อีลอน มัสก์ ‘ชกต่อย’ กับเบสเซนต์? รอยร้าวลึกภายในรัฐบาลทรัมป์

เมื่อ “อีลอน มัสก์” ลงไม้ลงมือกับ “สก็อตต์ เบสเซนต์” ขุนคลังทรัมป์กลางทำเนียบขาว เรื่องราวเบื้องหลังความขัดแย้งสู่วิกฤติความไว้วางใจในหมู่ผู้กุมอำนาจ ใครกันแน่ที่ “ทรัมป์” เลือกอยู่ข้าง และทำไม “มัสก์” จึงเริ่มถูกผลักออกจากวงใน?
หนังสือพิมพ์ The Washington Post และนิตยสาร Newsweek รายงานอ้างแหล่งข่าวจาก “สตีฟ แบนนอน” (Steve Bannon) อดีตที่ปรึกษาอาวุโสของ ปธน.ทรัมป์ว่า “อีลอน มัสก์” ได้ปะทะอย่างรุนแรงกับ “สก็อตต์ เบสเซนต์” ซึ่งเป็นขุนคลังสหรัฐ ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน
แบนนอน เล่าว่า หลังจากที่เบสเซนต์ และมัสก์ ออกจากห้องทำงานรูปไข่ และเริ่มเดินไปตามทางเดิน ชายทั้งสองก็เริ่มต่อปากต่อคำกัน โดยเบสเซนต์ได้พูดถึงข้อกล่าวอ้างของมัสก์ที่ว่า เขาจะเปิดโปงการใช้จ่ายของรัฐบาลที่สูญเปล่า และทุจริตเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมัสก์ก็ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จ
“เบสเซนต์พูดว่า ‘คุณมันต้มตุ๋น คุณมันต้มตุ๋นทั้งเพ’ ” แบนนอน กล่าวในการให้สัมภาษณ์
จากนั้นมัสก์ก็เปิดฉากเอาหัวไหล่ตัวเอง 'กระแทกเข้าใส่ซี่โครง' ของเบสเซนต์อย่างจัง เหมือนนักกีฬารักบี้ แบนนอนเล่า เบสเซนต์ก็ไม่ได้อยู่เฉย และตอบโต้กลับด้วยการ 'ชกอีลอน'
มีหลายคนรีบเข้ามาแยกทั้งสองออกจากกัน ขณะที่พวกเขาเดินมาถึงหน้าสำนักงานที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ และมัสก์ก็ถูกพาออกจากปีกตะวันตกของทำเนียบขาว
“ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับรู้เรื่องนี้ และพูดว่า ‘นี่เกินไปแล้ว’ ” แบนนอน กล่าว
- ดวงตาของมัสก์ มีรอยช้ำขึ้น (ภาพ: Reuters) -
อันที่จริงความขัดแย้งระหว่างสองคนนี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมานานแล้ว เพียงยังไม่ถึงขั้นปะทะกันทางร่างกายเช่นนี้มาก่อน ย้อนไปในช่วงเดือนเมษายน ทั้งสองเคยมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงถึงขั้นตะโกนใส่กัน ภายในระยะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ในทำเนียบขาวได้ยิน ตามรายงานของสำนักข่าว Axios และ The Independent
การโต้เถียงกันเกิดขึ้นหลังจากที่มัสก์ พยายามดำเนินการโดยตรงกับทรัมป์ “โดยไม่ผ่านรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง” เพื่อให้ทรัมป์แต่งตั้งอดีตเจ้าหน้าที่สรรพากรที่เคยเปิดเผยรายละเอียดภาษีของลูกชายโจ ไบเดน ให้ขึ้นเป็นอธิบดีกรมสรรพากรชั่วคราว จนกว่าคนที่ทรัมป์เลือกให้เป็นผู้นำ จะได้รับการยืนยันจากวุฒิสภา
กลับมาที่การปะทะระหว่างมัสก์กับเบสเซนต์ “ทรัมป์อยู่ข้างเบสเซนต์เต็มร้อย หลังเหตุปะทะครั้งนั้น” แบนนอนกล่าวเสริม “ผมไม่คิดว่าเบสเซนต์จะมีอคติอะไรส่วนตัวกับมัสก์หรอก แต่เขามีหน้าที่ต้องทำ และเขาก็จะทำหน้าที่นั้นให้ได้”
- สก็อตต์ เบสเซนต์ (ภาพ: Reuters) -
ก่อนหน้านั้นไม่นาน มัสก์มีกระแสข่าวอื้อฉาวจากหนังสือพิมพ์ New York Times ซึ่งรายงานว่า มัสก์ใช้ “สารเสพติด” หลายชนิดระหว่างการหาเสียง รวมถึงแอมเฟตามีน ยาอี และเห็ดหลอนประสาท
เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามถึงรายงานดังกล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับทรัมป์ที่ห้องทำงานรูปไข่ มัสก์ปฏิเสธข้อกล่าวหาโดยโจมตีสื่อ พร้อมกล่าวว่า “ไปต่อเลย คำถามต่อไป”
ตามรายงานของแบนนอน สถานะของมัสก์ในแวดวงใกล้ชิดของทรัมป์ก็เริ่มลดลง หลังจากมีข่าวหลุดในเดือนมีนาคม ว่า เขามีกำหนดจะเข้ารับฟังบรรยายลับระดับสุดยอดเกี่ยวกับจีน ซึ่งทรัมป์ได้ยกเลิกอย่างกะทันหัน
แบนนอน กล่าวว่า “ประธานาธิบดีเลือกหนุนเบสเซนต์ เหมือนที่ไม่ยอมให้มัสก์เข้าฟังบรรยายเรื่องจีน” พร้อมเสริมว่า “คนในรัฐบาลและทำเนียบขาวเริ่มรู้แล้วว่าเขา (มัสก์) ไม่มีความรู้จริงในสิ่งที่กำลังทำอยู่ พวกเขาจึงรีบตัดไฟแต่ต้นลม”
แบนนอน เน้นย้ำว่า นี่คือ จุดเปลี่ยน “นั่นคือ จุดหักเห คุณจะเห็นว่าอีลอนเปลี่ยนไปทั้งหมดนับจากช่วงเวลานั้น”
สตีฟ แบนนอนเล่าต่อว่า ตอนนี้ไม่มีใครพยายามคุยกับอีลอนเลย โดยโยนความผิดที่ทำให้ร่างกฎหมาย Big Beautiful Bill (ร่างกฎหมายลดภาษีชาวอเมริกันครั้งใหญ่) ของทำเนียบขาวล้มเหลวไปให้อีลอน มัสก์ เขาอธิบายว่า พรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส ได้คาดหวังกับการลดค่าใช้จ่ายตามที่มัสก์ได้ให้คำมั่นไว้ แต่สุดท้ายเขากลับทำไม่สำเร็จ
เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะกันที่ถูกกล่าวหาระหว่างมัสก์กับเบสเซนต์ แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า
“ไม่ใช่เรื่องลับที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รวบรวมทีมงานที่มีความมุ่งมั่นอย่างมากต่อประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อประเทศของเรา”
“ความเห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติ ในกระบวนการกำหนดนโยบายที่ดี และท้ายที่สุด ทุกคนต่างรู้ดีว่า พวกเขาทำงานด้วยความไว้วางใจ และคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์” โฆษกทำเนียบขาวกล่าว
อ้างอิง: newsweek, washington
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์