IMF เตือนเศรษฐกิจยุโรปเสี่ยงหยุดนิ่ง ถ้ายังไม่รวมเป็นหนึ่งเดียว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกมาเตือนว่า “เศรษฐกิจยุโรปกำลังเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะหยุดนิ่ง” หากไม่มีการลงมือแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเรื่องการเติบโตที่ช้าลง การลงทุนที่ซบเซา และความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น

IMF ระบุว่า ความตึงเครียดทางการค้า และความต้องการสินค้าที่ลดลงกำลังฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก

แถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ชี้ว่า เขตยูโรคาดว่าจะเติบโตเพียง 0.8% ในปี 2568 เท่านั้น แม้ว่าในปัจจุบันอัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำและใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็ตาม

IMF เรียกร้องให้มีการ "ผลักดันอย่างเด็ดขาด" สำหรับการขยายตลาดยุโรป โดย IMF ชี้ว่าการไม่เป็นเอกภาพกำลังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางนวัตกรรม และการเติบโตของธุรกิจในภูมิภาค และนำไปสู่ต้นทุนที่บริษัทต่างๆ ต้องแบกรับจากอุปสรรคที่มีอยู่ ซึ่งเทียบเท่ากับการจ่ายภาษีนำเข้าสูงถึง 44% สำหรับสินค้า และ 110% สำหรับบริการ  

อย่างไรก็ดี หากสามารถลดช่องว่างเหล่านี้ได้ผ่านการปรับกฎระเบียบให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน การปฏิรูปตลาดทุน และการส่งเสริมให้แรงงานสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรี IMF เชื่อว่าจะช่วย เพิ่ม GDP ของ EU ได้ถึง 3% ภายใน 10 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ IMFได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสถานการณ์การคลังของยุโรป โดยระบุว่า เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในด้านการป้องกันประเทศ การดูแลประชากรสูงวัย และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นประเทศที่มีงบประมาณเหลือควรลงทุนเพิ่ม 

สำหรับประเทศสมาชิกที่มีหนี้สินสูง IMF ชี้ว่าอาจต้องเผชิญกับการ "ควบรวมกิจการที่เจ็บปวด" หรือมาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวด พร้อมเพิ่มงบประมาณรวมของสหภาพยุโรปขึ้น 50% เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกันได้

ขณะเดียวกัน  IMF  ก็มองเห็นความเสี่ยงที่สภาพแวดล้อมทางธุรกิจจะแย่ลงสำหรับบริษัทในยุโรปที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐ

อ้างอิง Bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์