ยอด 'ขอรับสวัสดิการว่างงานซ้ำ' สหรัฐสูงสุดรอบเกือบ 4 ปี สะท้อนจ้างงานชะลอตัว

"กระทรวงแรงงานสหรัฐ" เผย ตัวเลขสวัสดิการว่างการของคนอเมริกันลดลง 5,000 รายอยู่ที่ระดับ 245,000 ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 มิ.ย. ขณะที่ "ยอดผู้ขอสวัสดิการซ้ำ" อยู่ที่ 1.95 ล้านราย สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2021
เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับความท้าทายรอบด้านทั้งปัญหาจากการขึ้นภาษีศุลกากรที่มีแนวโน้มกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนในประเทศและความผันผวนของราคาน้ำมันจากสงครามระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐออกมาเปิดเผย "ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงาน" หรือ U.S. Jobless Claims ในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 14 มิ.ย. ว่า ลดลง 5,000 ราย คงเหลืออยู่ที่ 245,000 รายซึ่งเป็นการลดลงเล็กน้อยแต่ก็ยังทำให้ตัวเลขในภาพรวมอยู่ในระดับสูง
ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับประมาณการของนักเศรษฐศาสตร์จากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจของบลูมเบิร์ก นอกจากนี้คำขอสวัสดิการว่างงานแบบ "ต่อเนื่อง" ก็ลดลงเช่นเดียวกันมาอยู่ที่ระดับ 1.95 ล้านรายในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ก็ยังเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 หรือราว 3 ปีกับอีก 6 เดือน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการจ้างงานในสหรัฐชะลอตัวและประชาชนใช้เวลานานขึ้นในการหางานใหม่
ทั้งนี้ ข้อมูลมักจะผันผวน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดหรือเมื่อโรงเรียนหยุดพักร้อน โดยรวมแล้ว คำขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงการชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของตลาดแรงงาน
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 4 สัปดาห์ของคำขอใหม่ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยลดความผันผวน เพิ่มขึ้นเป็น 245,500 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนส.ค. 2023
ก่อนปรับตามปัจจัยตามฤดูกาล คำขอเบื้องต้นลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรัฐอิลลินอยส์ แคลิฟอร์เนีย และจอร์เจียมีการลดลงมากที่สุด
ข้อมูลในสัปดาห์นี้ชี้ให้เห็นถึงการชลอตัวของอุปสงค์ในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ รายงานแยกต่างหากทำเนียบขาวเมื่อวันพุธแสดงให้เห็นว่าการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ของสหรัฐ ลดลงในเดือนพ.ค. ถึงอัตราที่ช้าที่สุดตั้งแต่เริ่มต้นของการระบาดใหญ่
ท้ายที่สุดตัวเลข Jobless Claims เป็นข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาเร็วที่สุด ทำให้นักลงทุนและนักวิเคราะห์ใช้เป็นตัวชี้วัดเบื้องต้นของทิศทางเศรษฐกิจ ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจเป็นสัญญาณของการเข้าสู่ภาวะถดถอย
อ้างอิง: Bloomberg







