สว. ‘ปรับแก้’ ร่างภาษีทรัมป์ ชะลอเก็บภาษีแก้แค้น ตัดเครดิตภาษีอีวี

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า วุฒิสภาฝ่ายรีพับลิกันวางแผนที่จะแก้ไขแพ็กเกจงบประมาณขนาดใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดย “ลดเพดานการลดหย่อนสูงสุด” สำหรับภาษีรัฐ และท้องถิ่น รวมทั้งชะลอ และลดความเข้มงวดของ “ภาษีแก้แค้น” ต่อบริษัทและนักลงทุนต่างชาติจากประเทศที่สหรัฐเห็นว่า กำลังเก็บภาษีบริษัทอเมริกันอย่างไม่เป็นธรรม

ภาษีแก้แค้นนี้มีชื่อทางการว่า “มาตรา 899” ซึ่งถูกร่างโดยรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร และได้รับการสนับสนุนจากทำเนียบขาว เพื่อเป็นการตอบโต้ประเทศในยุโรปหลายประเทศ อย่างแคนาดา ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ ที่เก็บภาษีบริษัทสหรัฐ ในลักษณะที่กลุ่มนิติบัญญัติเหล่านี้มองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ

วุฒิสภาจะเลื่อนการเก็บภาษีแก้แค้นนี้ไปจนถึงปี 2027 สำหรับผู้ยื่นภาษีตามปีปฏิทิน และจะปรับเพิ่มอัตราภาษีขึ้นปีละ 5% จนถึงเพดานสูงสุดที่ 15%

ภาษีดังกล่าวก่อให้เกิดความกังวลในวอลล์สตรีทว่า อาจทำให้บุคคล และบริษัทต่างชาติเข้าลงทุนในสหรัฐได้ยากขึ้นอย่างมาก เนื่องจากมุ่งเป้าไปยังพันธมิตรที่เก็บภาษีบริการดิจิทัลกับบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐ รวมถึงประเทศที่บังคับใช้ภาษีขั้นต่ำทั่วโลกกับบริษัทต่างๆ ด้วย

ด้าน “สก็อตต์ เบสเซนต์” รัฐมนตรีคลัง ออกมาปกป้องร่างกฎหมายนี้ โดยให้การต่อสภาคองเกรสว่า ภาษีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศต่างชาติ รีดภาษีเกินควรจากบริษัทข้ามชาติของสหรัฐ ซึ่งอาจสูงถึงหลายแสนล้านดอลลาร์

“ภาษีนี้เปรียบเสมือนการเปลี่ยนตลาดทุนของสหรัฐ ให้กลายเป็น ‘อาวุธทางกฎหมาย’ โดยท้าทายการเปิดเสรีของตลาดทุนสหรัฐ” จอร์จ ซาราเวลอส หัวหน้าฝ่ายวิจัยสกุลเงินของธนาคาร Deutsche Bank AG ระบุในรายงานเมื่อเดือนที่ผ่านมา

ส่วนธนาคาร JPMorgan Chase คาดการณ์ว่า ภาษีนี้อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง เช่น หุ้นในกลุ่มบริการทางการเงิน และสาธารณูปโภค รวมถึงจะทำให้ความกังวลที่ยังคงอยู่เกี่ยวกับการถือครองดอลลาร์ เพิ่มขึ้นอีกด้วย

นอกจากร่างกฎหมายภาษีแก้แค้นแล้ว ผู้นำรีพับลิกันในวุฒิสภายังเตรียมจะตัดงบประมาณสำหรับ “โครงการประกันสุขภาพสำหรับคนยากจน และผู้พิการ” (Medicaid) ให้มากกว่าร่างที่ฝ่ายรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรเคยเสนอไว้ในร่างกฎหมาย เพื่อช่วยเสริมงบประมาณลดหย่อนภาษีครั้งใหญ่ของทรัมป์ 

ไม่เพียงเท่านั้น ร่างกฎหมายในวุฒิสภาจะ “ยกเลิกเครดิตภาษีรถยนต์ไฟฟ้า” มูลค่า 7,500 ดอลลาร์ด้วย ภายใน 180 วันหลังจากที่ร่างกฎหมายมีผลบังคับใช้ 

สำหรับ “มหาวิทยาลัยเอกชนในสหรัฐ” ร่างกฎหมายของวุฒิสภา ได้ปรับลดอัตราภาษีจากรายได้กองทุนสำรองของมหาวิทยาลัยเอกชนอย่างมาก จากที่สภาผู้แทนราษฎรเสนอไว้สูงสุดถึง 21% เหลือเพดานเพียง 8% เท่านั้น

ในการ “ยกเว้นภาษีค่าทิป และค่าทำงานล่วงเวลา” ร่างกฎหมายวุฒิสภากำหนดขีดจำกัดใหม่สำหรับยกเว้นภาษีค่าทิปสูงสุด 25,000 ดอลลาร์ต่อคน และค่าทำงานล่วงเวลาสูงสุด 12,500 ดอลลาร์ต่อคน หรือ 25,000 ดอลลาร์ต่อคู่สมรส 
 

อ้างอิง: bloomberg, bloomberg(2)

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์