‘อันวาร์’ โว เจรจาภาษีกับทรัมป์ ‘ยอดเยี่ยม’ ฝั่งไทยเผชิญ 'มรสุมการเมือง'

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานถ้อยแถลงของ "นายอันวาร์ อิบราฮิม" นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วันนี้ (19 มิ.ย.) ว่า การเจรจาการค้าของมาเลเซียกับสหรัฐอเมริกาเพื่อลดอัตราภาษีศุลกากรดำเนินไปด้วยดี

นายอันวาร์ เปิดเผยว่า เขาได้รับข้อความเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีจากนายซาฟรุล อาซิซ รัฐมนตรีกระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรม และนายอามีร์ ฮัมซาห์ อาซิซาน รองรัฐมนตรีกระทรวงการคลังว่าการประชุมกับเลขานุการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ "เป็นไปอย่างยอดเยียม"

"รัฐมนตรีของเราไปอยู่ที่วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อหยิบยกประเด็นภาษีศุลกากรนี้ไปคุยกับสหรัฐ" 

มาเลเซียถูกเก็บภาษีศุลกากร 24% เมื่อเดือนเม.ย. ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศระงับเป็นเวลา 90 วัน และเก็บภาษีเบสไลน์ 10% จากประเทศส่วนใหญ่ ขณะนี้มาเลเซียพยายามเจรจาเพื่อขอลดภาษีศุลกากรให้ต่ำกว่า 10% สำหรับอุตสาหกรรมที่สำคัญต่อเศรษฐกิจทั้งสองประเทศ

นายอันวาร์ กล่าวว่า การเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐเป็น "ความท้าทายสำคัญ" เนื่องจากมาเลเซียเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับห่วงโซ่อุปทานโลก ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์จากมาเลเซียประมาณ 60% ส่งออกไปยังสหรัฐเพียงประเทศเดียว

เจรจาภาษีไทยน่าจับตาหลังเผชิญปัญหาการเมือง

สำหรับการเจรจาภาษีของประเทศไทยได้เริ่มขึ้นแล้วผ่านการพูดคุยในรูปแบบออนไลน์ โดยนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะทีมเจรจาฝ่ายไทย เปิดเผยเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) ว่าได้เริ่มนับหนึ่งในการเจรจากับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เป็นที่เรียบร้อย 

อย่างไรก็ตาม หลังจากความปั่นป่วนทางการเมืองที่เกิดขึ้นจาก "คลิปเสียง" การเจรจากันระหว่างนายกรัฐมนตรีเเพทองธาร ชินวัตร และสมเด็จฯ ฮุน เซน เกี่ยวกับปัญหาชายเเดนไทย-กัมพูชาที่เพิ่มจะเผยแพร่ออกมา และการประกาศลาออกจากการเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาลของภูมิใจไทยทำให้นักวิเคราะห์จำนวนมากกังวลว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองนี้จะทำให้ประสิทธิภาพในการเจรจาของประเทศไทยกับสหรัฐลดน้อยลง

มากไปกว่านั้น "ความเชื่อมั่นของนักลงทุน" ลดลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมาต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปีและมาปิดตลาดต่ำกว่า 1,100 จุดเมื่อวานนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองดังกล่าว