แอร์อินเดียตก ‘ยอดเคลม’ แตะ 1.5 หมื่นล้านบาท 'สูงที่สุดในประวัติการณ์อินเดีย'

เหตุ ‘เครื่องบิน Air India’ ตก จนคร่าชีวิตผู้โดยสารกว่า 240 ราย อาจกลายเป็นเคลมประกันภัยการบินที่ ‘แพงที่สุดในประวัติศาสตร์อินเดีย’ คาดแตะ 15,000 ล้านบาท ต้นทุนประกันภัยของสายการบินในอินเดีย อาจพุ่งสูงขึ้นอีกด้วย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อุบัติเหตุเครื่องบินตก ที่ร้ายแรงที่สุดของอินเดียในรอบกว่าทศวรรษ กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อ “อุตสาหกรรมประกันภัยการบิน” และอาจกลายเป็นหนึ่งใน “ค่าสินไหมที่แพงที่สุด” ของประเทศ โดยประเมินว่ามีมูลค่าราว 475 ล้านดอลลาร์ หรือราว 15,000 ล้านบาท
“การเคลมประกันภัยการบินครั้งนี้ อาจเป็นหนึ่งในครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอินเดีย” รามาสวามี นารายานัน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการบริษัท General Insurance Corporation of India ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้ความคุ้มครองแก่สายการบิน Air India กล่าว
นารายานันระบุว่า การเคลมค่าสินไหมสำหรับตัวเครื่องบินและเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 125 ล้านดอลลาร์ หรือราว 4,000 ล้านบาท
ขณะที่การเคลมความรับผิดต่อการสูญเสียชีวิตของผู้โดยสารและบุคคลอื่น ๆ คาดว่าจะอยู่ที่ราว 350 ล้านดอลลาร์ หรือราว 11,000 ล้านบาท ซึ่งรวมแล้วสูงกว่าค่าเบี้ยประกันภัยรายปีของอุตสาหกรรมการบินในอินเดียปี 2023 ถึง 3 เท่า ตามข้อมูลจาก GlobalData
ผลกระทบทางการเงินจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในวันพฤหัสบดี (12 มิ.ย.) ซึ่งคร่าชีวิตผู้โดยสาร 241 ราย และผู้อื่นอีกจำนวนหนึ่งในพื้นที่หนาแน่นของเมือง Ahmedabad ทางตะวันตกของอินเดีย จะส่งแรงกระเพื่อมไปทั่วตลาดประกันภัยการบินทั่วโลก และยังมีแนวโน้มจะทำให้ต้นทุนประกันภัยของสายการบินในอินเดีย พุ่งสูงขึ้นอีกด้วย
ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้ระบุว่า เบี้ยประกันภัยในอุตสาหกรรมการบินของอินเดีย คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะในช่วงเวลาปัจจุบันหรือเมื่อถึงรอบการต่ออายุกรมธรรม์ โดยยอดเงินชดเชยจากการเคลมประกันของ “สายการบินแอร์อินเดีย” อาจเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีชาวต่างชาติเสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนี้ และการคำนวณค่าสินไหม จะเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของประเทศต้นทางของผู้เสียชีวิต ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนาม เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ตามที่นารายานันระบุ บริษัทประกันจะดำเนินการชดเชยค่าสินไหมสำหรับตัวเครื่องบินก่อน จากนั้นจึงพิจารณาความรับผิดต่อชีวิตและทรัพย์สิน “การชำระค่าสินไหมในส่วนของความรับผิดจะใช้เวลาสักระยะหนึ่ง” เขากล่าว
ผลกระทบต่อตลาดภายในประเทศจะถูกลดทอนลงบางส่วน เพราะทั้งสองบริษัทมีรายได้จากเบี้ยประกันภัยด้านการบินเพียงประมาณ 1% ของรายได้รวมทั้งหมด และส่วนใหญ่ได้โอนความเสี่ยงเหล่านี้ไปให้บริษัทรับประกันภัยต่อในต่างประเทศ ตามข้อมูลจาก GlobalData
โดยรวมแล้ว บริษัทประกันภัยในประเทศ ได้ส่งต่อความเสี่ยงจากประกันภัยด้านการบินมากกว่า 95% ของเบี้ยประกันภัยที่รับมาโดยตรง ไปยังบริษัทรับประกันภัยต่อในต่างประเทศแล้ว
“ด้วยเหตุนี้ ภาระทางการเงินจึงจะตกอยู่กับบริษัทรับประกันภัยต่อ ในต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งจะนำไปสู่การที่ตลาดบริษัทรับประกันภัยต่อ และประกันภัยด้านการบิน มีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น” สวารัป กุมาร ซาฮูร์ นักวิเคราะห์อาวุโสด้านประกันภัยของ GlobalData กล่าว
อ้างอิง: bloomberg







