จีนยัง ‘ไม่ส่งแร่หายาก’ ให้สหรัฐ วัตถุดิบผลิตเครื่องบินรบ-ขีปนาวุธ

จีนยัง ‘ไม่ส่งแร่หายาก’ ให้สหรัฐ วัตถุดิบผลิตเครื่องบินรบ-ขีปนาวุธ

แม้ ‘ลอนดอนดีล’ จะช่วยคลี่คลายบางประเด็นการค้าจีน-สหรัฐ แต่ไฟขัดแย้งเรื่อง ‘แร่หายาก–ชิป AI’ ยังลุกโชน จีนยังไม่เปิดทางส่งออกแร่สำคัญ ขณะสหรัฐ ยังแข็งกร้าวเรื่องเทคโนโลยี โอกาสเจรจาบรรลุผลก่อนเส้นตาย 10 ส.ค. อาจเริ่มเลือนรางหรือไม่

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า แม้สหรัฐกับจีนบรรลุข้อตกลงสงบศึกการค้าในกรุงลอนดอน แต่ยังไม่สามารถคลี่คลายปมขัดแย้ง “การส่งออกแร่หายาก” ได้ โดยจีนยังไม่ให้คำมั่นว่า จะอนุมัติการส่งออกแร่หายากชนิดพิเศษบางประเภท ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตเครื่องบินขับไล่และระบบขีปนาวุธของสหรัฐ

ขณะเดียวกัน สหรัฐยังคงใช้มาตรการควบคุมการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงไปยังจีน โดยให้เหตุผลด้านความกังวลว่า เทคโนโลยีดังกล่าวอาจถูกนำไปใช้ในทางการทหารได้

ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะประนีประนอมในประเด็นดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าความตึงเครียดยังคงอยู่ แม้จะมีความพยายามผ่อนคลายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐส่งสัญญาณว่า กำลังพิจารณาขยายเวลาการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไปอีก 90 วัน จากเส้นตายเดิมวันที่ 10 สิงหาคม ที่ได้ตกลงกันไว้ในกรุงเจนีวาเมื่อเดือนก่อน 

ด้านสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐยืนยันว่า จะไม่มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างการผ่อนคลายข้อจำกัดส่งออกชิป AI ให้จีน กับการเปิดทางให้สหรัฐ เข้าถึงแร่หายากจากจีน

สำหรับ “จีน” เป็นประเทศที่เป็นผู้นำในการผลิตแร่หายากของโลก และแทบจะผูกขาดกระบวนการกลั่นและแปรรูปแร่เหล่านี้ไว้โดยสิ้นเชิง

ก่อนหน้านั้น ในการพูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อสัปดาห์ก่อนระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ทรัมป์เผยว่า สหรัฐจะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าจากจีนไว้ที่ 55% ขณะที่จีนตกลงจะเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐ ในอัตรา 10%

ด้านนักวิเคราะห์จีนแสดงความเห็นใน “เชิงลบ” เกี่ยวกับโอกาสที่จะเกิดความคืบหน้าครั้งสำคัญในการเจรจาก่อนถึงเส้นตายวันที่ 10 สิงหาคม ที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ที่กรุงเจนีวา

“แม้อาจมีการยอมความกันชั่วคราวในบางประเด็น แต่ปัญหาหลักอย่างเรื่องความไม่สมดุลทางการค้านั้น ไม่สามารถแก้ไขได้ภายในระยะเวลานี้ และอาจจะไม่ทันภายในวาระที่เหลือของทรัมป์ด้วยซ้ำ” หลิว เว่ยตง ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์จีน–สหรัฐ จากอเมริกาศึกษา แห่งสถาบันสังคมศาสตร์จีนกล่าว

แหล่งข่าวคนหนึ่งที่รับทราบผลการเจรจาในกรุงลอนดอนเปิดเผยว่า การขยายเส้นตายออกไปหลังวันที่ 10 สิงหาคม อาจเปิดโอกาสให้รัฐบาลทรัมป์มีเวลามากขึ้นในการจัดเตรียมข้อกฎหมายทางเลือก เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการขึ้นภาษีกับจีนภายใต้มาตรา 301 ของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ ในกรณีที่ทรัมป์แพ้คดีความที่กำลังต่อสู้ในศาลสหรัฐในปัจจุบัน

ไรอัน แฮสส์ ผู้อำนวยการศูนย์จีน John L. Thornton แห่งสถาบัน Brookings ชี้ว่า ประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อยุติ สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากที่รัฐบาลทรัมป์เผชิญ ในการผลักดันวาระด้านการค้ากับจีน เนื่องจากจีนมีอำนาจควบคุมแร่หายากไว้ในมือ และพร้อมจะใช้สิ่งนี้เป็นเครื่องต่อรองกับวอชิงตัน

“ทีมของทรัมป์อาจเจ็บตัวอยู่หลายครั้ง กว่าจะยอมรับความจริงว่า พวกเขาไม่อาจบรรลุข้อตกลงทางการค้าฉบับใหม่กับจีน ที่เน้นตอบสนองผลประโยชน์ฝ่ายทรัมป์แต่เพียงฝ่ายเดียวได้อีกต่อไป” แฮสส์กล่าว

อ้างอิง: reuters