เทรนด์ 'เวิร์กเอาต์แบบกลุ่ม' ฟิตได้ ไม่กลัวเหงา I Creative Economy

เทรนด์ 'เวิร์กเอาต์แบบกลุ่ม' ฟิตได้ ไม่กลัวเหงา I Creative Economy

เทรนด์ฟิตเนสที่กำลังมาแรงในปี 2025 ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในยิมหรือโปรตีนเชคอีกต่อไป แต่เปลี่ยนผ่านสู่ไลฟ์สไตล์ที่เน้น “ความรู้สึกร่วม” มากกว่า “ผลลัพธ์เฉพาะตัว”

แนวคิดเรื่องการดูแลตัวเองเปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในยิมหรือโปรตีนเชคอีกต่อไป แต่กลายเป็นการเชื่อมโยงร่างกาย จิตใจ และความสัมพันธ์กับผู้คนที่สนใจสิ่งเดียวกัน เทรนด์ฟิตเนสที่กำลังมาแรงในปี 2025 สะท้อนการเปลี่ยนผ่านสู่ไลฟ์สไตล์ที่เน้น “ความรู้สึกร่วม” มากกว่า “ผลลัพธ์เฉพาะตัว”

ตามรายงานของ Business Insider แนวโน้มที่น่าจับตาคือ การออกกำลังกายที่ผสมผสานกับกิจกรรมอื่น เช่น การทำสมาธิ งานศิลปะ หรือแม้แต่การใช้พื้นที่ร่วมกับแกลเลอรีหรือ Art Space บางแห่งออกแบบให้พื้นที่ออกกำลังกายอยู่ร่วมกับนิทรรศการศิลป์ในบรรยากาศเดียวกัน ทั้งสวยงามและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ สะท้อนภาพของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ไม่ได้แค่อยาก “ฟิต” แต่ยังอยาก “รู้สึกดี” ในทุกมิติของชีวิต

เทคโนโลยีกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเทรนด์สุขภาพในยุคนี้ โดยเฉพาะอุปกรณ์ประเภท Wearable ที่สามารถติดตามข้อมูลสุขภาพรายวัน ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ คุณภาพการนอน ระดับออกซิเจนในเลือด ไปจนถึงภาวะความเครียด ข้อมูลเหล่านี้ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยออกแบบกิจกรรมที่เหมาะกับสภาพร่างกายและจังหวะชีวิตของแต่ละคนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

เทรนด์ 'เวิร์กเอาต์แบบกลุ่ม' ฟิตได้ ไม่กลัวเหงา I Creative Economy

รายงานของ McKinsey ระบุว่า หนึ่งในสามของคนรุ่น Millennials ในสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล หรือ Personalized Wellness ขณะที่ยอดการจองบริการ Body Scan เพื่อตรวจวัดองค์ประกอบร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นมวลกล้ามเนื้อหรือความหนาแน่นของกระดูก เพิ่มขึ้นกว่า 150% ภายในปีเดียว

กลุ่ม Gen Z คือพลังสำคัญที่ขับเคลื่อนเทรนด์สุขภาพยุคใหม่ ปัจจุบัน 66% ของคนรุ่นนี้ใช้แอปพลิเคชันหรืออุปกรณ์ติดตามสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญคือ พวกเขายินดีเปิดเผยข้อมูลสุขภาพส่วนตัว หากนั่นช่วยให้ได้รับคำแนะนำที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น

ในด้านสุขภาพจิต พวกเขาเปิดรับและพูดถึงอย่างตรงไปตรงมา โดย 39% เคยใช้บริการบำบัดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ขณะที่เกือบครึ่งเคยทดลองแนวทางดูแลสุขภาพทางเลือก เช่น สมาธิบำบัดหรือกิจกรรมบูรณาการ

อีกกระแสหนึ่งที่กำลังมาแรงควบคู่กันคือการออกกำลังกายแบบกลุ่ม หรือที่หลายคนเรียกกันว่า Community-Based Fitness โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมและความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน มากกว่าการฝึกคนเดียวแบบเดิม ๆ ในกรุงเทพฯ

เทรนด์ 'เวิร์กเอาต์แบบกลุ่ม' ฟิตได้ ไม่กลัวเหงา I Creative Economy

แนวโน้มนี้เริ่มเห็นได้ชัดจากการเกิดขึ้นของกลุ่มออกกำลังกายขนาดเล็กที่รวมตัวกันผ่านโซเชียลมีเดีย ก่อนจะนัดพบกันในสวนสาธารณะหรือพื้นที่กลางแจ้ง เช่น 

  • Bangkok Midnight Runners เปลี่ยนการวิ่งยามค่ำคืนให้กลายเป็นกิจกรรมกึ่งปาร์ตี้ มีจังหวะดนตรีและบรรยากาศสนุก ๆ ไปพร้อมกับการออกกำลังกาย 
  • Run Culture เลือกวิ่งสำรวจย่านเมืองเก่า เพิ่มมุมมองใหม่ให้กับกรุงเทพฯ 
  • Cruise Control Run Club เป็นคลับวิ่งที่แตกต่างด้วยการผสมผสานวัฒนธรรมสตรีทแวร์เข้ากับการวิ่ง สร้างพื้นที่รวบรวมคนที่มีความหลงใหลในการวิ่งและการแต่งตัวให้ได้มาเจอกัน
  • Sabai Run Club เรียกตัวเองว่า “Bangkok’s Laziest Run Club” ที่ตั้งใจให้การวิ่งเป็นเรื่องง่ายและเป็นมิตร ไม่เร่ง ไม่แข่ง แต่ให้ความสำคัญกับจังหวะและความสบายใจของแต่ละคน

เทรนด์สุขภาพในวันนี้ยังขยายออกไปไกลกว่าการวิ่ง กลุ่มกิจกรรมใหม่ ๆ เริ่มสะท้อนอัตลักษณ์เฉพาะตัวของผู้เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็น Ice Bath ที่หลายคนใช้เป็นวิธีรีเซ็ตสมองและร่างกาย หรือ Puppy Yoga และ Baby Yoga ที่ผสานการออกกำลังเข้ากับความผูกพันในครอบครัว รวมไปถึงกิจกรรมกลางแจ้งอย่างพิลาทิสในสวนหรือริมแม่น้ำ ที่กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมของคนเมืองที่อยากหลีกหนีจากหน้าจอและกลับมาเชื่อมต่อกับธรรมชาติอีกครั้ง

เทรนด์ 'เวิร์กเอาต์แบบกลุ่ม' ฟิตได้ ไม่กลัวเหงา I Creative Economy

การออกกำลังกายในปัจจุบันจึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องกล้ามเนื้อหรือระบบไหลเวียนเลือดเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับภาวะอารมณ์ ความสงบภายใน และคุณภาพความสัมพันธ์กับผู้อื่น