แผ่นดินเดือด ตำรวจปะทะ ฝูงชนลอสแองเจลิส ไม่พอใจ กวาดล้างผู้อพยพ

ตำรวจปราบจลาจลแต่งตัวจัดเต็มชุดควบคุมฝูงชน เผชิญผู้ชุมนุมกลางเมืองลอสแองเจลิส หลังปฏิบัติการบุกจับผู้อพยพตลอดหนึ่งวัน ตามนโยบายทรัมป์ ทำให้มีผู้ถูกจับหลายสิบคน
วิดีโอไลฟ์สดของรอยเตอร์ แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจลอสแองเจลิส (LADP) ยืนเรียงหน้ากระดานอยู่บนถนนในตัวเมืองลอสแองเจลิส พร้อมถือกระบอง และจัดเตรียมอุปกรณ์คล้ายปืนแก๊สน้ำตา ในการเผชิญหน้ากับผู้ประท้วงนับพันคน หลังทางการสหรัฐสั่งให้กลุ่มผู้ประท้วงสลายตัวในช่วงค่ำของวันศุกร์ที่ผ่านมา ( 6 มิ.ย.)
ก่อนเริ่มเผชิญหน้า มีผู้ประท้วงบางคนขว้างเศษปูนคอนกรีตเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ตำรวจตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย นอกจากนี้ยังยิงกระสุนแสงแฟลชเข้าใส่อีกด้วย ทั้งนี้ยังไม่ชัดเจนว่าได้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยในทันทีหรือไม่
แดร็ก แมนดิสัน โฆษกสำนักงานตำรวจประจำลอสแองเจลิส ของ LADP บอกกับรอยเตอร์ว่า ตำรวจได้ประกาศในที่เกิดเหตุว่าการชุมนุมนี้ผิดกฎหมาย นั่นหมายความว่า ผู้ที่ไม่ยอมออกจากพื้นที่จะถูกจับ
การรายงานทางโทรทัศน์ในช่วงเช้าวันเดียวกัน เผยให้เห็นขบวนรถของทหารที่ไม่ระบุเครื่องหมายหน่วยงาน และรถตู้ได้นำเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางในเครื่องแบบอยู่บนท้องถนนของเมืองลอสแองเจลิส หนึ่งในการดำเนินงานเพื่อปฏิบัติตามข้อบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง
เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรของสหรัฐ เล็งไปที่สถานที่หลายแห่ง รวมถึงร้านขายเสื้อผ้าในย่านเขตแฟชั่นและโกดังเก็บเสื้อผ้าในตอนใต้ของลอสแองเจลิส ตามรายงานของ CNS บริการข่าวสารเมืองลอสแองเจลิส
CNS และสื่อท้องถิ่นอื่นๆ รายงานว่า มีผู้ถูกควบคุมตัวหลายสิบคน ระหว่างการเข้าตรวจค้น ถือเป็นการดำเนินการครั้งล่าสุดของปฏิบัติการกวาดล้างหลายครั้งที่เกิดขึ้นในหลายเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่เข้มงวดของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์
ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ให้คำมั่นจะจับกุม และเนรเทศผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารยืนยันการอนุญาตในสหรัฐ ซึ่งมีเป็นจำนวนมากครั้งประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตาม ตำรวจแอลเอที่ถูกส่งไปเผชิญหน้ากับผู้ประท้วงนั้น ไม่ได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง แต่ถูกส่งไปปราบปรามความไม่สงบทางการเมือง หลังฝูงชนออกมาประท้วงแสดงความไม่พอใจการบุกจับผู้อพยพ และยังได้พ่นสีคำต่อต้านบนผนังอาคารรัฐบาลกลาง ตลอดจนนัดชุมนุมกันหน้าเรือนจำ ซึ่งเชื่อว่าผู้ต้องขังบางส่วนถูกควบคุมอยู่ที่นั่น
อ้างอิง Reuters