สถานะ Safe Haven ดอลล์ ถูกทดสอบ นักลงทุนแห่ซื้อ 'เยน' หลังเกิดขัดแย้งตะวันออกกลาง

สถานะ "สินทรัพย์ปลอดภัย" ของดอลลาร์ถูกทดสอบหลังไม่แข็งค่าขึ้นทันทีขณะเกิดความขัดแย้งในตะวันออกกลางและยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ "ค่าเงินเยน" ของญี่ปุ่น
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา “ค่าเงินดอลลาร์” ได้รับแรงกดดันรอบด้านตั้งแต่การกลับมาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จนหลายคนตั้งคำถามถึงสถานะ “สินทรัพย์ปลอดภัย” หรือ Safe Haven ของดอลลาร์ คำถามนี้ยิ่งชัดเจนมากขึ้นหลังจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน
บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก ถึงขนาดระบุว่า ดอลลาร์กำลังสูญเสียสถานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากที่ “ไม่แข็งค่าทันที” เมื่ออิสราเอลโจมตีอิหร่าน ตรงข้ามกับพฤติกรรมในอดีต และถ้าพิจารณาตลอดปี 2025 จะเห็นว่าค่าเงินดอลลาร์กลับอ่อนค่าลงถึง 8% ซึ่งอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 8 ปี จากกระแสขายดอลลาร์หรือ “Sell America”
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า แม้จะเกิดสงครามตะวันออกกลาง แต่ค่าเงินดอลลาร์กลับไม่ได้แข็งค่าขึ้นมากเท่าที่ควร ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่แตกต่างจากในอดีตอย่างชัดเจน
"ปกติแล้วดอลลาร์ควรจะแข็งจากความเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ว่าช่วงหลังตลาดดูไม่ได้ให้ค่ากับตัวดอลลาร์เท่าไหร่ช่วงนี้"
สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อเกิดความไม่แน่นอนจากสงคราม นักลงทุนกลับเลือกหลบภัยไปยังสินทรัพย์อื่นแทนดอลลาร์ โดยเฉพาะวันนี้ (13 มิ.ย.) “เงินเยนญี่ปุ่น” กลายเป็นสกุลเงินที่ได้รับความนิยมมากกว่าจนดัชนีค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นมาประมาณ 0.66% ณ เวลา 12.40 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตลาด ขณะที่ “ทองคำ” ยังคงเป็นทางเลือกหลักสำหรับการลงทุนในช่วงสงครามทันที
นายพูนกล่าวว่า สาเหตุหลักของการอ่อนแอของสถานะสินทรัพย์ปลอดภัยประกอบด้วย 2 องค์ประกอบคือ
1. ความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในสหรัฐ
ความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลสหรัฐ เป็นตัวที่ทำให้ตลาดไม่ค่อยมีความเชื่อถือในการถือครองดอลลาร์เท่าไหร่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดอลลาร์สูญเสียความน่าเชื่อถือ
2. การรอคอยข้อมูลเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน
ตลาดอยู่ในภาวะรอดูผลของข้อมูลเศรษฐกิจและการประชุม คณะกรรมการนโยบายทางการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้าซื้อดอลลาร์มากนัก
ทำไมค่าเงิน 'ดอลลาร์ไต้หวัน' แข็งค่าขึ้นมา
เมื่อถามถึงการแข็งค่าขึ้นของค่าเงิน “ดอลลาร์ไต้หวัน” ที่แข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบสามปี นายพูนกล่าวว่าไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับปัจจัยสงครามเพราะเป็นปัจจัยเฉพาะตัว
ปัจจัยด้านเทคโนโลยี
- ผลประกอบการดีของ Oracle ในธุรกิจ AI ส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Semiconductor และ AI เพิ่มขึ้น
- TSMC และบริษัทเทคโนโลยีไต้หวันได้รับประโยชน์จากเทรนด์นี้
ปัจจัยการค้าระหว่างประเทศ
- มีความเป็นไปได้ที่ค่าเงินจะเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและไต้หวัน
การปิดความเสี่ยงของนักลงทุน
- ไต้หวันมีนักลงทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ไม่ได้ปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อเกิดความไม่แน่นอน จึงเกิดการ "Unwind Position" หรือลดการลงทุนในต่างประเทศและกลับมาซื้อสกุลเงินในประเทศ ทำให้ไต้หวันดอลลาร์แข็งค่าขึ้น







