คู่ค้าสหรัฐเลี่ยงรับ ‘ดอลลาร์’ หันใช้ ‘หยวน-ยูโร’ ลดความเสี่ยงค่าเงินผันผวน

‘ดอลลาร์’ เสื่อมอิทธิพลในการค้าโลก หลังคู่ค้าสหรัฐเลี่ยงรับดอลลาร์
เหล่าธุรกิจหันใช้ ‘หยวน-ยูโร’ ลดความเสี่ยงค่าเงินผันผวน เสี่ยงถูกท้าทายด้วย ‘กลุ่มการค้าใหม่’ ในอนาคต
สำนักข่าบลูมเบิร์กรายงานความเคลื่อนไหวของ “ดอลลาร์” ที่กำลังเผชิญความท้าทายในการค้าโลก เมื่อธุรกิจทั่วโลกพยายามลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ หลังจากที่ในปีนี้ ดอลลาร์อ่อนค่าลงประมาณ 8% เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ตามข้อมูลจากดัชนี Bloomberg
Paula Comings หัวหน้าฝ่ายซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจาก US Bancorp เผยว่า คู่ค้าในต่างประเทศแสดงความประสงค์ที่จะไม่รับการชำระเงินเป็นสกุลเงิน "ดอลลาร์” อีกต่อไป หลังจากที่ได้หารือกับผู้นำเข้าจากสหรัฐ โดยได้มีการร้องขอให้ชำระเงินเป็นสกุลอื่นแทน อาทิ เงินยูโร เงินหยวนของจีน เงินเปโซเม็กซิโก และเงินดอลลาร์แคนาดา เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ในอนาคต
"ก่อนหน้านี้ ลูกค้าจำนวนมากไม่กล้าเสนอสกุลเงินอื่น เพราะเงินดอลลาร์ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในสายตาของซัพพลายเออร์ แต่ในปัจจุบัน ผู้ขายในต่างประเทศกลับมองว่า 'ขอแค่เป็นสกุลเงินของเราก็พอ'"
ธุรกิจสหรัฐหันจ่าย ‘หยวน-ยูโร’
แนวโน้มการไม่ใช้เงินดอลลาร์ในการชำระเงินข้ามประเทศเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีตัวอย่างจากหลายธุรกิจ
- บริษัทไม้แห่งหนึ่งจากภูมิภาคมิดเวสต์ของสหรัฐได้ตัดสินใจแปลงเงินสดจากสกุลเงินดอลลาร์ไปเป็นเงินยูโรก่อนที่จะชำระค่าไม้เนื้อแข็งที่นำเข้าจากยุโรป ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากวิธีการเดิมที่เคยใช้เงินดอลลาร์เพียงอย่างเดียวในการชำระเงิน การตัดสินใจนี้ส่วนหนึ่งได้รับแรงจูงใจจากส่วนลด 2% ที่ซัพพลายเออร์ในยุโรปเสนอให้สำหรับการชำระเงินด้วยยูโร
- ผู้ค้าปลีกเครื่องใช้ในบ้านรายหนึ่งที่นำเข้าสินค้าจากจีน ได้เจรจาเงื่อนไขใหม่กับซัพพลายเออร์ และเตรียมที่จะชำระเงินในครั้งต่อไปเป็นสกุลเงินหยวน
- บริษัทอาหารของสหรัฐที่สั่งซื้ออุปกรณ์จากอิตาลี ก็ตกลงที่จะชำระเงินด้วยสกุลเงินยูโรเช่นกัน ทำให้ได้รับอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีขึ้นสำหรับการสั่งซื้อที่มีมูลค่าประมาณ 463,120 ดอลลาร์
Karl Schamotta หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ Corpay บริษัทผู้ให้บริการชำระเงินข้ามพรมแดนในโตรอนโต กล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงนี้ยากที่จะวัดผลในทันที แต่ในตลาดต่าง ๆ ตั้งแต่เอเชียตะวันออกไปจนถึงละตินอเมริกา มีผู้ส่งออกหลายคนที่ตัดสินใจที่จะกำหนดสัญญาเป็นเงินยูโร เงินหยวน หรือแม้แต่สกุลเงินท้องถิ่นของตนเองมากขึ้น”
ดอลลาร์เสี่ยงถูกท้าทายจาก 'กลุ่มการค้าใหม่'
เงินดอลลาร์ยังคงมีบทบาทสำคัญในระบบการค้าโลกในตอนนี้ สะท้อนจากใบแจ้งหนี้การค้า (trade invoicing) ที่มีการระบุสกุลเงินที่ใช้ในการชำระค่าสินค้าและบริการระหว่างประเทศ
นักวิเคราะห์จาก Citigroup Inc. นำโดย Dirk Willer และ Adam Pickett ชี้ให้เห็นในรายงานล่าสุดว่า แม้ดอลลาร์จะครองตำแหน่งนี้อยู่ แต่สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงไป หากมี “กลุ่มการค้าใหม่” จากภูมิภาคละตินอเมริกาและเอเชีย ที่อาจรวมตัวกันเพื่อทำการค้าและชำระเงินกันเองด้วยสกุลเงินอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ดอลลาร์ ซึ่งอาจได้รับแรงหนุนจากสงครามการค้าที่สหรัฐเป็นผู้ริเริ่ม
สัดส่วน ‘ดอลลาร์’ ในการค้าโลก
จากข้อมูลล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ชี้ให้เห็นว่า เงินดอลลาร์ยังคงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการค้าโลก โดยเฉพาะในทวีปอเมริกา สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกเกือบทั้งหมดนั้นถูกระบุและชำระเป็นเงินดอลลาร์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปี 2561
สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ข้อมูลชี้ว่าการส่งออกยังคงผูกติดกับเงินดอลลาร์อย่างมาก โดยประมาณ 75% ของมูลค่าการส่งออกใช้สกุลเงินดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองมาที่ยุโรป สถานการณ์กลับแตกต่างออกไปอย่างชัดเจน เนื่องจากยุโรปมีการค้าขายกันเองภายในภูมิภาคเป็นหลัก ทำให้สัดส่วนการส่งออกที่ใช้เงินดอลลาร์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการพึ่งพาสกุลเงินท้องถิ่น หรือเงินยูโรที่เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มประเทศยุโรป
นั้งนี้ ต้องรอดูว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะปรากฏในข้อมูลทางการเมื่อใด แต่ Paula Comings ตั้งข้อสังเกตว่า การที่คู่ค้าในต่างประเทศหันมาทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินท้องถิ่นมากขึ้นนั้น "อาจกำลังสั่นคลอนเงินดอลลาร์" ก็เป็นได้
อ้างอิง Bloomberg







