‘อิสราเอล-อิหร่าน’ ถล่มต่อเนื่องวันที่ 3 ไม่เห็นสัญญาณแผ่ว

‘อิสราเอล-อิหร่าน’ ถล่มต่อเนื่องวันที่ 3 ไม่เห็นสัญญาณแผ่ว

อิสราเอลและอิหร่านยังคงถล่มกันอย่างหนักต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ประชาคมโลกกังวลมากขึ้นทุกขณะว่าความขัดแย้งจะขยายวงไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน อิสราเอลแถลงในวันอาทิตย์ (15 มิ.ย.) ว่าอิหร่านใช้ขีปนาวุธโจมตีระลอกใหม่ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากอิสราเอลถล่มกรุงเตหะรานอย่างต่อเนื่อง หน่วยกู้ภัยอิสราเอลเผยว่า นับตั้งแต่วันศุกร์ (13 มิ.ย.) มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 คน บาดเจ็บอีก 380 คน

ฝ่ายอิหร่านรายงานว่า เกิดระเบิดทั่วประเทศเมื่อวันเสาร์ (14 มิ.ย.) รวมทั้งที่โรงงานก๊าซธรรมชาติแห่งหนึ่งเชื่อมโยงกับแหล่งก๊าซใหญ่ “เซาท์พาร์ส” สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) รายงานว่า การโจมตีหลายครั้งต่อโรงงานเสริมสรรถนะยูเรเนียมของอิหร่านในเมืองอิสฟาฮาน ทางตอนใต้ของกรุงเตหะรานสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง

ตลาดหุ้นเปิดวันแรก ร่วงตามคาด

ตลาดหุ้นตะวันออกกลางส่วนใหญ่รวมถึงอิสราเอลซื้อขายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มถล่มทางอากาศ ดัชนีEGX 30 ตลาดหลักทรัพย์อียิปต์ ร่วงลงถึง 7.7%, ดัชนี 35 ตลาดหุ้นเทลอาวีฟ เปิดตลาดลดลง 1.5%, ดัชนีTadawul ตลาดหลักทรัพย์ซาอุดีอาระเบีย ลดลง 2%

ราคาน้ำมันที่ขยับตัวสูงขึ้นหนุนให้หุ้นซาอุดีอารามโค บริษัทใหญ่สุดในตลาด ราคาสูงขึ้นขณะที่หุ้นตัวอื่นๆ ลดลง

อ่านใจอิสราเอล-อิหร่าน

ความเป็นปรปักษ์ระหว่างสองประเทศกลายเป็นความขัดแย้งรุนแรงที่สุดในวันศุกร์ เมื่ออิสราเอลชิงลงมือโจมตีโรงงานนิวเคลียร์และฐานทัพอิหร่านก่อน เพื่อแสดงให้เห็นว่า อิสราเอลยังครองความเป็นเจ้าทางอากาศ และตอกย้ำข้อจำกัดของรัฐบาลเตหะรานในการระดมตอบโต้ให้ได้ผล

สำหรับอิหร่าน บลูมเบิร์กระบุว่า นั่นคือภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่มีอยู่จริง กล่าวคือ อิหร่านจะอ่อนแอให้ใครเห็นไม่ได้ แต่ทางเลือกก็มีจำกัด จะใช้กลุ่มตัวแทนก็ไม่ได้เพราะถูกอิสราเอลทำลายความสามารถในการโจมตีลงไปแล้ว

วันอาทิตย์ถล่มต่อ

ในวันอาทิตย์ (15 มิ.ย.) อิหร่านยิงขีปนาวุธตอบโต้เพิ่มเติม บางลูกพุ่งเป้าโครงสร้างพื้นฐานและโรงงานไฟฟ้ารอบเมืองไฮฟา อิสราเอลแนะนำชาวบ้านให้อยู่ในห้องหลบภัยครู่หนึ่ง ขณะที่กองทัพพยายามสกัดขีปนาวุธ

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่า กองทัพของเขา “จะโจมตีทุกพื้นที่และทุกเป้าหมายของระบอบอยาตอลลาห์” ขณะที่อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดกล่าวในวันเสาร์ว่า อิสราเอลจะ “ไม่มีวันอยู่รอดปลอดภัย” หลังโจมตีอิหร่าน

ความขัดแย้งส่งผลให้ตลาดหุ้นโลกร่วงลงในวันนั้น ราคาน้ำมันพุ่ง 7% นักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ดัชนี MSCI ของประเทศพัฒนาแล้วตกมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.

ยกเลิกเจรจานิวเคลียร์

อิหร่านยกเลิกการหารือนิวเคลียร์กับสหรัฐที่โอมานในวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ต้องการทำข้อตกลงเพื่อควบคุมนิวเคลียร์อิหร่านให้ได้แลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร กล่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่า “สงครามในอิสราเอล-อิหร่านควรยุติ”

ทรัมป์หารือปูติน

เมื่อวันเสาร์ ทรัมป์กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ได้หารือกันทางโทรศัพท์ถึงวิกฤติครั้งนี้นานราวหนึ่งชั่วโมงสำนักข่าวทาสส์รายงานอ้างข้อมูลจากยูริ อูชาคอฟ เจ้าหน้าที่ทำเนียบเครมลินว่าผู้นำรัสเซียประณามปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลต่ออิหร่าน และแสดงความกังวลอย่างหนักว่าอาจบานปลาย “จนส่งผลคาดการณ์ไม่ได้ต่อทั้งภูมิภาค”

เพื่อนบ้านอิหร่านกังวลเช่นกันจึงพยายามใช้การทูตหยุดยั้งการสู้รบ มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดีอาระเบีย คุยกับประธานาธิบดีมาซุด เปเซสคิยัน ขอให้อดกลั้น

ทั้งนี้ การที่อิสราเอลถล่มโรงงานแปลงยูเรเนียมที่อิซฟาฮานได้สำเร็จถือว่าสำคัญยิ่ง เพราะเป็นโรงงานเพียงแห่งเดียวที่แปลงยูเรเนียมสำหรับใช้กับเครื่องหมุนเวียนแยกไอโซโทปยูเรเนียมที่จำเป็นสำหรับทำพลังงานหรือระเบิดนิวเคลียร์

แต่อิหร่านยังมีโรงงานนิวเคลียร์อีกหลายแห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ บ้างก็ซ่อนอยู่ใต้หินมีคอนกรีตเสริม ถ้าอิสราเอลไม่ได้อาวุธและเครื่องบินจากสหรัฐมาช่วยก็ทำลายได้ยาก

ทรัมป์ ผู้เตือนอิหร่านให้เห็นชอบข้อตกลงนิวเคลียร์ “ก่อนจะสายเกินไป” ยังไม่บ่งบอกว่า สหรัฐจะร่วมกับอิสราเอลโจมตีอิหร่านหรือไม่

เปิดไม้เด็ดอิหร่าน

รายงานข่าวจากเว็บAxios อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตน ทางการอิสราเอลเร่งให้รัฐบาลทรัมป์ร่วมสู้รบกับเตหะราน

ความรุนแรงที่ยกระดับขึ้น โดยเฉพาะที่พุ่งเป้าไปยังฐานทัพหรือสถานทูตสหรัฐในตะวันออกกลาง อาจช่วยให้ผู้นำอิหร่านระดมการสนับสนุนในประเทศได้ แต่จะยิ่งทวีความขัดแย้ง

ปิดช่องแคบฮอร์มุซ?

นักวิเคราะห์จากบลูมเบิร์กอีโคโนมิก ยังไม่แน่ใจว่าเตหะรานกำลังพิจารณาใช้ทางเลือกสุดท้ายหรือไม่ เช่น โจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางผ่านของผลผลิตน้ำมันต่อวันหนึ่งในห้าของโลกแต่การทำเช่นนั้นอาจดึงให้สหรัฐ ประเทศผู้มีอำนาจทางทหารสูงสุดของโลกเข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ซึ่งเตหะรานคำนวณแล้วว่าได้ไม่คุ้มเสีย