'ข้าวยากหมากแพง' สะเทือน 'ญี่ปุ่น' เงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 2 ปี

'ข้าวยากหมากแพง' สะเทือน 'ญี่ปุ่น' เงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 2 ปี

'ราคาข้าวญี่ปุ่น' แพงขึ้นกว่าเท่าตัวในเดือนพ.ค. ขึ้นแรงสุดในรอบกว่า 50 ปี ขณะที่ดัชนีเงินเฟ้อพุ่งแตะดับสูงสุดในรอบ 2 ปี

ราคาข้าวในญี่ปุ่นเดือนพ.ค. ปรับตัวแพงขึ้นมากกว่าเท่าตัวแตะระดับ 101.7% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว สูงกว่าในเดือนเม.ย. ที่เพิ่มขึ้น 98.4% และยังนับเป็นการเพิ่มขึ้นที่มากที่สุดในรอบกว่า 50 ปี ท่ามกลางดัชนีเงินเฟ้อเดือนเดียวกันที่พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023 ส่งสัญญาณงานยากสำหรับรัฐบาลญี่ปุ่นที่กำลังจะมีการเลือกตั้งวุฒิสภาในเดือนก.ค. นี้
 
ราคาข้าวญี่ปุ่นซึ่งเป็นอาหารหลักของชาติและยังเป็นสินค้าอ่อนไหวทางการเมือง กลายเป็นปัญหาสำคัญที่ถูกจับจ้องมาพักใหญ่แล้ว รัฐบาลต้องระบายข้าวในคลังสำรองยุทธศาสตร์ออกมาบรรเทาปัญหาราคาแพง 

ดัชนีเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core inflation) ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานในเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.7% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.6% และสูงกว่าเดือนเม.ย. ที่เพิ่มขึ้น 3.5% ในขณะที่ดัชนีเงินเฟ้อทั่วไปขยายตัวขึ้น 3.5% และนับเป็นเดือนที่ 38 ติดต่อกันแล้วที่เงินเฟ้อญี่ปุ่นสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)   

มาร์เซลลา โชว์ นักกลยุทธ์การตลาดโลกของ JP Morgan Asset Management ระบุว่าราคาข้าวคิดเป็นสัดส่วนถึงประมาณ 50% ของดัชนีเงินเฟ้อญี่ปุ่น และแนวโน้มเงินเฟ้อในอนาคตก็ขึ้นอยู่กับราคาอาหารเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะข้าว มาตรการล่าสุดของรัฐบาลที่มุ่งลดราคาข้าว อาจกระตุ้นการใช้จ่ายของครัวเรือนในเศรษฐกิจจริงได้ หากการลดราคานั้นขยายไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปที่มีส่วนผสมของข้าว และส่งผลให้ราคาตามร้านอาหารลดลง 

ทางด้านเคอิ โอคามุระ ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Neuberger Berman กล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดไม่ใช่เรื่องที่คาดไม่ถึงเมื่อพิจารณาจากราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางอาจส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แรงกดดันด้านราคาจากสินค้าในกลุ่มอาหารน่าจะลดลง

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ที่ประชุมบีโอเจมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.5% โดยบีโอเจระบุว่าการส่งต่อของการปรับขึ้นค่าจ้างที่กระทบต่อราคาขายยังคงดำเนินต่อไป และทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น 

อย่างไรก็ตาม คาซึโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการบีโอเจกล่าวกับรัฐสภาญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า บีโอเจจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป "เมื่อเรามีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะเข้าใกล้ระดับ 2% หรืออยู่ในระดับนั้น" ซึ่งบีโอเจคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะลดลงในอนาคต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ท่ามกลางจีดีพีประเทศที่หดตัวลง 0.2% ในไตรมาสแรก 

ตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดนี้ออกมาในขณะที่รัฐบาลเสียงข้างน้อยของนายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะ และพรรคฝ่ายค้านกำลังถกเถียงกันถึงวิธีบรรเทาทุกข์จากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้พรรครัฐบาลแพ้เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาอย่างเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009

ทาโร ไซโตะ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจของสถาบัน NLI Research Institute  กล่าวว่า “เงินเฟ้อของญี่ปุ่นอยู่ในระดับสูงจากต้นทุนราคาอาหาร ราคาข้าวที่พุ่งสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลในวันนี้ทำให้แทบไม่มีข้อกังขาเลยว่าเงินเฟ้อจะเป็นวาระสำคัญสำหรับการเลือกตั้งในเดือนหน้า”

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นกำลังจะมีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในวันที่ 20 ก.ค. ซึ่งอิชิบะจึงให้คำมั่นว่าจะแจกเงินสดให้กับครัวเรือน ในขณะที่พรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้ญี่ปุ่นลดภาษีขายเป็นครั้งแรก เพื่อระงับความไม่พอใจของประชาชนจากราคาข้าวที่พุ่งสูงขึ้น แม้ว่ารัฐบาลจะได้ใช้มาตรการต่างๆ มากมายเพื่อลดราคาข้าวไปแล้ว ซึ่งช่วยพยุงความนิยมของรัฐบาลจากจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์มาได้