ดีลได้ก็ดีล! ญี่ปุ่นเร่งทำข้อตกลงสหรัฐ ไม่รอให้ถึงประชุม G7

ดีลได้ก็ดีล! ญี่ปุ่นเร่งทำข้อตกลงสหรัฐ ไม่รอให้ถึงประชุม G7

หัวหน้าคณะเจรจาเผยที่วอชิงตัน ญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องรอการประชุมผู้นำ G7 ที่แคนาดาสัปดาห์หน้า ถ้าสามารถปิดดีลกับสหรัฐได้ก่อน

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน นายเรียวเซอิ อากาซาวา หัวหน้าคณะเจรจาการค้าญี่ปุ่น กล่าวที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันศุกร์ (6 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นว่าญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องรอการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศจี7 ที่จะจัดขึ้นในแคนาดาสัปดาห์หน้าเพื่อทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐหากทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้เร็วกว่านั้น การเจรจาการค้าของทั้งสองฝ่าย “คืบหน้า” แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทบทวนการเก็บภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ของสหรัฐได้

นายอากาซาวาไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะบรรลุดีลกันได้ในเร็วๆ นี้ แต่ระบุว่า จะเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด และย้ำว่าภาษีสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นมาก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีแผนว่าการหารือทางการค้ารอบหน้าจะมีขึ้นเมื่อใด

“ถ้าสามารถทบทวนภาษีได้ แน่นอนเราก็ไม่ต้องคอยไปจนถึงการประชุมผู้นำจี7 เรากำลังต่อรองด้วยเป้าหมายหยุดผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้ได้โดยเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายชั่วโมง หรือรายวินาที"

หัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายญี่ปุ่นกล่าวหลังการเจรจารอบที่ 5 กับนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ และนายโฮวาร์ด ลัตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ การหารือครั้งนี้เกิดขึ้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ออกเดินทางมาประชุมจี7 ที่เขากล่าวว่า จะเป็น “หมุดหมาย” ของการเจรจา

เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นรายหนึ่งสรุปกับสื่อมวลชนในกรุงวอชิงตันว่า นายอากาซาวาน่าจะเจรจาเพิ่มเติมกับคู่เจรจา ก่อนมีข้อตกลงระหว่างนายอิชิบะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ทั้งนี้ ทรัมป์ต้องการใช้ภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อปรับการขาดดุลการค้าของสหรัฐกับประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เขาเก็บภาษีรถยนต์และอะไหล่รถยนต์นำเข้าจากทั่วโลกในอัตรา 25% สัปดาห์นี้เพิ่งขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมเป็น 50% ซึ่งญี่ปุ่นก็โดนด้วย ส่วนสินค้าอื่นๆ ที่ถูกเก็บ 10% จะเพิ่มเป็น 24% ช่วงต้นเดือน ก.ค.ถ้ายังตกลงกันไม่ได้

ในเดือน ก.ค. ญี่ปุ่นจะมีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา หากยังไม่มีข้อตกลงการค้ากับสหรัฐย่อมไม่เป็นผลดีกับนายอิชิบะ เพราะภาษีเสี่ยงทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ซึ่งนายอิชิบะได้อนุมัติมาตรการฉุกเฉินดึงกองทุนสำรองมาช่วยเหลือภาคธุรกิจและครัวเรือนญี่ปุ่นรับมือความเดือดร้อนจากภาษีแล้ว

ล่าสุดมีสัญญาณเบื้องต้นว่าภาษีอาจช่วยลดขนาดการขาดดุลได้ ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า เดือน เม.ย. สหรัฐขาดดุลสินค้าและบริการลดลง 55.5% เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค. เนื่องจากการนำเข้าลดลงเป็นประวัติการณ์ 16.3%