จาการ์ตาเล็งทำเกาะแมวทะเลชวา หวังดึงนักท่องเที่ยวตามรอยญี่ปุ่น

พูดถึงเกาะแมว คนส่วนใหญ่ต้องคิดถึงประเทศญี่ปุ่น แต่เร็วๆ นี้อินโดนีเซียอาจมี “เกาะแมว” กับเขาบ้างถ้าปราโมโน อานุง ผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตาทำตามแผน
สำนักข่าวแชนเนลนิวส์เอเชีย (ซีเอ็นเอ) รายงาน เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ปราโมโนเผยว่า รัฐบาลกรุงจาการ์ตากำลังพิจารณานำแมวไปอาศัยอยู่บนเกาะใดเกาะหนึ่งในจำนวนร้อยๆ เกาะนอกชายฝั่งจาการ์ตา เพื่อจัดการจำนวนประชากรแมวและส่งเสริมการท่องเที่ยว
“ความคิดเรื่องเกาะแมวไม่ใช่เรื่องใหม่ ญี่ปุ่นทำมาแล้ว และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษ” ผู้ว่าฯ กรุงจาการ์ตากล่าวถึงต้นตำรับเกาะเจ้าเหมียว
บนเกาะอาโอชิมะและทาชิโรจิมะในญี่ปุ่น เริ่มต้นจากการนำแมวมาใช้ปราบหนู ต่อมาประชากรแมวมีจำนวนมากกว่าประชากรมนุษย์มาก เจ้าสัตว์สี่เท้าชนิดนี้ทำให้ทั้งสองเกาะโดดเด่นบนแผนที่ ดึงดูดทาสแมวและนักท่องเที่ยวผู้สนใจใคร่รู้จากทั่วโลก
“ถ้าเราทำแบบนี้บ้าง เกาะแมวก็จะเป็นแหล่งรายได้ (ให้จาการ์ตา)” ผู้ว่าฯ พูดโดยไม่บอกกรอบเวลา และว่านับตั้งแต่ตนรับตำแหน่งในเดือน ก.พ. เรื่องที่ชาวบ้านร้องเรียนมาสูงสุดเรื่องหนึ่งคือให้ทางการควบคุมประชากรแมว หลังจากหารือกับผู้เชี่ยวชาญหลายราย ก็เกิดไอเดียสร้างเกาะแมวขึ้นมา ตามการประเมินเมื่อปี 2024 จาการ์ตามีแมวจรจัด 750,000 ตัว แมวเลี้ยง 110,000 ตัว
เนื่องจากแมวสามารถออกลูก 3-4 คลอกต่อปี ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ตัวเลขแมวในจาการ์ตาจะเพิ่มเป็นสี่เท่าในห้าปีข้างหน้า เพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคติดต่อ, ความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ และระบบนิเวศไม่สมดุล
จาการ์ตามีกำลังคนและงบประมาณทำหมันแมว (ทั้งแมวจรและแมวเลี้ยง) ได้ปีละราว 20,000 ตัวเท่านั้น การหาพื้นที่ใหญ่พอให้แมวที่ได้รับการช่วยเหลือได้พักอาศัยในมหานครขนาด 11 ล้านคนก็เป็นความท้าทายเช่นกัน
นี่เป็นเหตุผลหนึ่งทำให้จาการ์ตาหันมาสนใจหมู่เกาะพันเกาะทอดยาวถึง 160 กม.ทางตะวันตกเฉียงเหนือจากจาการ์ตา
แม้ชื่อว่า หมู่เกาะพันเกาะ แต่จริงๆ แล้วมีเกาะใหญ่น้อยอยู่ราว 340 เกาะ หลายเกาะชาวประมงพื้นบ้านอาศัยกันอยู่หลายชั่วอายุคน เกาะอื่นๆ กลายเป็นรีสอร์ตยอดนิยม บางเกาะไม่มีคนอาศัยอยู่ ถ้ามีก็น้อยมากแค่ไม่กี่คน
“พวกแมวไม่ได้ถูกปล่อยเกาะ เราจะสร้างหาที่ที่พวกมันอยู่อย่างสะดวกสบาย ได้รับการดูแลและตัดขน ผู้คนสามารถไปเที่ยวเกาะนี้ได้ทั้งในฐานะแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้” ฮาซูดุงกัน ซิดาบาลก หัวหน้าสำนักงานความมั่นคงทางอาหาร การประมง และการเกษตรแห่งจาการ์ตา ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการสัตว์ทั้งหมด กล่าวกับซีเอ็นเอพร้อมเสริมว่า เบื้องต้น เกาะนี้จะรับแมวจรจัดที่ได้รับการช่วยเหลือและแมวถูกทิ้ง
“รัฐบาลจาการ์ตาประเมินว่า จะมีแมว 1,000 ตัวบนเกาะนี้ เราจะดูแลพวกมัน”ฮาซูดุงกันย้ำ
แต่แนวคิดการย้ายแมวไปยังเกาะกลางทะเลที่บางครั้งไม่เอื้อต่อการอยู่อาศัยได้ กลายเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันในหมู่ผู้เชี่ยวชาญและนักเคลื่อนไหวพวกเขากล่าวว่าแมวอาจไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้ หรืออาจส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยและสัตว์ป่าที่บอบบางของหมู่เกาะพันเกาะ
- ภัยคุกคามต่อนกและสัตว์ประจำถิ่น
มูฮัมหมัด ฟัดจาร์ ชูร์นิอาวัน รักษาการผู้สำเร็จราชการหมู่เกาะพันเกาะ กล่าวว่า ทีมงานของเขากำลังมองหาเกาะที่เหมาะสมสำหรับแมว
“ในบรรดาเกาะที่สำรวจกันมา เกาะติดุงเล็กเหมาะสมที่สุด” ผู้สำเร็จราชการกล่าวเมื่อวันที่ 21 พ.ค. โดยให้เหตุผลว่า พื้นที่เกาะขนาด 0.32 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นที่ราบ และโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เหมาะสมกับการเป็นสถานสงเคราะห์แมว
เกาะติดุงเล็กไม่มีคนอาศัยอยู่และถูกใช้เป็นแหล่งอนุรักษ์อยู่แล้ว แตกต่างจากเกาะติดุงใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียง ห่างออกไป 500 เมตร มีประชากรอาศัย 1,000 คน
ทั้งสองเกาะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจากจาการ์ตาที่ห่างออกไปราว 55 กม.
ด้านสมาชิกสภาเมืองจาการ์ตา มองต่างมุมเรื่องการเปลี่ยนเกาะติดุงเล็กให้เป็นเกาะแมว
“เกาะติดุงเล็กเป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติดังนั้นพืชพรรณและสัตว์ทั้งหมดในบริเวณนั้นต้องได้รับการคุ้มครอง ปัจจุบันเกาะนี้เป็นที่เต่าทะเลฟักไข่ และแหล่งเพาะพันธุ์โกงกาง แมวเป็นสัตว์นักล่า กินนก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเป็นอาหาร จึงอาจเป็นอันตรายต่อการอนุรักษ์” แฟรนซิน วิดโจโจ สมาชิกสภาเมืองจาการ์ตา และนักการเมืองพรรคสามัคคีอินโดนีเซีย (พีเอสไอ) กล่าว
ขณะที่สมาชิกผู้สนับสนุนข้อเสนอให้เหตุผลว่า อาจดึงนักท่องเที่ยวมายังหมู่เกาะพันเกาะได้
“หากดำเนินการไม่ดี โครงการอาจเจอกระแสตีกลับ แต่ถ้าเอาจริงเอาจังก็อาจเป็นแม่เหล็กดึงนักท่องเที่ยวเหมือนในญี่ปุ่น” เตาฟิก โซลกิฟลี สมาชิกสภาเมืองจากพรรคยุติธรรมมั่งคั่งให้ความเห็น
เฟมเก เดน ฮาส ผู้ก่อตั้งเครือข่ายช่วยเหลือสัตว์จาการ์ตากลุ่มสิทธิสัตว์ที่มีชื่อเสียงที่สุดกลุ่มหนึ่งของอินโดนีเซีย ฟันธงว่าหมู่เกาะพันเกาะไม่ใช่ที่สำหรับแมว
“มันเป็นที่อยู่ของสัตว์หลายสายพันธ์จึงจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครอง ถ้ารัฐบาลจาการ์ตาต้องการปล่อยแมวเป็นร้อยๆ ตัวลงไปบนเกาะเล็กๆ พวกมันจะไม่ไปจับสัตว์ประจำถิ่นเหรอ?” เฟมเกตั้งคำถาม
หมู่เกาะพันเกาะเป็นที่อยู่ของเหยี่ยวแดง หรือที่รู้จักกันในชื่ออินทรีทะเลหลังแดง ซึ่งจาการ์ตายอมรับให้เป็นเป็นนกประจำเกาะอย่างเป็นทางการ ไม่เพียงเท่านั้นหมู่เกาะนี้ยังเป็นจุดแวะพักของนกอพยพหลายชนิดอีกด้วย
เฟมเกกล่าวต่อไปว่า แมวเป็นปัญหาใหญ่ของหมู่เกาะพันเกาะรวมถึงเกาะติดุงเล็กอยู่แล้ว ตอนนี้แมวล้นหลายเกาะเพราะคนจากเกาะอื่นเอาแมวมาทิ้งบนเกาะร้าง รวมถึงแมวเลี้ยงอื่นๆ ที่ต้องเร่ร่อนหลังเจ้าของเสียชีวิตหรือย้ายเข้ามาในจาการ์ตา
แมวพวกนี้ออกลูกออกหลานเป็นจำนวนมากจนกลายเป็นภัยคุกคามต่อสัตว์ป่าในพื้นที่ ตัวแมวเองก็มีปัญหาจากการต่อสู้กับแมวตัวอื่นหรือนักล่าชนิดอื่นเพื่อแย่งอาหารเช่นกัน บางครั้งถึงขั้นบาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิต
“แล้วอย่างนี้รัฐบาลยังจะต้องการใช้เงินส่งแมวไปยังหมู่เกาะพันเกาะอีกอย่างนั้นเหรอ?” เฟมเกตั้งคำถาม
ขณะที่ฮาซูดุงกันมองว่า แรงต้านข้อเสนอเกาะแมวเป็นการ "ตีตนไปก่อนไข้“ เพราะรัฐบาลจาการ์ตาจะทำให้มั่นใจได้ว่า แมวจะได้รับการดูแล สัตว์ประจำถิ่นได้รับการคุ้มครอง
"เรากำลังปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมหลายคน พวกเขาจะศึกษาและให้คำแนะนำถึงการทำเกาะแมวอย่างเหมาะสม”
นอกจากนี้ จาการ์ตายังยินดีให้กลุ่มสิทธิสัตว์และกลุ่มอนุรักษ์เข้ามามีส่วนร่วมบริหารเกาะและดูแลแมว
“การมีเกาะแมวไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดโครงการทำหมันหรือหยุดสร้างที่พักแมว นี่เป็นแค่อีกเครื่องมือหนึ่งที่ควบคุมประชากรแมวในจาการ์ตาเท่านั้น” ฮาซูดุงกันกล่าวและว่า วัตถุประสงค์หนึ่งของโครงการคือส่งเสริมความรักสัตว์ ให้ความรู้ประชาชนถึงความสำคัญของการทำหมันและฉีดวัคซีนแมว
“ในเวลาเดียวกันเราสามารถเพิ่มอำนาจให้ชุมชนท้องถิ่น และจ้างงานในฐานะเจ้าหน้าที่แพทย์ หรือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ประชาชนยังสามารถขายอาหารหรือของที่ระลึกเกี่ยวข้องกับแมวได้ด้วย เช่น เสื้อยืด พร้อมกันนั้นก็สามารถใช้มูลแมวไปทำไบโอก๊าซได้”
รัฐบาลเมืองจาการ์ตาวาางแผนว่าเกาะแห่งนี้จะมีคลินิกสัตว์ ห้องจัดนิทรรศการ และสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับแมวได้ โดยแมวจะถูกทำหมันก่อนย้ายไปอยู่ สถานที่นี้จะเป็นสถานที่ปิด ป้องกันไม่ให้แมวออกไปเตร็ดเตร่เป็นอันตรายต่อสัตว์ท้องถิ่น
“เราคิดทุกเรื่องอย่างละเอียดเพื่อมั่นใจได้ว่า โครงการยั่งยืน ไม่ส่งผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม” เจ้าหน้าที่รัฐรายนี้ยืนยัน
- มาเที่ยวเกาะแมวได้หรือไม่
ชาวบ้านบนเกาะมีความรู้สึกแตกต่างกันไปต่อแผนการนี้
“บางคนสนับสนุนเพราะจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น เปิดโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ แต่บางคนกังวลว่าจะแมวจะบุกรุกเกาะ ขโมยอาหาร กินปลาที่เราจับได้ แล้วกลายเป็นสิ่งรบกวนชุมชน” มุกติ ชาวบ้านเกาะติดุงใหญ่เล่าความรู้สึก เกาะติดุงใหญ่กับเกาะติดุงเล็ก ห่างกันเพียง 500 เมตรเท่านั้นโดยมีสะพานไม้เชื่อม
ส่วนชาวจาการ์ตาก็วิตกกังวลกับแผนการนี้เช่นกัน
“แมวอาจได้รับการดูแลดีขึ้นบนเกาะนี้ เพราะใช่ว่าคนบนท้องถนนจะรักแมวไปซะทุกคน” ลินดา นาซูเตียน ชาวกรุงจาการ์ตาสนับสนุนแนวคิด แต่วิทยา ปุตรี ชาวบ้านอีกคนไม่แน่ใจในโครงการ
“ฉันเป็นคนรักแมว แต่จะไป (เกาะแมว) หรือเปล่า ก็อาจจะไม่ไป รอบๆ จาการ์ตามีศูนย์สงเคราะห์สัตว์มากมายให้ฉันไปเล่นกับแมว รับแมวมาเลี้ยง หรือพูดคุยกับเจ้าของแมวคนอื่นๆ”
“ฉันคิดว่าแทนที่จะสร้างเกาะแมว รัฐบาลสามารถใช้เงินไปสร้างศูนย์สงเคราะห์สัตว์เพิ่มหรือสนับสนุนศูนย์ที่มีอยู่แล้วจะดีกว่า”
มหาวัน การุนิยสา อาจารย์วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยอินโดนีเซียก็รู้สึกแบบเดียวกัน
"เกาะแมวในญี่ปุ่นเกิดขึ้นตามธรรมชาติมาหลายชั่วอายุคน ไม่ใช่ย้ายแมวออกไปอย่างที่จาการ์ตากำลังจะทำ ประชากรแมวสามารถเจริญเติบโตได้บนเกาะเหล่านี้ (ของญี่ปุ่น) เนื่องจากพวกมันได้รับการดูแลอย่างดีจากผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น มีอาหารอุดมสมบูรณ์ และไม่ต้องแข่งกับนักล่าอื่น" มหาวันกล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า จำนวนแมวบนเกาะของญี่ปุ่นมีไม่มากเมื่อเทียบกับแผนย้ายแมว 1,000 ตัวของจาการ์ตาไปอยู่บนหมู่เกาะพันเกาะ
ตัวอย่างเช่น เกาะอาโอชิมะใน จ.เอฮิเมะ เคยมีแมวมากที่สุด 210 ตัวในปี 2018 รัฐบาลตัดสินใจทำหมันแมวทุกตัว เนื่องจากบนเกาะเหลือผู้สูงอายุเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคงดูแลแมวเต็มเวลาได้
ปีก่อน สำนักข่าวหลายแห่งรายงานว่าแมวบนเกาะมีอายุมากกว่าเจ็ดปี และหนึ่งในสามกำลังต่อสู้กับโรคที่เกิดจากการผสมพันธุ์กันในสายพันธุ์เดียวกันมาหลายสิบปี เมื่อประชากรมนุษย์และแมวบนเกาะลดลง คาดการณ์ว่าภายในห้าปีข้างหน้า เกาะอาโอชิมะจะกลายเป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่
“แม้แต่ในญี่ปุ่น เกาะแมวก็ยังไม่ยั่งยืน” มหาวันสรุป และว่า ในฐานะเกาะพักพิงแมวจำเป็นต้องมีคนงานคอยให้อาหาร และมีอาหารจัดไว้พร้อม จำนวนนักท่องเที่ยวจึงควรมากพอรองรับต้นทุนโครงการได้
“เงิน (ที่จะนำไปพัฒนาเกาะแมว) ควรนำไปใช้ขยายโครงการทำหมันในจาการ์ตาให้ดีขึ้น จาการ์ตาควรคิดให้รอบคอบกว่านี้ เพราะเมื่อทำโครงการไปแล้วยากที่จะถอยหลัง” มหาวันกล่าวทิ้งท้าย







