ทรัมป์ยันจะส่งจดหมายให้คู่ค้า แจ้งการขึ้นภาษีนำเข้าฝ่ายเดียว 

ทรัมป์ยันจะส่งจดหมายให้คู่ค้า แจ้งการขึ้นภาษีนำเข้าฝ่ายเดียว 

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ย้ำจะส่งจดหมายไปยังคู่ค้าใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อกำหนดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายเดียว ก่อน 9 ก.ค เส้นตายการระงับภาษีสูงไว้สิ้นสุดลง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวย้ำอีกครั้งว่า เขาตั้งใจจะส่งจดหมายไปยังคู่ค้าในหนึ่งถึงสองสัปดาห์ข้างหน้าเพื่อกำหนดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายเดียว ก่อนเส้นตายในวันที่ 9 กรกฎาคมที่การระงับอัตราภาษีศุลกากรอัตราสูงกับหลายสิบประเทศจะสิ้นสุดลง 

“เราจะส่งจดหมายออกไปในอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ถึงสองสัปดาห์ไปยังประเทศต่างๆ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงข้อตกลง” ทรัมป์กล่าวกับนักข่าวในวันพุธที่ศูนย์ศิลปะการแสดงจอห์น เอฟ. เคนเนดีในกรุงวอชิงตัน ซึ่งเขาเข้าร่วมชมการแสดง

“เมื่อถึงจุดหนึ่ง เราจะส่งจดหมายออกไป และบอกว่านี่คือข้อตกลง คุณสามารถยอมรับหรือไม่รับก็ได้” เขากล่าวเสริม

ไม่ชัดเจนว่าทรัมป์จะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของเขาหรือไม่ ประธานาธิบดีมักจะกำหนดเส้นตายสองสัปดาห์สำหรับการดำเนินการ แต่กำหนดเส้นตายนั้นอาจมาช้ากว่ากำหนดหรือไม่มาเลยก็เป็นได้ 

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ประธานาธิบดีก็เคยกล่าวว่าเขาจะกำหนดอัตราภาษีศุลกากรสำหรับคู่ค้าของสหรัฐฯ “ในอีกสองถึงสามสัปดาห์ข้างหน้า”

ในเดือนเมษายน ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีกับคู่ค้าหลายสิบประเทศ แต่กลับระงับการขึ้นภาษีไว้เป็นเวลา 90 วัน เนื่องจากตลาดผันผวน และนักลงทุนกลัวว่าการขึ้นภาษีจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกถดถอย 

การเจรจาการค้าส่อล่าช้า

แม้จะมีการเจรจากันอย่างต่อเนื่อง กรอบการค้าเดียวที่สหรัฐฯ บรรลุได้คือกับสหราชอาณาจักร และการสงบศึกการขึ้นภาษีกับจีน

แต่แม้แต่การสงบศึกกับจีนก็ยังถูกคุกคาม หลังจากวอชิงตันและปักกิ่งกล่าวหาซึ่งกันและกัน หรือผิดเงื่อนไข ส่งผลให้มีการพูดคุยกันอย่างยาวนานในลอนดอนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เกี่ยวกับแผนการปฏิบัติตามข้อตกลงของทั้งสองประเทศ

เมื่อวันพุธ ทรัมป์ กล่าวว่า กรอบการค้ากับจีนเสร็จสมบูรณ์แล้ว และปักกิ่งจะเปิดให้มีการส่งออกแร่หายากและแม่เหล็ก โดยสหรัฐฯ อนุญาตให้นักเรียนจีนสามารถเรียนที่วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในอเมริกาได้

เมื่อถูกถามระหว่างการแสดงว่าเขาจะขยายเวลาให้ประเทศต่างๆ เพื่อทำข้อตกลงกับรัฐบาลของเขาก่อนที่ภาษีที่สูงขึ้นจะมีผลบังคับใช้หรือไม่ ทรัมป์ตอบว่าเขาเปิดกว้างสำหรับเรื่องนี้

“แต่ผมไม่คิดว่าเราจะมีความจำเป็นเช่นนั้น” เขากล่าวเสริม

ทรัมป์ เคยเสนอว่าเขาจะเจรจากับคู่ค้าแต่ละราย แต่ได้เปลี่ยนความคิดจากเดิม โดยให้ความสำคัญกับการเจรจากับหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่สำคัญบางราย และยอมรับว่ารัฐบาลไม่มีศักยภาพที่จะเจรจาข้อตกลงกับรายประเทศกับหลายสิบประเทศได้ ทีมงานของทรัมป์ยังทำงานเพื่อให้ได้ข้อตกลงทวิภาคีกับอินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รวมถึงสหภาพยุโรป

ฮาวเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเมื่อวันพุธว่า ข้อตกลงกับสหภาพยุโรปน่าจะเป็นหนึ่งในข้อตกลงสุดท้ายที่สหรัฐฯ บรรลุผลสำเร็จ โดยแสดงความผิดหวังต่อการเจรจากับกลุ่มประเทศสมาชิก 27 ประเทศ