‘ประท้วงแอลเอ’ ผู้ว่าการรัฐงัดข้อทรัมป์

‘ประท้วงแอลเอ’ ผู้ว่าการรัฐงัดข้อทรัมป์

รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขยายวงการรับมือประท้วงต่อต้านการเนรเทศในลอสแอนเจลิส ด้วยการส่งนาวิกโยธิน 700 นายลงพื้นที่ ยิ่งทำให้ตึงเครียดกับทางการรัฐแคลิฟอร์เนียมากขึ้น

KEY

POINTS

  • ความวุ่นวายเป็นผลจากการประท้วงในแอลเอต่อต้านการบุกจับคนต่างด้าวของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร
  • รัฐบาลทรัมป์ให้เหตุผลว่า สถานการณ์ขยายวงจำเป็นต้องใช้กองกำลังรัฐบาลกลางเข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ไอซีอี และฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย
  • กฎหมายสหรัฐห้ามไม่ให้ใช้กำลังทหาร ทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ และนาวิกโยธินปฏิบัติการในประเทศ

รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขยายวงการรับมือประท้วงต่อต้านการเนรเทศในลอสแอนเจลิส ด้วยการส่งนาวิกโยธิน 700 นายลงพื้นที่ ยิ่งทำให้ตึงเครียดกับทางการรัฐแคลิฟอร์เนียมากขึ้น

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังการปะทะคารมเดือดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งรัฐแคลิฟอร์เนียฟ้องร้องรัฐบาลที่ระดมกองกำลังป้องกันชาติเข้ามาในนครลอสแอนเจลิส ขณะที่ทรัมป์เห็นดีเห็นงามกับความคิดที่ว่านิวซัมควรถูกจับ

ความวุ่นวายเป็นผลจากการประท้วงในแอลเอต่อต้านการบุกจับคนต่างด้าวของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (ไอซีอี) ล่วงเข้าวันจันทร์ (9 มิ.ย.68) ยังมีการประท้วงในบางพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความสงบ เจ้าหน้าที่เริ่มย้ายรถที่ถูกเผาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ที่มีการจับกุมประชาชนอย่างน้อย 31 คน

กระนั้น รัฐบาลทรัมป์ให้เหตุผลว่า สถานการณ์ขยายวงจำเป็นต้องใช้กองกำลังรัฐบาลกลางเข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ไอซีอี และฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม รายหนึ่งกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า นาวิกโยธินจากศูนย์การรบทางอากาศภาคพื้นดินในทเวนตี้ไนน์ปาล์มส รัฐแคลิฟอร์เนีย กำลังเคลื่อนพลหลังได้รับแจ้งเมื่อสุดสัปดาห์

ทั้งนี้ กฎหมายสหรัฐห้ามไม่ให้ใช้กำลังทหาร ทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ และนาวิกโยธินปฏิบัติการในประเทศ ซึ่งการส่งนาวิกโยธินเข้ามานี้เป็นการเพิ่มเติมจากคำสั่งที่ทรัมป์ออกเมื่อสุดสัปดาห์ สั่งการให้กองบัญชาการภาคเหนือเข้าควบคุมกองกำลังป้องกันชาติ และส่งทหารอย่างน้อย 2,000 นายเข้าพื้นที่แอลเอ

ตามคำสั่งดังกล่าว ทรัมป์ระบุว่า พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม “อาจส่งเจ้าหน้าที่จากกองกำลังติดอาวุธเข้ามาเพิ่มเติมอีกหากจำเป็น” เพื่อช่วยเหลือ

ขณะที่นิวซัม และ คาเรน เบส นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส กล่าวหาทรัมป์ว่าทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง นิวซัมโพสต์แพลตฟอร์ม X เมื่อวันจันทร์ เรียกการตัดสินใจส่งนาวิกโยธินเข้ามาดูแลสถานการณ์ “ไม่ใช่อเมริกัน” เขาได้รับแจ้งด้วยว่า ประธานาธิบดีกำลังส่งกองกำลังป้องกันชาติเข้ามาแอลเออีก 2,000 นาย

ในวันเดียวกันนั้นทั้งตัวนิวซัม และแคลิฟอร์เนียยื่นฟ้องรัฐบาลทรัมป์ที่ระดมกองกำลังป้องกันชาติ และนาวิกโยธินโดยไม่จำเป็น ขัดต่อกฎหมาย “เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ประธานาธิบดีรวบอำนาจโดยที่ไม่เคยมีมาก่อน”

เอกสารคำฟ้อง 22 หน้าที่ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางในซานฟรานซิสโกเมื่อกลางดึกวันนั้น นิวซัมเร่งเร้าให้ผู้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งประธานาธิบดี แล้วย้ายการควบคุมกองกำลังป้องกันชาติจากกระทรวงกลาโหม “กลับมาสู่การบัญชาการที่ถูกต้อง” ของรัฐ

คำฟ้องระบุ “การส่งกำลังทหารของรัฐบาลกลางกว่า 4,000 นายไปปราบปรามการประท้วงหรือป้องกันการประท้วงในอนาคต ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐานว่าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นไม่สามารถเข้าควบคุม และรับรองความปลอดภัยของประชาชนระหว่างการประท้วงดังกล่าวได้” ถือเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ

ด้านทรัมป์ กระหน่ำโพสต์บนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียล เรียกการประท้วงว่า “การจลาจลของผู้อพยพ” และว่าแอลเอ “ถูกอาชญากร และต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองรุกรานและยึดครอง” เขาสั่งการให้หน่วยงานรัฐบาลกลางใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองต่อไป และควบคุมสถานการณ์รวมถึงการจับกุมผู้ประท้วงที่ปกปิดหน้าตาด้วย

นอกจากนี้ประธานาธิบดียังเออออ กับความเห็นของทอม โฮแมน ที่ปรึกษาด้านชายแดน ที่ขู่ว่าจะจับเจ้าหน้าที่รัฐ และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ผู้ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ ต.ม.ของรัฐบาลกลาง ซึ่งรวมถึงผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย และนายกเทศมนตรีแอลเอ

“ถ้าผมเป็นทอมผมทำแน่ ผมว่ามันดีมาก ผมชอบเกวิน นิวซัม เขาเป็นคนดี แต่ไร้ความสามารถอย่างสิ้นเชิง ทุกคนรู้ดี”

ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกันนิวซัมให้สัมภาษณ์เอ็นบีซี ท้าทายโฮแมนให้ทำอย่างที่พูด “จับผมสิ จับเลย”

ตลอดคืนวันอาทิตย์ (8 มิ.ย.68) เกิดการปล้นสะดมในหลายจุดของแอลเอ รวมทั้งใจกลางเมืองหลังผู้ประท้วงปิดทางหลวงสายหลัก เจ้าหน้าที่ห้านายได้รับบาดเจ็บในการปะทะกับฝูงชน รถยนต์อัตโนมัตเวย์โมอย่างน้อยห้าคันถูกเผา

เวย์โม บริการรถยนต์ไร้คนขับของกูเกิลที่มีอัลฟาเบตเป็นบริษัทแม่ ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า ได้เคลื่อนย้ายรถออกจากย่านกลางเมืองแอลเอแล้ว และระงับให้บริการในพื้นที่

นับถึงขณะนี้การประท้วงยังจำกัดอยู่แค่ไม่กี่พื้นที่เล็กๆ ของลอสแอนเจลิส มหานครกว้างใหญ่ไพศาลครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตร เชื่อมโยงกันด้วยเครือข่ายทางหลวง ไม่มีสัญญาณความไม่สงบในพื้นที่อื่นๆ อาทิ เซนจูรี ซิตี้, ฮอลลีวูดฮิลส์ และแซนตาโมนิกา ที่ห่างจากย่านกลางเมืองไปหลายกิโล ธุรกิจ และประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบ

จิม แมคดอนเนล ผู้บังคับการตำรวจแอลเอ แถลงว่า การประท้วงในวันอาทิตย์ช่วงแรกส่วนใหญ่เป็นไปโดยสงบ แต่สถานการณ์เลวร้ายลงเมื่อคนกลุ่มใหม่มาถึง

ช่วงบ่ายวันจันทร์ตำรวจได้รับรายงานการประท้วงสามจุดย่านใจกลางเมือง จึงออกคำแนะนำหลีกเลี่ยงการจราจรในพื้นที่ดังกล่าว สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเผยแพร่ภาพถ่ายจากเฮลิคอปเตอร์ เผยให้เห็นผู้ประท้วงหลายกลุ่มกระจายกันเป็นหย่อมๆ ในพื้นที่แห่งหนึ่งใกล้อาคารรัฐบาลกลาง และทางหลวงหมายเลข 101 ถนนสายหลักที่ผู้ประท้วงหนาแน่นเมื่อวันอาทิตย์ ตกบ่ายแก่ๆ วันจันทร์ไม่มีรายงานการจับกุมหรือเหตุร้ายใดๆ

  •  อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ

อีกหนึ่งสัญญาณบ่งบอกว่าการประท้วง และการบุกจับผู้ลักลอบเข้าเมืองอาจเกิดขึ้นอีกคือ อัลเบอร์โต คาร์วัลโญ ผู้ตรวจการเขตการศึกษาลอสแอนเจลิส สั่งให้ตรวจจับตาโรงเรียนราว 100 โรงด้วยเกรงว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลางอาจแทรกแซงพิธีสำเร็จการศึกษาที่มีขึ้นในวันจันทร์และอังคาร (10 มิ.ย.68) คาร์วัลโญเผยว่า เขาได้รับคำขู่จาก “หน่วยงานระดับสูง”

“มีอะไรก็ทำกับผม อย่ามาติดตามลูกผม” คาร์วัลโญ กล่าว

ขณะที่นายกเทศมนตรีแอลเอ กล่าวว่า การบุกจับผู้ลักลอบเข้าเมืองของทรัมป์ทำให้ประชาชนหวาดกลัว เด็กๆ ไม่กล้าไปโรงเรียน ผู้คนไม่กล้าไปทำงาน

การประท้วงยังป่วนซานฟรานซิสโกด้วยเช่นกันประชาชน 148 คนถูกจับกุมทั่วเมืองเมื่อคืนวันอาทิตย์ ในจำนวนนี้ราว 60 คน พัวพันการชุมนุมที่กลายเป็นความรุนแรงใกล้สำนักงานไอซีอีย่านใจกลางเมือง ร้านค้าหลายแห่งถูกทุบกระจก ยานพาหนะถูกเผา

เจ้าหน้าที่เผยว่า เตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่ร่วมสร้างความเสียหาย แต่ปกป้องนโยบายให้ที่หลบภัยของซานฟรานซิสโกไม่ให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นร่วมมือกับไอซีอีในคดีส่วนใหญ่

“ขณะนี้เรายืนหยัดเป็นหนึ่งเดียวกับชุมชนผู้อพยพ” บรูค เจนกินส์ อัยการเขตแถลงในวันจันทร์

  •  สหประชาชาติเป็นห่วง

ในวันเดียวกันนั้นสหประชาชาติเตือนไม่ให้ส่งทหารเข้าไปเพิ่มในแอลเออีก

“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกฝ่ายในพื้นที่จะคลี่คลายสถานการณ์ลงได้เราไม่ต้องการเห็นการใช้กำลังทหารเข้ามาควบคุมสถานการณ์นี้อีกต่อไป และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในระดับท้องถิ่น ระดับรัฐ และระดับรัฐบาลกลางร่วมมือกัน”ฟาร์ฮาน ฮัก รองโฆษกของเลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวในการแถลงข่าว

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์