วิเคราะห์ ‘อิหร่าน’ เหลือไพ่กี่ใบ เพื่อจบสงครามกับ 'อิสราเอล'

วิเคราะห์ ‘อิหร่าน’ เหลือไพ่กี่ใบ เพื่อจบสงครามกับ 'อิสราเอล'

นักวิเคราะห์ชี้ ‘อิหร่าน’ เหลือไพ่ไม่มากแล้ว ในการยุติสงครามกับ 'อิสราเอล' จะหันไปโจมตีฐานทัพสหรัฐก็มีความเสี่ยงสูง หรือจะสู้จนย่อยยับกันไปข้างหนึ่ง ก็เกิดคำถาม อิหร่านจะมีแรงพยุงตัวเองถึงจุดนั้นหรือไม่?

นักวิเคราะห์เผยกับอัลจาซีรา ว่า อิหร่านยังไม่มีทางออกที่ชัดเจนเพื่อยุติสงครามกับอิสราเอล ซึ่งอาจดึงให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วมเร็วๆ นี้ และนำไปสู่หล่มความขัดแย้งใหม่ในตะวันออกกลาง

นักวิเคราะห์บอกว่า อิสราเอลโจมตีอิหร่านโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และอาจถึงขั้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองได้

เป้าหมายเหล่านั้นทำให้อิหร่านมีความยากลำบากในการเดินหน้ายุติความขัดแย้งโดยเร็ว และอิหร่านมีจุดยืนว่าจะไม่เจรจาขณะที่กำลังถูกโจมตี สร้างความกังวลว่าอิหร่านอาจถูกบีบบังคับให้ยอมจำนนต่อเงื่อนไขของสหรัฐ และอิสราเอล

หรืออิหร่านจะคาดหวังว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะสามารถโน้มน้าวอิสราเอลได้ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อทรัมป์ในการหลีกเลี่ยงเข้าไปพัวพันสงครามในดินแดนอันไกลโพ้น แต่ล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ได้แสดงท่าทีว่าอาจหันไปโจมตีอิหร่าน และย้ำว่าอิหร่านไม่สามารถครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้

ฮามิดเรซา อาซิส ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอิหร่าน จากสถาบันคลังสมอง สภาตะวันออกกลางเพื่อกิจการระดับโลก กล่าวว่า

“ถ้าสหรัฐตระหนักถึงความเร่งด่วนในการลดความขัดแย้ง และจัดการโน้มน้าวอิสราเอลให้ยุติปฏิบัติการทางทหารได้ อิหร่านก็จะมีต้นทุนทางสงครามเพิ่มขึ้น และความจริงคือ อิหร่านมีเป้าหมายที่จะยุติ ไม่ใช่ขยายความขัดแย้งด้วย จึงมีแนวโน้มสูงว่าอิหร่านอาจตกลงหยุดยิงหรือทำข้อตกลงทางการเมือง”

อิหร่านเหลือไพ่ไม่มาก

ตามทฤษฎี อิหร่านสามารถกลับสู่โต๊ะเจรจา และลงนามข้อตกลงขณะยังสู้รบได้

นักวิเคราะห์เผยกับอัลจาซีรา ว่า แต่การเลือกทางนั้น อิหร่านอาจถูกบีบให้ยอมยุติโครงการนิวเคลียร์ เปิดให้ศัตรูสามารถเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองได้โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา

ด้านเรซา เอช. อักบารี นักวิเคราะห์เกี่ยวกับอิหร่าน และตะวันออกกลาง, แอฟริกาเหนือ และการจัดการโครงการเอเชียใต้ จากสถาบัน War and Peace Reporting บอกว่า สถานการณ์ดังกล่าวไม่อาจเป็นไปได้

การเจรจานิวเคลียร์ระหว่างอิหร่าน และสหรัฐถึงทางตัน เมื่อทรัมป์เรียกร้องให้อิหร่านยุติโครงการนิวเคลียร์ทั้งหมด ซึ่งปกติทุกประเทศมีสิทธิที่จะใช้นิวเคลียร์เพื่อสันติตามสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ และอิหร่านก็ลงนามในสัญญานี้

เมื่อการเจรจาไม่คืบหน้า ทรัมป์จึงเตือนให้อิหร่านยอมจำนนโดยเร็ว เพื่อทำข้อตกลง ไม่เช่นนั้นอาจต้องเผชิญกับผลกระทบที่ร้ายแรงมากขึ้น ซึ่งบ่งบอกเป็นนัยว่าอาจถึงขั้นเปลี่ยนแปลงระบอบปกครอง

เนการ์ มอร์ทาซาวี ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอิหร่านจาก Center for International Policy (CIP) กล่าวว่า อิหร่านมีทางเลือกที่ดีไม่มาก

มอร์ทาซาวี เชื่อว่า อิหร่านแทบไม่ต้องสูญเสียอะไรเลยในการตอบโต้อิสราเอล แต่ย้ำว่า กลยุทธ์ดังกล่าวอาจไม่ได้ช่วยหาทางออกให้อิหร่านพ้นความขัดแย้งได้

“ถ้าอิหร่านไม่ตอบโต้หลังถูกโจมตี [ทางการอิหร่าน] คิดว่า [การโจมตีอิสราเอล] จะทำได้ยากขึ้น และฉันคิดว่าพวกเขาคิดถูก แต่ทุกครั้งที่ [อิหร่าน] ตอบโต้ ก็ได้เปิดโอกาสให้อิสราเอลโจมตีพวกเขาอีกครั้งด้วย”

ไพ่โจมตีสหรัฐ มีความเสี่ยงสูง?

ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา อิทธิพลในภูมิภาคของอิหร่านเผชิญกับการสูญเสียครั้งใหญ่ ทำให้อิหร่านมีความอ่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์มาก

อิหร่านพึ่งพาพันธมิตรมานาน ทั้งกลุ่มติดอาวุธในเลบานอนอย่างฮิซบอลเลาะห์ เพื่อป้องกันการโจมตีโดยตรงจากอิสราเอล แต่ฮิซบอลเลาะห์ก็อ่อนแอลงอย่างมากหลังสู้รบในสงครามเต็มรูปแบบกับอิสราเอลเมื่อปีที่แล้ว

นอกจากนี้ อิหร่านยังสูญเสียพันธมิตรอีกรายเมื่อ อดีตประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล อัสซาด ถูกโค่นอำนาจ เมื่อเดือนธ.ค.2567

บาร์บารา สลาวิน ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอิหร่าน และนักวิจัยจากสถาบันคลังสมอง Stimson Centre บอกว่า อิหร่านยังคงสามารถโจมตีฐานทัพสหรัฐ และบุคลากรของสหรัฐได้โดยตรง ผ่านเครือข่ายกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนในภูมิภาคได้ โดยเฉพาะในอิรัก

เธอเชื่อว่ากลุ่มที่อิหร่านสนับสนุนในอิรักอาจใช้วิธีการ "ยิงเตือน" เพื่อกระตุ้นให้สหรัฐตอบสนอง และเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตน

ขณะที่ฐานเสียงชาตินิยม “อเมริกาต้องมาก่อน” ของทรัมป์ยังคงคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อการมีส่วนร่วมของสหรัฐในสงครามต่างประเทศ โดยประชาชนมองว่าไม่เกี่ยวข้องกับความกังวลภายในประเทศ

นอกจากนี้ ความรู้สึกต่อต้านการแทรกแซงสงครามของสหรัฐก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หากกองทัพสหรัฐได้รับอันตรายอันเนื่องมาจากการโจมตีใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งกับอิหร่าน

สลาวินเตือนว่า

“เมื่อคิดว่าคนอเมริกันจะต้องมาตายในเหตุการณ์นี้ จะยิ่งทำให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นถกเถียง [ในสหรัฐ] มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน"

อิหร่านยังสามารถทำให้ชาวอเมริกันรู้สึกถึงผลกระทบของสงครามต่อเศรษฐกิจได้ด้วย โดยอิหร่านได้ขู่ว่าจะโจมตีการขนส่งผ่านเรือพาณิชย์ในช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการค้าน้ำมันโลก และทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น แต่สลาวินมองว่า ความเคลื่อนไหวนี้จะทำให้เศรษฐกิจอิหร่านเสียหายไม่แพ้กัน

สลาวิน เสริมว่า อิหร่านก็พึ่งพาการขนส่งผ่านเรือพาณิชย์ในช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างอิหร่าน และโอมาน และเป็นหนึ่งในเส้นทางขนส่งทางเรือที่สำคัญที่สุดของโลก สำหรับการขนส่งน้ำมัน

สลาวินยังได้บอกอีกว่า ทางเลือกที่ดีสุดของอิหร่านคือ การควบคุมสงครามกับอิสราเอล และรอให้ความขัดแย้งยุติลง และเตือนว่า ความเคลื่อนไหวใดๆ ที่จะยกระดับการโจมตีเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ แม้จะทำแค่เตือนก็ถือเป็นการเดิมพันที่เสี่ยงมาก

ด้านนักวิเคราะห์อักบารี กล่าวว่า อิหร่านยังคงระมัดระวัง ไม่เปิดโอกาสให้สหรัฐอ้างเหตุผลในการเข้าร่วมสงครามเพื่อช่วยอิสราเอลได้ง่ายๆ

“ผู้นำของอิหร่านรู้ดีว่าการดึงสหรัฐเข้าสู่สงครามมากขึ้น อาจก่อให้เกิดหายนะต่อทั้งระบอบการปกครอง และอาจเกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรม [ซึ่งมีความเสี่ยงที่อาจทำลาย] ทุกสิ่งที่อิหร่านสร้างขึ้นในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา” อักบารี กล่าว

ลุ้นจุดจบสงคราม 

จุดยืนทางการของอิหร่านคือ การสร้างความเสียหายทางการเมือง การทหาร และความเสียหายทางทรัพย์สินต่ออิสราเอลที่ยุยงให้เกิดสงคราม

จุดยืนนี้ได้รับการสนับสนุนจากฮัสซัน อาห์มาเดียน ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเตหะราน ที่บอกว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลอาจยุติสงครามได้ หากอิสราเอลรู้สึกถึงผลกระทบจากวิกฤติที่เขาก่อ

“ชาวอิหร่านมั่นใจมากว่าพวกเขาสามารถสร้างความเจ็บปวดจากการตอบโต้ได้มากพอที่จะทำให้อิสราเอลหยุด [การโจมตี]” อาห์มาเดียน กล่าวกับอัลจาซีรา

ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่า อิหร่านสร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของอิสราเอลมากเพียงใด เนื่องจากอิสราเอลห้ามไม่ให้สื่อรายงานข้อมูลดังกล่าว

นอกจากนี้ เป็นเรื่องยากที่จะทราบว่าอิหร่านจะสามารถยื้อสงครามกับอิสราเอลไว้ได้นานเพียงใด

ด้านสลาวิน บอกว่า อิสราเอลเองอาจจะต้องพยายามโจมตีอิหร่านเป็นเวลานานโดยไม่พึ่งสหรัฐ และอ้างอิงถึงสื่อแห่งหนึ่ง รายงานว่า อิสราเอลมีเครื่องบินสกัดกั้นภัยคุกคามไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้อ่อนไหวต่อการโจมตีในระยะไกลของอิหร่านได้

ความท้าทายที่ทั้งสองฝ่ายเผชิญนี้ อาจกระตุ้นให้พวกเขายุติการสู้รบในที่สุด ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่อิหร่านคาดหวังอยู่

“ตอนนี้ อิหร่านกำลังพยายามดิ้นรน และหาทางผ่านเรื่องนี้ให้ได้” สลาวิน กล่าว และว่า “ไม่มีอำนาจภายนอกใดที่จะช่วยอิหร่านได้ ขึ้นอยู่กับพวกเขา [ที่จะช่วยเหลือตัวเอง]”

 

 

อ้างอิง: Al Jazeera

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์