‘ทรัมป์’ เมินอุ้มดอลลาร์ เสี่ยงเกิด ‘วงจรอุบาทว์’ ในเศรษฐกิจสหรัฐ

‘ทรัมป์’ เมินอุ้มดอลลาร์ หรือนี่อาจเป็นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการ?
นักวิเคราะ์ชี้เสี่ยงเกิด ‘วงจรอุบาทว์’ ในเศรษฐกิจสหรัฐ หากต่างชาติถอนเงินกลับประเทศ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ไม่มีตัวชี้วัดใดจะชัดเจนเท่า “ค่าเงินดอลลาร์” ที่สะท้อนว่านักลงทุนทั่วโลกไม่เห็นด้วยกับนโยบายของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” เลย เพราะตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ค่าเงินดอลลาร์ได้อ่อนค่าลงไปแล้วกว่า 10% เมื่อเทียบกับเงินยูโร ปอนด์ และฟรังก์สวิส อีกทั้งยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ ทั่วโลกอีกด้วย
แต่ทว่า สิ่งที่น่าประหลาดในในสถานการณ์นี้ คือการที่ทรัมป์เฉยเมยต่อการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ซึ่งสวนทางกับท่าทีที่เปิดเผยกับนักข่าวหรือสมาชิกรัฐสภาว่าจะสนับสนุน "เงินดอลลาร์ให้แข็งค่า" เพราะในทางปฎิบัติทรัมป์ไม่ได้ดำเนินการใด ๆ เพื่อหยุดยั้งการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เลย
เหตุใดรัฐบาลทรัมป์ถึงไม่สนใจ ดอลลาร์อ่อนค่า?
ตลาดมองว่ารัฐบาลต้องการให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อไป เพื่อช่วยพยุงภาคการผลิตของสหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้น โดยมองว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้ผู้ผลิตในสหรัฐสามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าราคาถูกได้ดีขึ้น ถึงขนาดมีกระแสข่าวลือว่ารัฐบาลอาจจะหยิบยกประเด็นอัตราแลกเปลี่ยนมาเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาภาษีศุลกากรกับคู่ค้าด้วย
แม้ว่าทรัมป์จะไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้โดยตรง แต่การที่รัฐบาลไม่ได้รีบร้อนออกมาแก้ข่าวที่มีการคาดการณ์ว่า รัฐบาลกำลังผลักดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรกับไต้หวันและเกาหลีใต้ ก็พอจะบ่งชี้อะไรบางอย่างได้
ดอลลาร์ร่วง จุดชนวน ‘วงจรอุบาทว์’
สตีเฟน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาจาก GSFM ชี้ว่าสถานการณ์นี้เป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐต้องมีการจัดหาเงินทุนประจำปี (anuual financing) สูงลิ่วกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากการขาดดุลงบประมาณมาหลายปี และส่วนใหญ่ก็มาจากการกู้ยืมต่างประเทศ
ประเด็นที่น่ากังวลคือ เมื่อค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เจ้าหนี้ต่างประเทศเหล่านี้จะขาดทุน ถ้าหากถอนเงินลงทุนที่อยู่ในรูปดอลลาร์กลับไปเป็นสกุลเงินของประเทศ สิ่งเหล่านี้นำมาสู่ความเสี่ยง หากค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงเรื่อย ๆ เจ้าหนี้ต่างประเทศเหล่านี้อาจไม่มั่นใจและลดการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ถึงจุดหนึ่ง ถ้าสถานการณ์แย่ลงมากพอ อาจเกิด "วงจรอุบาทว์" ขึ้นได้ นั่นคือ เมื่อเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและรัฐบาลยังคงขาดดุล ต่างชาติจะเริ่มถอนเงินกลับประเทศ ทำให้รัฐบาลสหรัฐต้องกู้เงินด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งยิ่งจะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก และปัญหาการคลังก็แย่ลงไปอีก ความกังวลเหล่านี้ก็จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
คาด ‘ดอลลาร์’ อ่อนค่าต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์หลายสำนักคาดการณ์ตรงกันว่า ค่าเงินดอลลาร์จะยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นเงินยูโร เยน ปอนด์ ฟรังก์สวิส ดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์ออสเตรเลีย
กลุ่มที่มองว่าดอลลาร์จะอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงที่สุดคือ Morgan Stanley ซึ่งคาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะร่วงลงไปสู่ระดับที่เคยเห็นครั้งสุดท้ายในช่วงการระบาดของโควิด-19 ในปีหน้า และ Goldman Sachs ที่ประเมินว่าค่าเงินดอลลาร์ในปัจจุบันนั้น "สูงเกินจริง" ไปถึง 15% แล้ว
ในขณะที่นักลงทุนชื่อดังอย่าง Paul Tudor Jones คาดการณ์ว่า ปัญหาการคลังสหรัฐอาจฉุดค่าเงินดอลลาร์ลงมาอีกถึง 10% ภายใน 12 เดือนข้างหน้า
อ้างอิง Bloomberg







