หนังจีนเทียบชั้น ‘ฮอลลีวูด’ อะไรทำให้ แอนิเมชันจีนทำรายได้ติดท็อป 5 โลก

ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในปีนี้ ไม่ได้มาจากสตูดิโอยักษ์ใหญ่อย่าง Marvel, Pixar หรือแม้แต่ผลงานของผู้กำกับดังอย่าง James Cameron แต่มาจาก ภาพยนตร์แอนิเมชันจีน เรื่อง “นาจา 2” Ne Zha 2 

Ne Zha 2  สร้างปรากฏการณ์ด้วยการทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยกวาดเงินไปกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์จากการเข้าฉายเกือบ 80,000 โรงภาพยนตร์ภายใน 4 สัปดาห์แรก ซึ่งรายได้มหาศาลนี้แทบจะไม่ได้มาจากการสนับสนุนของตลาดภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหรัฐ ปัจจุบันภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้รวม 2.14 พันล้านดอลลาร์ภายใน 4 เดือน ทำให้กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดแซงหน้า "Star Wars: The Force Awakens" ในปี 2015 และยังทำรายได้แซงหน้าภาพยนตร์แอนิเมชันอย่าง "Inside Out 2" จากค่าย Pixar Animation Studios ไปแล้วด้วย

ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ตลาดภาพยนตร์จีน ถูกครอบงำโดย “ภาพยนตร์ฮอลลีวูด” ฟอร์มยักษ์มาโดยตลอด แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ภาพยนตร์ที่สร้างโดยคนจีน ไม่ว่าจะเป็นแนวแอ็กชัน ไซไฟ โรแมนติก หรือแอนิเมชัน ต่างก็ได้รับความนิยมและทำรายได้แซงหน้าภาพยนตร์จากฝั่งตะวันตกมากขึ้นเรื่อยๆ

ความท้าทายของฮอลลีวูดในตลาดจีน 

เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้ฮอลลีวูดเผชิญความยากลำบากในการนำภาพยนตร์เข้าฉายในตลาดจีนที่เคยสร้างผลกำไรมหาศาล 

เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีน ประกาศจำกัดการนำเข้า “ภาพยนตร์ฮอลลีวูด” เข้ามาฉายในตลาดแดนมังกร โดยเป็นความเคลื่อนไหวตอบโต้คำสั่งรีดภาษีสินค้าจีนของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” และถือเป็นการล็อกเป้าเล่นงานหนึ่งในภาคการส่งออกที่สำคัญที่สุดของสหรัฐ 

รวมทั้งในเดือน พ.ค. ทรัมป์ได้ประกาศแผนเก็บภาษีภาพยนตร์ที่ผลิตในต่างประเทศในอัตรา 100% ถือเป็นการขยายวงนโยบายภาษีจากสินค้าสู่ภาคบันเทิงเป็นครั้งแรก

ตลอดช่วง 3 ทศวรรษที่จีนนำเข้าภาพยนตร์ฮอลลีวูดปีละ 10 เรื่อง ล่าสุดสำนักงานกับภาพยนตร์แห่งชาติจีน (National Film Administration - NFA) ได้ออกมาแถลงว่า มาตรการรีดภาษีของ ทรัมป์ จะยิ่งทำให้ความต้องการเสพสื่อภาพยนตร์ของสหรัฐในจีนลดน้อยลงไปอีก

โอกาสทองอุตสาหกรรมหนังจีน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดภาพยนตร์จีนเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างน่าทึ่ง ตลาดภาพยนตร์จีนค่อยๆ เปลี่ยนบทบาทจากที่เคยเป็นเพียง "ผู้ตาม" มาเป็น "ผู้นำ" ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลกได้ 

Ne Zha 2 ภาพยนตร์แอนิเมชันที่หยิบยกนิทานพื้นบ้านจีนดั้งเดิมมาเล่าใหม่ และเสริมด้วยเทคนิคพิเศษที่ทันสมัยที่ได้รับความนิยมจนครองใจผู้ชมในประเทศ จากนั้นภาพยนตร์เรื่อง "Ne Zha 2" ก็เริ่มบุกตลาดต่างประเทศ โดยฉายในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ และอเมริกาเหนือ  ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องเดียว แต่ยังเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของวงการแอนิเมชันและอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนทั้งหมด

ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ่ายทำทั้งหมดในประเทศจีน มีบริษัทแอนิเมชันถึง 138 แห่ง และทีมงานกว่า 4,000 คนร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ 

ซอฟต์พาวเวอร์จีน ดันรายได้ Ne Zha 2  ติดอันดับ 5

Ne Zha 2  ทำรายได้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยคำวิจารณ์ที่ดีเยี่ยม, การเข้าฉายในช่วงเทศกาลตรุษจีนซึ่งเป็นช่วงเวลาทอง, และกระแสชาตินิยมที่กำลังเฟื่องฟู ที่สำคัญคือสามารถสร้างรายได้อย่างรวดเร็วโดยแทบไม่ได้รับความช่วยเหลือจากโรงภาพยนตร์ทั่วโลก ซึ่งต่างจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อื่นๆ แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำรายได้ประมาณ 15 ล้านดอลลาร์ในอเมริกาเหนือจากการฉายในโรงภาพยนตร์ 800 แห่ง ซึ่งถือว่ามากพอสมควรสำหรับภาพยนตร์ภาษาจีน

หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ถล่มทลาย ก็ถูกตั้งคำถามว่า “แล้วทำไมจะต้องไปพึ่งพาสตูดิโอตะวันตกให้มาเล่าเรื่องราวของจีนอีกล่ะ?” เมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้สะท้อนแค่ความบันเทิง แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของชาติด้วย

ศาสตราจารย์สแตนลีย์ โรเซน ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า "เมื่อ 'Ne Zha 2' กำลังแข่งขันกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดเพื่อสร้างสถิติใหม่ การสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้จึงกลายเป็นหน้าที่ของเรา ที่กลายเป็นบททดสอบว่าคุณเป็นคนรักชาติหรือไม่"  

ปั้นจีนสู่ ‘มหาอำนาจด้านภาพยนตร์โลก’

 Ngeow Chow Bing ผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาด้านจีนแห่งมหาวิทยาลัยมาลายา ชี้ว่าความสำเร็จของ "Ne Zha 2" กับเกม "Black Myth: Wukong ถือเป็นความสำเร็จของภาคเอกชนจีน โดยไม่ต้องพึ่งพาโครงการที่รัฐกำหนดขึ้นมาเพื่อสร้างอิทธิพลทางวัฒนธรรมเลย

เมื่อภาพยนตร์ "Ne Zha 2" แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางการตลาด รัฐบาลจีนก็เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการส่งเสริมภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างมาก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่นเดียวกับกรณีของเกม "Black Myth: Wukong" และแพลตฟอร์ม AI อย่าง DeepSeek โรงเรียน บริษัท และองค์กรชุมชนต่างได้รับการสนับสนุนให้ไปชมภาพยนตร์เป็นกลุ่ม เจ้าหน้าที่ยังขยายระยะเวลาการฉาย "Ne Zha 2" ในประเทศซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ว่าจำนวนผู้เข้าชมจะเริ่มลดลงและรายได้รวมจากบ็อกซ์ออฟฟิศของจีนจะเริ่มชะลอตังลงในเดือนมี.ค.ก็ตาม

ความสำเร็จด้านรายได้ของภาพยนตร์จีนเหล่านี้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการให้จีนเป็น "มหาอำนาจด้านภาพยนตร์ชั้นนำของโลก" ภายในปี 2035 ตามแผนที่วางไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ประเทศจะต้องเพิ่มศักยภาพในการผลิตผลงานยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องที่รวบรวมจิตวิญญาณ, ค่านิยม, ความแข็งแกร่ง, และสุนทรียศาสตร์ของจีน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สื่อของรัฐยกย่องในภาพยนตร์อย่าง Ne Zha 2

 Rob Mitchell ผู้อำนวยการด้านข้อมูลเชิงลึกด้านละครเวทีจาก Gower Street Analytics บริษัทวิจัยอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในลอนดอน กล่าวว่า "'Ne Zha 2' อาจเป็นต้นแบบสำคัญสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์ชาวจีนในการเข้าถึงผู้ชมทั่วโลก"  

 

 

อ้างอิง variety , CNN, Nikkei, Reuters