เหยื่อเครื่องบินแอร์อินเดียตก พุ่ง 270 ราย ทางการกำลังเร่งพิสูจน์อัตลักษณ์

ยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตกเพิ่มสูงถึง 270 ราย บรรดาครอบครัวเหยื่อต่างไม่พอใจกันมากขึ้น เนื่องจากมีความล่าช้าในการระบุร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งถูกเผาไหม้เป็นจุณ
ยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ "เครื่องบินแอร์อินเดียตก"เพิ่มสูงถึง 270 ราย ในวันเสาร์ (14 มิ.ย.) บรรดาครอบครัวเหยื่อต่างไม่พอใจกันมากขึ้นเนื่องจากมีความล่าช้าในการระบุร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งถูกเผาไหม้เป็นจุณในโศกนาฏกรรมในเมืองอาห์มาดาบัดของอินเดีย
เมื่อวันพฤหัสบดี (12 มิ.ย.) เครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ลำใหม่ของ สายการบินแอร์อินเดีย ที่มีผู้โดยสาร 242 คน และกำลังมุ่งหน้าสู่สนามบินแกตวิคของอังกฤษในวันนั้น ได้สูญเสียระดับความสูงเพียงไม่กี่วินาทีหลังขึ้นบิน จากนั้นเครื่องบินก็ตกในพื้นที่ชุมชนใกล้สนามบินเกิดลูกไฟลุกท่วมเนื่องจากพุ่งชนอาคารด้านล่าง ซึ่งเป็นหอพักนักศึกษาแพทย์ นับเป็นภัยพิบัติทางการบินที่เลวร้ายที่สุดในโลกในรอบ 10 ปี
ธาวัล กาเมติ ประธานสมาคมแพทย์รุ่นเยาว์แห่งวิทยาลัยการแพทย์ B.J. เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ร่างผู้เสียชีวิตจากจุดเกิดเหตุเครื่องบินตกได้อย่างน้อย 270 รายแล้ว
อุบัติเหตุครั้งนี้ มีผู้โดยสารรอดชีวิตเพียงคนเดียว ขณะที่ผู้โดยสารและลูกเรืออีก 241 คนบนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมด และยังมีอีกหลายคนที่ไม่ใช่ผู้โดยสารแต่ต้องเสียชีวิตลงเนื่องจากเครื่องบินพุ่งชนหอพักของวิทยาลัยแพทย์
ราฟิก อับดุล ฮาฟิซ เมมอน ผู้สูญเสียญาติไปถึงสี่คนในเหตุการณ์นี้ กล่าวว่า เขาไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากทางการและรู้สึก “ลำบากใจมาก”
“พวกเราสูญเสียลูกๆ ไป... เราไม่เข้าใจอะไรเลย โปรดช่วยให้เราได้รับข้อมูลเกี่ยวกับลูกๆ ของเราด้วย บอกเราด้วยว่าพวกเขาจะให้ศพคืนเมื่อไหร่” เมมอนกล่าว
พ่อของเหยื่ออีกท่านเผยกับนักข่าวว่า เขาเสียใจที่ไม่สามารถนำร่างของลูกชายฮาร์ชาด ปาเทล กลับมาได้ และบอกว่าเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะใช้เวลา 72 ชั่วโมงในการจัดทำโปรไฟล์ DNA
“เจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลืออยู่ แต่ความอดทนของเรากำลังจะหมดลงแล้ว” เขากล่าว
ทั้งนี้ ร่างของผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ในอุบัติเหตุครั้งนี้ถูกไฟเผาไหม้เป็นจุณ และเจ้าหน้าที่กำลังใช้ตัวอย่างทางทันตกรรมในการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ของแต่ละบุคคล
ไจศังการ์ พิลไล ทันตแพทย์นิติเวช เผยกับนักข่าวเมื่อวันศุกร์ (13 มิ.ย.) ว่า พวกเขามีบันทึกทางทันตกรรมของเหยื่อที่ถูกไฟไหม้ 135 ราย ซึ่งสามารถนำไปเปรียบเทียบกับแผนภูมิดีเอ็นเอทางทันตกรรม เอ็กซ์เรย์ หรือบันทึกอื่นๆ ของเหยื่อได้
วิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบแอร์อินเดียอย่างมาก ซึ่งบริษัทพยายามสร้างชื่อเสียงและปรับปรุงฝูงบินมาหลายปี หลังจากที่ทาทากรุ๊ป เข้าซื้อกิจการสายการบินนี้จากรัฐบาลอินเดียในปี 2565 ประธานของทาทา กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า กลุ่มต้องการทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ “ยังไม่ทราบอะไรในตอนนี้”
ขณะนี้แอร์อินเดียและรัฐบาลอินเดียกำลังพิจารณาหลายหาสาเหตุเครื่องบินตกในหลายแง่มุม รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับแรงขับของเครื่องยนต์ แผ่นปิดปีก และสาเหตุที่ล้อลงจอดยังคงเปิดอยู่ขณะที่เครื่องบินขึ้นและลงจอด
อ้างอิง: Reuters






