฟอร์มนี้เมื่อเดือนก่อน ซึ่งในครั้งนั้นเป็นการไลฟ์ขายของด้วยคนจริงๆ พวกเขาใช้เวลาประมาณกว่า 4 ชั่วโมง และสามารถขายสินค้าพวกคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงอาหาร และสินค้าอื่นๆ ได้ แต่ก็ได้น้อยกว่าครั้งล่าสุดนี้
ลั่วกล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงเพื่อไลฟ์สดขายของ และทำให้เขาทั้งทึ่งและตกใจไปตามๆ กัน
"เอฟเฟกต์ของมนุษย์ดิจิทัลทำให้ผมตกใจ...ผมยังรู้สึกงงๆ อยู่เลย” ลั่วกล่าวกับผู้ติดตาม 1.7 ล้านคนของเขาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเว่ยปั๋ว (Weibo)
ลั่ว หยงเฮ่า เริ่มทำธุรกิจไลฟ์สตรีมมิ่งตั้งแต่เดือนเม.ย. 2020 บนแอปวิดีโอสั้น "โต่วอิน"(Douyin) หรือ Tiktok จีน เพื่อพยายามหาเงินมาใช้หนี้ที่ Smartisan บริษัทสมาร์ทโฟนของเขากำลังประสบปัญหา บัญชีไลฟ์สตรีมของเขาในชื่อ “Be Friends” มีผู้ติดตามเกือบ 24.7 ล้านคน
สำหรับการไลฟ์สดด้วยร่างเสมือนจริงครั้งนี้ เป็น AI avatar ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Generative AI หรือปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้างของค่ายไป่ตู้ ซึ่งเรียนรู้จากวิดีโอที่ถ่ายไว้ตลอด 5 ปี เพื่อเลียนแบบมุกตลกและสไตล์ของพวกเขา
“นี่คือช่วงเวลาของ DeepSeek สำหรับอุตสาหกรรมไลฟ์สตรีมและมนุษย์ดิจิทัลทั้งหมดของจีน” อู๋ เจียหลู หัวหน้าฝ่ายวิจัยบริษัท บี เฟรนด์ส โฮลดิ้ง กล่าวกับซีเอ็นบีซี
DeepSeek ซึ่งเป็นเสมือน OpenAI เวอร์ชันของจีน ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับนักลงทุนทั่วโลกในเดือนม.ค. ปีนี้ ด้วยการอ้างว่าสามารถแข่งขันกับ ChatGPT ได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก และใช้แนวทางการพัฒนาแบบโอเพนซอร์ส โดยปัจจุบันกำลังมีความร่วมมือกับหลายบริษัทในจีน หรือกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาด้าน AI อย่างร้อนแรงขึ้นในจีน
AI avatar สามารถลดต้นทุนได้อย่างมาก เนื่องจากบริษัทต่างๆ ไม่จำเป็นต้องจ้างทีมงานผลิตขนาดใหญ่หรือสตูดิโอเพื่อไลฟ์สตรีม อวตารดิจิทัลยังสามารถสตรีมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดพักด้วย
“ที่ผ่านมาเราค่อนข้างตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้มนุษย์ดิจิทัลในการทำไลฟ์สตรีมมาตลอด” อู๋กล่าว โดยย้ำว่าบริษัทเคยพยายามทดลองใช้มนุษย์ดิจิทัลหลายประเภทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ ไป่ตู้สามารถนำเสนอโซลูชั่นมนุษย์ดิจิทัลที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับช่วงเริ่มต้นของการไลฟ์สตรีมอีคอมเมิร์ซเมื่อราว 5 - 6 ปีก่อน
อุตสาหกรรมไลฟ์สตรีมโตแรง
การชอปปิงผ่านไลฟ์สตรีมได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน หลังจากที่การระบาดของโควิดเป็นปัจจัยกดดันให้ธุรกิจต่างๆ ต้องหาช่องทางการขายอื่นๆ แทน ทำให้ผู้คนจำนวนมากหันมาใช้ไลฟ์สตรีมขายของเพื่อหารายได้จากค่าคอมมิชชันและระบบของขวัญเสมือนจริง ท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในจีน
จากข้อมูลของ Worldpanel และ Bain & Company พบว่า การไลฟ์สตรีมสร้างยอดขายได้มากมายบน Douyin เมื่อปีที่แล้ว จนทำให้แอปติ๊กต๊อกจีน "แซงหน้า" บริษัทอีคอมเมิร์ซดั้งเดิมอย่าง JD.com กลายเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน และกินส่วนแบ่งการตลาดของ Alibaba ซึ่งเป็นผู้เล่นหลักในตลาดด้วย ทำให้ปัจจุบันทั้ง JD.com รวมถึง Taobao ของอาลีบาบา ต่างก็มีช่องทางเว็บพอร์ทัลการขายผ่านไลฟ์สตรีม
ทางด้านบริษัทอื่นๆ รวมถึงยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Tencent ก็ได้พัฒนาเครื่องมือเพื่อสร้าง "บุคลากรดิจิทัล" ที่สามารถใช้เป็นผู้ประกาศข่าวได้ ขณะที่ในช่วงปลายปี 2023 ธุรกิจหลายแห่งได้เริ่มทดลองใช้ "มนุษย์เอไอเสมือนจริง" ในการไลฟ์สตรีมช่วงวันหยุดชอปปิงวันคนโสดที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์เตือนว่า ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายผ่านการใช้มนุษย์เอไอไลฟ์สตรีม "มักจะมีอัตราการคืนสินค้าสูง" เนื่องจากมักเป็นการซื้อตามอารมณ์
อู๋กล่าวด้วยว่า ความท้าทายใหญ่ที่สุดในการใช้มนุษย์เสมือนจริงไลฟ์สตรีม ไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีอีกต่อไป แต่เป็นการปฏิบัติตามระเบียบและข้อกำหนดของแพลตฟอร์ม โดยมนุษย์ดิจิทัลจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบเกี่ยวกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์ ในขณะที่แพลตฟอร์มการถ่ายทอดสดรายใหญ่ๆ อาจมีกฎที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น Douyin ได้ออกข้อจำกัด หากมนุษย์เอไอไม่สามารถโต้ตอบกับผู้ชมแบบเรียลไทม์ได้จริงๆ
แม้การไลฟ์สตรีมด้วย AI avatar ครั้งต่อไปของลั่วจะยังไม่ได้ถูกกำหนด แต่อู๋ก็คาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ และเชื่อว่าในอนาคตจะมีการใช้มนุษย์ดิจิทัลไลฟ์สตรีมได้อย่างง่ายดายในหลายภาษาเพื่อเข้าถึงผู้ใช้ภายนอกประเทศจีน
ที่มา: CNBC