เปิดเกมรุก ‘ทุนจีน’ เผาเงิน ชิงบัลลังก์ Food Delivery ฮ่องกง ถอนทัพใน 10 เดือน!

เปิดเกมรุก ‘ทุนจีน’ เผาเงิน ชิงบัลลังก์ Food Delivery ฮ่องกง ถอนทัพใน 10 เดือน!

เปิดเกมรุก Keeta บริษัทลูกของ Meituan จากจีน เขย่าบัลลังก์ Food Delivery ฮ่องกง บีบ Deliveroo ที่เคยเป็นเจ้าถิ่นถอนตัวใน 10 เดือน ด้วยกลุยทธ์ ‘เผาเงิน’ แต่ธุรกิจจะอยู่ได้นานแค่ไหน?

สมรภูมิการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดกำลังร้อนระอุไปทุกอุตสาหกรรม รวมถึงธุรกิจ “ฟู้ดเดลิเวอรี่” ใน ฮ่องกง ที่บัลลังก์แอปเจ้าถิ่นที่เคยครองเบอร์ 1 ต้องสั่นคลอน เพราะ “ทุนจีน” กำลังเข้ามาตีตลาดด้วยกลยุทธ์ “เผาเงิน”

Keeta บริษัทลูก Meituan เบียดเจ้าถิ่นถอนตัว

“Keeta” แอปพลิเคชันจัดส่งอาหารที่ได้รับการสนับสนุนจากทุนจีนอย่าง “เหม่ยถวน” (Meituan) จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดการจัดส่งอาหารในฮ่องกงได้ภายในเวลาเพียง 10 เดือน โดยใช้กลยุทธ์ที่ดุดัน ทั้งการมอบส่วนลดที่น่าดึงดูดใจและการทำการตลาดเชิงรุก ซึ่งช่วยให้เอาชนะคู่แข่งรายเดิมไปได้อย่างรวดเร็ว 

เปิดเกมรุก ‘ทุนจีน’ เผาเงิน ชิงบัลลังก์ Food Delivery ฮ่องกง ถอนทัพใน 10 เดือน!

ในช่วงต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เดลิเวอรู (Deliveroo) แอปส่งอาหารชื่อดังระดับโลกสัญชาติอังกฤษ ได้ประกาศถอนตัวออกจากตลาดฮ่องกงอย่างกะทันหัน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่าย การตัดสินใจครั้งนี้มีสาเหตุหลักมาจากการที่ Deliveroo ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาและโปรโมชันกับ Keeta ซึ่งเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ได้ 

เปิดเกมรุก ‘ทุนจีน’ เผาเงิน ชิงบัลลังก์ Food Delivery ฮ่องกง ถอนทัพใน 10 เดือน!

นับตั้งแต่เปิดตัวในฮ่องกงเมื่อเดือนพ.ค. 2023 Keeta ก็สามารถช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดการจัดส่งอาหารในฮ่องกงได้อย่างรวดเร็ว โดย ภายในเดือนมี.ค. 2024 Keeta มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 44% และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากที่ Deliveroo ถอนตัวออกจากตลาดไปแล้ว

แต่คำถามสำคัญคือ การเติบโตแบบก้าวกระโดดที่อาศัยการ "เผาเงิน" หรือการทุ่มเงินลงทุนจำนวนมากเพื่อเร่งการเติบโตเช่นนี้ จะสามารถยั่งยืนได้จริงหรือไม่ หรือว่าวิกฤติทางการเงินอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต?

กลยุทธ์การ "เผาเงินสด" ของ Keeta

ด้วยการสนับสนุนทางการเงินจำนวนมหาศาลจาก Meituan ซึ่งเป็นบริษัทแม่ผู้ทรงอิทธิพลในวงการอีคอมเมิร์ซจีน Keeta ได้เลือกใช้กลยุทธ์ที่เน้น "การเติบโตก่อนผลกำไร" ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแคมเปญ "เผาเงินสด" อย่างแท้จริง โดย Keeta ได้ใช้ส่วนลดที่รุนแรงและน่าดึงดูดใจอย่างมากเพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่คู่แข่งอย่าง Deliveroo ไม่สามารถทำตามได้

เปิดเกมรุก ‘ทุนจีน’ เผาเงิน ชิงบัลลังก์ Food Delivery ฮ่องกง ถอนทัพใน 10 เดือน!

นอกจากนี้ Keeta ยังมุ่งเป้าไปที่กลุ่มพนักงานส่งอาหารด้วย โดยเสนอ ค่าจ้างที่สูงกว่า แพลตฟอร์มคู่แข่งอย่างชัดเจน ทำให้พนักงานส่งของจำนวนมากหันมาทำงานกับ Keeta ส่งผลให้แพลตฟอร์มคู่แข่งต่าง ๆ เช่น Deliveroo ต้องเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นอย่างหนัก ทั้งจากการแข่งขันด้านราคาและการขาดแคลนพนักงานส่งของ

การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Keeta นั้นเกิดจากการใช้ ส่วนลดจำนวนมาก   อย่างไรก็ตาม มีรายงานบางฉบับอ้างว่า Keeta ใช้กลยุทธ์ที่สร้างแรงกดดัน โดยขู่ว่าจะขึ้นค่าคอมมิชชัน สำหรับการสั่งซื้อกลับบ้านจาก 25% เป็น 28% หากร้านอาหารปฏิเสธที่จะลงนามในข้อตกลงพิเศษ ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระให้กับร้านค้าที่ต้องการรักษาส่วนต่างกำไรไว้

ธุรกิจ ‘เผาเงิน’  จะอยู่ได้นานแค่ไหน?

แม้ว่าการกำหนดราคาที่รุนแรงของ Keeta จะช่วยกระตุ้นการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงแรก แต่ก็ยังคงมีคำถามเกี่ยวกับ ความยั่งยืนในระยะยาว ของแนวทางที่ต้องอาศัยเงินลงทุนจำนวนมหาศาลจากบริษัทแม่ 

ล่าสุด Keeta ได้เริ่ม ลดค่าจ้างพนักงานส่งอาหาร ลงอย่างเห็นได้ชัด จากประมาณ 40 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อออร์เดอร์ เหลือเพียง 20 ดอลลาร์ฮ่องกง การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เกิดข้อสังเกตจากนักวิเคราะห์ว่า Keeta อาจกำลังเริ่มลดต้นทุนแรงงาน หลังจากที่ใช้เงินทุนจาก Meituan ไปจำนวนมากเพื่อพยายามสร้างผลกำไรให้ได้ การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์นี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า แม้การ "เผาเงิน" อาจให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะสั้น แต่ Keeta ก็อาจเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในอนาคตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตและการทำกำไร

 

 

อ้างอิง campaignasia