G7 ตั้งเป้าลดการพึ่งพาจีน เสริมความมั่นคงห่วงโซ่อุปทานแร่หายาก

“G7” จ่อกระจายแหล่งจัดหาแร่ธาตุสำคัญ เพื่อลดการพึ่งพาจีนที่ครองส่วนแบ่งการผลิตแร่หายากเกือบ 70% ของโลก หลังปักกิ่งตอบโต้ภาษีสหรัฐด้วยการเข้มงวดการส่งออกแร่ธาตุหายาก 7 ประเภท
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (17 มิ.ย.) ว่า กลุ่มประเทศร่ำรวย 7 ประเทศของโลกหรือ G7 กำลังทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในการจัดหาแร่ธาตุสำคัญ ท่ามกลางความพยายามลดการพึ่งพาจีนในการพัฒนาโทรศัพท์มือถือไปจนถึงกังหันลม
ผู้นำกลุ่ม G-7 มีเป้าหมายที่จะตกลงเห็นชอบในแถลงการณ์ในการประชุมที่คานานัสกิส ประเทศแคนาดา เพื่อจัดตั้ง "แผนปฏิบัติการ" ในการกระจายแหล่งจัดหาโลหะสำคัญและส่งเสริม "การลงทุนอย่างเร่งด่วนขนาดใหญ่" ในโครงการต่างๆ ตามเอกสารร่างที่บลูมเบิร์กได้มา
แถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้กล่าวถึงจีนโดยตรงแต่กลุ่มผู้นำกล่าวถึง "ภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจของเรา" จากแนวทางปฏิบัติในปัจจุบันของภาคส่วนนี้ ซึ่งปัจจุบันจีนผลิตแร่ธาตุหายากของโลกกว่า 70%
"เรามีผลประโยชน์ร่วมกันด้านความมั่นคงของชาติและเศรษฐกิจ ซึ่งขึ้นอยู่กับการเข้าถึงห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญที่มีความยืดหยุ่นและถูกควบคุมโดยหลักการตลาด" ตามเอกสารร่างซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะได้รับการรับรองจากผู้นำ
"นโยบายและแนวทางปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามกลไกตลาดในแร่ธาตุสำคัญ เป็นภัยคุกคามต่อความสามารถของเราในการจัดหาแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด รวมถึงธาตุแร่หายากที่จำเป็นสำหรับแม่เหล็ก ซึ่งมีความสำคัญยิ่งต่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรม"
บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของชาติตะวันตกที่เกิดจากการพึ่งพาจีนในการจัดหาทรัพยากรสำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตหลากหลายสาขานั้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนตั้งแต่เดือนเม.ย. เมื่อจีนตอบโต้ภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ด้วยการเข้มงวดการควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายากเจ็ดประเภท ซึ่งรวมไปถึงแกลเลียม เจอร์เมเนียม แกรไฟต์ และแอนติโมนี
"เรารับทราบความจำเป็นในการทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มการลงทุนในโครงการแร่ธาตุสำคัญที่มีความรับผิดชอบภายในกลุ่ม G-7 และทั่วโลก" เอกสารร่างระบุ
"จำเป็นต้องมีการลงทุนอย่างเร่งด่วนด้วยขนาดโครงการที่ใหญ่พอเพื่อรักษาความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานในอนาคตและให้มั่นใจว่าโครงการเหมืองแร่และการแปรรูปที่มีแนวโน้มดีสามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ เช่น ความล่าช้าในกระบวนการอนุญาตและการอนุมัติ การจัดการตลาด และความผันผวนของราคา"
แถลงการณ์ดังกล่าวยังสนับสนุนให้ธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคีและผู้ให้กู้ภาคเอกชน "จัดหาเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับการลงทุนในโครงการแร่ธาตุสำคัญที่เป็นไปตามมาตรฐาน รวมถึงการจัดหาเงินทุนในรูปแบบใหม่"
ทั้งนี้ กลุ่ม G-7 ประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น เยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และอิตาลี รวมทั้งสหภาพยุโรป







