ย้อนไทม์ไลน์ความสัมพันธ์ ‘อีลอน มัสก์-ทรัมป์’ เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก แรงมาแรงกลับ

ย้อนไทม์ไลน์ความสัมพันธ์ ‘อีลอน มัสก์-ทรัมป์’ เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก แรงมาแรงกลับ

ย้อนไทม์ไลน์ความสัมพันธ์ระหว่าง ‘มหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ กับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์’ เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก เดี๋ยวดีแล้วร้ายใส่กัน นักธุรกิจแรงมา ปธน.แรงกลับ

มหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความสัมพันธ์กันแบบคบๆ เลิกๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ทั้งสองคนไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนั้นแต่ก็กลายมาเป็นพันธมิตรทางการเมือง และมัสก์ก็เรียกตัวเองว่าเป็นเพื่อนคนแรกของทรัมป์ หลังเขาชนะเลือกตั้งปี 2567 และบริจาคเงินให้กลุ่มสนับสนุนทรัมป์กว่า 200 ล้านดอลลาร์

ตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง มัสก์ก็มักปรากฏตัวยืนเคียงข้างประธานาธิบดีและได้ดำรงตำแหน่งประธานกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ของทรัมป์ ซึ่งเป็นกระทรวงที่ต้องการลดต้นทุนต่างๆ ในรัฐบาลกลาง

แต่ต่อมาในเดือนพ.ค. มัสก์ก็เริ่มตีตัวออกห่าง และบอกว่าตนต้องใช้เวลากับธุรกิจให้มากขึ้นและใช้เงินไปกับการเมืองให้น้อยลง

จากนั้นต้นเดือนมิ.ย. ความสัมพันธ์ของมัสก์และทรัมป์ก็เริ่มร้าวฉานเมื่อทั้งสองคนมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเรื่อง “งบประมาณก้อนใหญ่”

แล้วความสัมพันธ์ของมหาเศรษฐีมัสก์และปธน.ทรัมป์ ดำเนินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร บิสซิเนสอินไซเดอร์ สรุปไว้ดังนี้

ก่อนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรกของทรัมป์:

  • พ.ย. 2016 : มัสก์บอกว่าทรัมป์ไม่ใช่ชายที่คู่ควรกับตำแหน่งนี้

ก่อนการเลือกตั้งปี 2016 มัสก์กล่าวกับซีเอ็นบีซีว่า ตนไม่คิดว่าทรัมป์เหมาะกับตำแหน่งประธานาธิบดี และบอกว่า นโยบายเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของฮิลลารี คลินตัน แคนดิเดตในศึกเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นนโยบายที่เหมาะสม

 

ความร่วมมือระหว่างมัสก์และทรัมป์ช่วงทรัมป์เป็นปธน.สมัยแรก (2017-2020):

  • ธ.ค. 2016 : ทรัมป์แต่งตั้งมัสก์เป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ

มัสก์ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจสองสภา ร่วมกับผู้นำธุรกิจคนอื่นๆ เช่น ทราวิส คาลานิก ซีอีโออูเบอร์

มัสก์ถูกวิจารณ์เรื่องการทำงานร่วมกับประธานาธิบดีผู้สร้างความขัดแย้ง แต่เขาปกป้องทางเลือกของตนเอง โดยบอกว่าจะได้ใช้ตำแหน่งดังกล่าวล็อบบี้เพื่อให้มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและการย้ายถิ่นฐานที่ดีขึ้น

  • มิ.ย. 2017 : มัสก์ตัดสัมพันธ์กับทำเนียบขาวเพื่อประท้วงนโยบายสิ่งแวดล้อมของทรัมป์

วันที่ 1 มิ.ย. 2017 หลังจากทรัมป์ประกาศว่าสหรัฐจะออกจากความตกลงปารีส มัสก์ก็ลาออกจากสมาชิกสภาที่ปรึกษา เพราะมองว่าการถอนตัวออกจากความตกลงดังกล่าวไม่เป็นผลดีต่ออเมริกาหรือต่อโลก ขณะที่เป้าหมายของเทสลา ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าของมัสก์คือการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล ด้วยการหันไปใช้ยานยนต์ไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ และแหล่งกักเก็บพลังงานคงที่ หรือแบตเตอรี่

  • ม.ค. 2020 : ทรัมป์ยกย่องมัสก์เป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ เมื่อเทสลามีมูลค่าบริษัทมากกว่าฟอร์ดและเจนเนอรัลมอเตอร์ส
  • พ.ค. 2020 : ทรัมป์หนุนมัสก์ขัดแย้งสาธารณสุขแคลิฟอร์เนีย

ช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนักในสหรัฐในปี 2020 มัสก์มีความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐแคลิฟอร์เนียที่บังคับให้เทสลาปิดโรงงานในแคลิฟอร์เนียชั่วคราว แต่ทรัมป์ออกมาแสดงความสนับสนุนมัสก์ โดยโพสต์ในทวิตเตอร์ว่า แคลิฟอร์เนียควรให้เทสลาและอีลอนมัสก์เปิดโรงงานทันที

ช่วงหลังทรัมป์พ้นจากตำแหน่ง (2021-2024):

  • พ.ค. 2022 : มัสก์บอกว่าเขาจะฟื้นบัญชีทวิตเตอร์ของทรัมป์

มัสก์บอกว่าการแบนทวิตเตอร์ทรัมป์เป็นการตัดสินใจที่ผิดศีลธรรมและโง่เขลา อนึ่ง ทรัมป์ถูกแบนออกจากทวิตเตอร์หลังจากมีการก่อเหตุจราจลโจมตีรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564

  • ก.ค. 2022 : ทรัมป์เรียกมัสก์ “ศิลปินที่ไร้สาระ”

ทรัมป์กล่าวโจมตีมัสก์ โดยบอกว่ามัสก์ได้โหวตให้กับเขาแล้วจากนั้นก็ปฏิเสธ จึงบอกว่ามัสก์เป็นศิลปินไร้สาระ

  • ก.ค. 2022 : มัสก์บอกว่าทรัมป์ไม่ควรลงสมัครอีกสมัย

มัสก์หยุดโจมตีทรัมป์ และบอกว่าทรัมป์ไม่ควรลงสมัครเป็นประธานาธิบดีอีก และว่าอายุสำหรับการเริ่มดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสูงสุดตามกฎหมายแล้วควรอยู่ที่ 69 ปี แต่ทรัมป์อายุ 76 ปี

  • ก.ค. 2022 : ทรัมป์กล่าวโจมตีมัสก์กลับ

ทรัมป์โพสต์ในทรูธโซเชียลว่า อีลอน มัสก์มาที่ทำเนียบขาวเพื่อขอความช่วยเหลือในด้านโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับได้ไม่นานพอ รถยนต์ไร้คนขับที่ชนคนอื่น หรือยานอวกาศที่บินไปไหนไม่ได้ ซึ่งถ้าบริษัทเขาไม่ได้รับเงินอุดหนุนเหล่านี้ก็ไร้ค่า

ขณะที่มัสก์ตอบกลับผ่านทวิตเตอร์ว่า ขำโว้ย

  • ต.ค. 2022 : ทรัมป์ชมมัสก์ซื้อทวิตเตอร์ แต่บอกว่าคงไม่กลับไปใช้หรอก

ทรัมป์บอกว่า ดีใจที่ทวิตเตอร์อยู่ในมือของผู้มีสติสัมปชัญญะไม่ถูกควบคุมโดยพวกหัวรุนแรงฝ่ายซ้ายจัด แต่ก็บอกว่าเขาชอบ Truth Social มากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ

  • พ.ค. 2023 : มัสก์เป็นเจ้าภาพช่วยรอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ที่ประกาศลงสมัครแคนดิเดตครั้งแรกแต่เกิดข้อผิดพลาด

ก่อนเดอซานติสประกาศลงสมัครแคนดิเดติ มัสก์ประกาศจะสนับสนุนเขา แต่ไม่กี่นาทีแรกในการประกาศลงสมัครอย่างเป็นทางการ การถ่ายทอดสดเต็มไปด้วยปัญหาทางเทคนิค ทั้งการเชื่อมต่อล้มเหลว เสียงกระตุก หรือสัญญาณไม่เสถียร ทำให้เดอซานติสมีเส้นทางการเริ่มต้นที่ไม่สวย

  • ก.ย. 2023 : มัสก์บอกว่า สหรัฐจำเป็นต้องมีกำแพงชายแดนแบบที่ทรัมป์เสนอ

มัสก์ไลฟ์สดขณะไปเยือนชายแดนสหรัฐเม็กซิโกบริเวณอีเดิล พาส รัฐเท็กซัสและบอกว่า นโยบายซิกเนเจอร์ของทรัมป์อย่างการสร้างกำแพงกั้นชายแดนนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ

  • มี.ค. 2024 : ทรัมป์พยายามจีบมัสก์ แต่มัสก์บอกว่าไม่ให้เงินหรอก

นิวยอร์กไทมส์เผยว่า ทรัมป์พยายามเกลี้ยกล่อมมัสก์ระหว่างการประชุมที่รีสอร์ตมาร์อาลาโก หลังจากนั้นมัสก์ออกมาเผยว่าเขาจะไม่บริจาคเงินให้กับผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2024 ทั้งสองคน แต่ไม่ได้บอกว่าอีกคนคือใคร เพราะมัสก์ก็วิจารณ์อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนอยู่บ่อยๆ

การกลับมาเป็นพันธมิตรทางการเมืองครั้งสำคัญ (กลางปี 2024 - ต้นปี 2025):

  • ก.ค. 2024 : มัสก์ยกย่องทรัมป์หลังรอดตายจากการลอบสังหาร

มัสก์เผยภายหลังจากที่ทรัมป์รอดชีวิตจากการลอบสังหารว่า ตนจะสนับสนุนทรัมป์อย่างเต็มที่ ถือเป็นจุดเแลี่ยนทางการเมืองครั้งสำคัญของมหาเศรษฐีรายนี้ที่เคยเป็นฐานเสียงให้กับบารัก โอบามา

มัสก์ยังได้กดดันทรัมป์ให้เลือกเจดี แวนซ์ วุฒิสมาชิกรัฐโอไฮโอในขณะนั้น เป็นคู่หูหรือรองปธน.ด้วย

  • ส.ค. 2024 : ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ร่วมกับมัสก์

ทรัมป์ร่วมมัสก์ถ่ายทอดสดผ่านไลฟ์สตรีมในแพลตฟอร์ม X นาน 2 ชั่วโมง และมีผู้เข้าชมกว่า 1 ล้านคน

ทั้งสองคนคุยกันหลายประเด็น ตั้งแต่เล่าเรื่องการถูกลอบสังหารประเด็นการอพยพผิดกฎหมาย ไปจนถึงบทบาทที่มัสก์อาจได้รับในคณะกรรมการประสิทธิภาพรัฐบาลของทรัมป์

ซึ่งในเดือนนี้เองที่ทรัมป์เผยว่าเขาเริ่มพิจารณาเพิ่มมัสก์เข้าคณะรัฐมนตรี หรือนั่งตำแหน่งที่ปรึกษา

ซีอีโอของเทสลา ตอบกลับด้วยการทวีตภาพตัวเองบนโพเดียมที่มีอักษรย่อ “D.O.G.E” หรือกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล ซึ่งเป็นภาพสร้างจากเอไอ และใส่แคปชันว่า “ผมเต็มใจที่จะรับใช้”

  • ก.ย. 2024 : มัสก์บอกว่า พร้อมทำหน้าที่ถ้าทรัมป์ให้ตำแหน่งที่ปรึกษา

ทรัมป์ได้ลดระดับการเสนอมัสก์เข้าร่วมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากมัสก์มีข้อจำกัดด้านเวลาเพราะต้องดูแลธุรกิจของตนเองด้วย แต่ตามที่วอชิงตันโพสต์รายงาน ทรัมป์บอกว่ามัสก์ยังคงสามารถให้คำปรึกษาและช่วยเสนอ “แนวคิดดีๆ บางอย่าง” ได้

จากนั้น มัสก์ก็ตอบกลับทวีตบทความของวอชิงตันโพสต์ว่า “ผมรอไม่ไหวแล้ว มีการทุจริตและกฎระเบียบที่ไม่จำเป็นมากมายในรัฐบาลที่ต้องกำจัดออกไป”

ต่อมาก็โพสต์ใน X อีกว่า เขาเต็มใจที่จะรับใช้ประเทศโดยไม่ต้องรับค่าจ้าง ตำแหน่ง หรือการยอมรับใดๆ ก็ได้

  • ต.ค. 2024 : มัสก์กล่าวสุนทรพจน์ ณ ที่ชุมนุมหาเสียงกับทรัมป์ ในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย

มัสก์สวมหมวกสีดำล้วนที่เขียนว่า “Make America Great Again” หรือ ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง และกล่าวปราศรัยสั้นๆ ว่าการออกมาลงคะแนนเสียงให้ทรัมป์ในปีนี้มีความจำเป็น มิฉะนั้น “นี่จะเป็นการเลือกตั้งครั้งสุดท้าย”

“ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องชนะเพื่อรักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ” มัสก์กล่าว และว่า เขาต้องชนะเพื่อรักษาประชาธิปไตยในอเมริกา

  • พ.ย. 2024 :ทรัมป์ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีและแต่งตั้งมัสก์ทำงานภายใต้รัฐบาลของตน

มัสก์ยืนเคียงข้างทรัมป์ในคืนเลือกตั้ง ณ มาร์อาลาโก และร่วมเฉลิมฉลองชัยชนะ

หลังจากชนะเลือกตั้งไม่ถึงสัปดาห์ ทรัมป์ก็ประกาศว่ามัสก์และวิเวกรามาสวามี ได้รับเลือกเป็นผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ หรือ DOGE

นิวยอร์กไทม์สเผยว่า นอกเหนือจากหน้าที่บริหารแล้ว มัสก์ยังเข้าร่วม “การประชุมแทบทุกครั้ง และร่วมรับประทานอาหารกับทรัมป์อยู่หลายครั้ง” นอกจากนี้ ซีอีโอของเทสลายังเข้าร่วมการหารือระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน และประธานาธิบดีเรเจป ทายิป แอร์โดอันของตุรกี ขณะที่ทั้งสองคนอยู่ที่คลับมาร์อาลาโกของทรัมป์

“อีลอนจะไม่กลับบ้าน” ทรัมป์บอกกับเอ็นบีซีนิวส์อย่างติดตลก “ผมกำจัดเขาไม่ได้”

ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของทั้งสองคนได้ขยายไปสู่มิตรภาพที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ผู้คนพบเห็นมัสก์เข้าร่วมงานเลี้ยงวันขอบคุณพระเจ้าของทรัมป์ และอยู่ในสนามกอล์ฟกับทรัมป์และหลานๆ ของเขา ซึ่งไค ทรัมป์บอกว่า มัสก์ได้รับสถานะเป็น “ลุง” ของหลานๆ ด้วย

ความตึงเครียดรอบล่าสุดและมัสก์ถอนตัวจากรัฐบาลทรัมป์ (ต้นปี 2025 - มิ.ย. 2025):

  • ธ.ค. 2024 :ทรัมป์ยืนยันเขาจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป ไม่ใช่มัสก์

ทรัมป์ยืนยันเขาเป็นผู้บริหารประเทศ ปฏิเสธกระแสความคิดที่ว่าเขา “สละตำแหน่งประธานาธิบดี” ให้กับมัสก์ และบอกว่า แม้มหาเศรษฐีคนนี้ต้องการเป็นประธานาธิบดีก็ไม่สามารถทำได้ เพราะมัสก์เกิดในแอฟริกาใต้

  • ม.ค. 2025 : มัสก์และบรรดานักธุรกิจระดับโลกร่วมพิธีสาบานตนทรัมป์

ทรัมป์สาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการวันที่ 20 ม.ค. ซึ่งเป็นงานที่มีผู้นำด้านเทคโนโลยีหลายคนเข้าร่วมด้วย นอกจากมัสก์แล้ว ยังมีมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของเมตา, เจฟฟ์ เบซอส เจ้าของแอมะซอน และซุนดาร์ พิชัย ผู้บริหารกูเกิล

  • ก.พ. 2025 : ทำเนียบขาวบอกว่ามัสก์ไม่ได้บริหาร DOGE

แม้มัสก์เป็นหน้าเป็นตาของความพยายาม DOGE แต่เอกสารที่ยื่นต่อศาล ทำเนียบขาวระบุว่า มัสก์ “ไม่มีอำนาจจริง หรือไม่มีอำนาจอย่างเป็นทางการในการตัดสินใจงานรัฐบาลด้วยตัวเอง”

ในเอกสารดังกล่าวอธิบายว่ามัสก์เป็นที่ปรึกษาอาวุโสของทรัมป์ซึ่ง “ไม่มีอำนาจมากกว่าที่ปรึกษาอาวุโสของทำเนียบขาวคนอื่นๆ” เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็เรียกมัสก์ว่า “พนักงานพิเศษของรัฐบาล”

ขณะที่ทรัมป์บอกกับนักข่าวว่า จะเรียกตนว่าอะไรก็ได้

ส่วนทรัมป์บอกว่า สำหรับตนอีลอนเป็นคนรักชาติ "คุณสามารถเรียกเขาว่าพนักงาน ที่ปรึกษา หรืออะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ”

  • มี.ค. 2025 : ทรัมป์ซื้อรถเทสลาเรียกความเชื่อมั่น

ท่ามกลางกระแสคว่ำบาตรเทสลาที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากอีลอน มัสก์ เข้าไปเกี่ยวข้องกับรัฐบาลทรัมป์มากขึ้น ทั้งการประท้วง การสร้างความเสียหายตามสาขาตัวแทนจำหน่ายเทสลาทั่วสหรัฐ ตั้งแต่ต้นปี 2025 ทรัมป์ได้ออกมาแสดงตัวปกป้องบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของมัสก์ด้วยการซื้อรถยนต์เทสลา และโชว์ภาพรถยนต์ดังกล่าวจอดอยู่ในสนามหญ้าทางทิศใต้ของทำเนียบขาว

  • เม.ย. 2025 : มัสก์ประกาศถอนตัวจาก DOGE

สามเดือนหลังจากที่ DOGE ดำเนินการปฏิรูปแรงงานในรัฐบาลกลาง มัสก์ก็ประกาศถอนตัวระหว่างการประชุมรายงานผลประกอบการของเทสลา และทำให้กำไรต่อหุ้นลดลง 71% เมื่อเทียบเป็นรายปี

มัสก์ออกมาประกาศลดลทบาทเนื่องจากต้องการจัดสรรเวลาให้กับเทสลามากขึ้น และว่าภารกิจใน DOGE เสร็จเรียบร้อยแล้ว

  • พ.ค. 2025 : มัสก์บอกว่าเขาจะใช้เวลาในการเมืองน้อยลง วิจารณ์นโยบายของรีพับลิกัน และประกาศว่าจะออกจากรัฐบาลถาวร

เดือนพ.ค. มัสก์เริ่มลดบทบาทในกิจกรรมทางการเมืองโดยรวม และว่า จะใช้จ่ายทางการเมืองน้อยลงในอนาคต ทั้งยังบอกด้วยว่า“ไม่เห็นเหตุผล” ที่จะต้องทุ่มเงินให้กับการเมือง ทั้งๆ ที่เคยสนับสนุนพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งล่าสุดอย่างแข็งขัน

ในปลายเดือนพ.ค. มัสก์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์วาระการประชุมของพรรครีพับลิกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในการสัมภาษณ์กับซีบีเอส มัสก์บอกว่า ตนไม่พอใจกับร่างกฎหมายการใช้จ่ายที่ “สวยงามและยิ่งใหญ่” ของทรัมป์และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกัน

“ผมผิดหวังที่เห็นร่างงบประมาณการใช้จ่ายมหาศาล ซึ่งทำให้การขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น และบั่นทอนการทำงานของทีม DOGE"

จากนั้นในวันที่ 28 พฤษภาคม มัสก์ก็ตัดความสัมพันธ์กับ DOGE และรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งทำเนียบขาวก็ยืนยันว่าได้เริ่มกระบวนการปลดมัสก์ออกจากตำแหน่งแล้ว

  • มิ.ย. 2025 : มัสก์และทรัมป์ยกระดับการโจมตีกันและกัน 

หลังจากมัสก์ออกโรงตำหนิร่างงบประมาณ “Big Beautiful Bill” อย่างรุนแรง

ไม่กี่วันหลังจากลาออกจาก DOGE มัสก์ก็ได้วิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎงบประมาณการใช้จ่ายของพรรครีพับลิกันอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

“ผมขอโทษ แต่ผมทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” มัสก์โพสต์ใน X เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. “ร่างกฎหมายการใช้จ่ายของรัฐสภาที่มากมายเกินเหตุ และไม่จำเป็นนี้เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ คนที่ลงคะแนนผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ช่างน่าละอาย คุณก็รู้ดีว่าคุณทำผิด คุณรู้ดี”

สมาชิกรัฐสภาจากพรรครีพับลิกันบางคน รวมถึงวุฒิสมาชิกแรนด์ พอล และไมค์ ลี โพสต์เห็นด้วยกับมัสก์ ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ได้ออกมาปกป้องร่างกฎหมายฉบับนี้ในทรูธโซเชียลอย่างต่อเนื่อง

ในบทสัมภาษณ์กับ CBS News ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.มัสก์กล่าวว่า ตนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย "ผมไม่อยากพูดโจมตีรัฐบาล แต่ผมก็ไม่อยากรับผิดชอบในทุกสิ่งทุกอย่างที่รัฐบาลทำ"

และเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ความขัดแย้งระหว่างมัสก์และทรัมป์ก็ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อมัสก์ย้ำถึงคำวิจารณ์ของตนเองอีกครั้ง และทรัมป์ก็ขู่ธุรกิจของมัสก์

มัสก์เริ่มขุดคุ้ยทวีตเก่าๆ ของทรัมป์ขึ้นมา รวมถึงทวีตหนึ่งที่ประธานาธิบดีกล่าวไว้ในปี 2013 ว่า “ผมไม่เชื่อว่าพรรครีพับลิกันจะขยายเพดานหนี้ ผมเป็นพรรครีพับลิกัน และผมรู้สึกอับอาย!”

มัสก์อ้างอิงโพสต์ดังกล่าว โดยบอกว่าเป็น “คำพูดที่ฉลาด” ซึ่งถือเป็นการเหน็บแนมจุดยืนที่แตกต่างออกไปของทรัมป์เกี่ยวกับเพดานหนี้ในปัจจุบัน

ทรัมป์ก็ตอบโต้กลับด้วยคำพูดที่เบาลงและเป็นทางการมากกว่า โดยกล่าวว่าซีอีโอและตน “มีความสัมพันธ์ที่ดี” แต่ไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์นี้จะดำเนินต่อไปหรือไม่

ประธานาธิบดีกล่าวว่า มัสก์วิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมายของเขาเนื่องมาจากมาตรการยกเลิกลดหย่อนภาษีรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทเทสลาของมัสก์โดยตรง

 

อ้างอิง: business insider