อิสราเอลลั่น! ปล่อยให้ผู้นำสูงสุดอิหร่านอยู่ต่อไปไม่ได้

รมว.กลาโหมอิสราเอลลั่น “ปล่อยให้ผู้นำสูงสุดอิหร่านอยู่ต่อไปไม่ได้” ไม่กี่วันหลังมีรายงานว่า รัฐบาลวอชิงตันยับยั้งแผนลอบสังหาร
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน นายอิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล กล่าวในวันพฤหัสบดี (19 มิ.ย.) ปล่อยให้ อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน อยู่ต่อไปไม่ได้ หลังเกิดเหตุอิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีโรงพยาบาลโซโรกา ในเมืองเบียร์เชอบา ทางภาคใต้ของอิสราเอล มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 40 คน
“คาเมเนอีประกาศอย่างเปิดเผยว่า เขาต้องการทำลายล้างอิสราเอล เขานั่นเองที่เป็นคนออกคำสั่งถล่มโรงพยาบาล คนแบบนี้ไม่ควรปล่อยให้อยู่ต่อไป” แคตซ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเมืองฮอลอน ใกล้กรุงเทลอาวีฟ
ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีคาเมเนอี
“ผมเคยพูดไปชัดแล้ว ไม่มีใครได้รับการยกเว้น” แต่ไม่วายเสริมว่า “ในการทำสงครามผมเชื่อว่า เราต้องเลือกคำพูดอย่างระมัดระวัง และกระทำการอย่างแม่นยำ”
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐรายหนึ่งเผยกับเอเอฟพีในวันอาทิตย์ (15 มิ.ย.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พบว่า “อิสราเอลมีแผนเก็บผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่เอาด้วย เราแจ้งอิสราเอลไม่ให้ทำ”
เนทันยาฮูไม่ยืนยันหรือปฏิเสธข้ออ้างดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของผู้นำสูงสุด ผู้ไม่เคยออกจากอิหร่านเลยนับตั้งแต่ได้อำนาจ ต้องเก็บเป็นความลับและดูแลความปลอดภัยสูงสุด
เนทันยาฮูเองก็ไม่ได้พูดออกสื่อว่า อิสราเอลพยายามโค่นคาเมเนอี กล่าวเพียงว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเตหะราน
ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวว่า ความพยายามเปลี่ยนรัฐบาลโดยการใช้กำลังทหาร จะนำไปสู่ “ความโกลาหล”
อิหร่านนั้นปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ มีรายงานว่า อิหร่านกำลังเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้ถึงระดับ 60% สูงมากจาก 3.67% ที่กำหนดไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ที่ทรัมป์ถอนตัวออกไป แต่การเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่านยังห่างไกลจากเกณฑ์ 90% สำหรับทำหัวรบนิวเคลียร์
ส่วนอิสราเอลยังคงคลุมเครือเรื่องคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง แต่สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์มกล่าวว่า อิสราเอลมีหัวรบนิวเคลียร์ 90 ลูก






