Tesla ดิ่ง 14% หลัง 'มัสก์' ปะทะ 'ทรัมป์' ทำมูลค่าบริษัทหาย 1.5 แสนล้านดอลล์

"เทสลา" ดิ่งกว่า 14% หลัง "อีลอน มัสก์" ปะทะ "โดนัลด์ ทรัมป์" ทำมูลค่าบริษัทลด 1.5 แสนล้านดอลล์
หุ้น Tesla Inc. ร่วงลงอย่างรุนแรง 14% ในวันที่ 5 มิ.ย.68 ตามเวลา ณ กรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.68 ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทหายไปประมาณ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ในวันเดียว และยังคงร่วงต่อเนื่องอีก 2.2% ในการซื้อขายหลังเวลาทำการ
สาเหตุโดยตรง : ความขัดแย้งระหว่าง มัสก์ และ ทรัมป์
ความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่าง อีลอน มัสก์ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเดิมเคยเป็นพันธมิตรทางการเมืองที่แน่นแฟ้น โดยมัสก์อ้างว่าตัวเองเคยใช้เงินกว่า 250 ล้านดอลลาร์ช่วยให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง และกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว
การทะเลาะวิวาทในที่สาธารณะ
- ทรัมป์ แสดงความ "ผิดหวังมาก" ที่ มัสก์ วิจารณ์นโยบายภาษีหลักของเขา
- มัสก์ ตอบโต้อย่างรุนแรงว่า "ถ้าไม่มีฉัน ทรัมป์ จะแพ้เลือกตั้ง"
- ทรัมป์ ขู่จะยกเลิกสัญญา และเงินอุดหนุนของรัฐบาลให้กับบริษัทของ มัสก์
- มัสก์ ขู่ว่าจะปิดยานอวกาศ SpaceX ที่ใช้งานให้กับสหรัฐ
รากเหง้าของปัญหา : ความขัดแย้งทางผลประโยชน์
บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า ความขัดแย้งเริ่มต้นจากร่างกฎหมายภาษี One Big Beautiful Bill ของ ทรัมป์ ที่มีเป้าหมายรื้อถอนนโยบายสีเขียวยุคไบเดนโดยเฉพาะการยกเลิกสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีรถยนต์ไฟฟ้า (EV tax credits) ก่อนกำหนด 7 ปีซึ่งจะทำให้เทลลาสูญเสียสองสิ่งคือ
- สิทธิลดหย่อนภาษีมูลค่าสูงสุด 7,500 ดอลลาร์ต่อคันจะถูกยกเลิกภายในสิ้นปีนี้
- ส่งผลกระทบต่อกำไรของ Tesla ประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์ตามการวิเคราะห์ของ JPMorgan
นโยบายอื่นที่กระทบเพิ่มเติม :
- กฎหมายโจมตีข้อบังคับการขาย EV ของแคลิฟอร์เนีย อาจส่งผลกระทบ 2 พันล้านดอลลาร์
- รวมแล้วอาจกระทบครึ่งหนึ่งของรายได้ก่อนหักดอกเบี้ย และภาษีที่คาดการณ์ไว้กว่า 6 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ มัสก์ ที่เคยได้รับแต่งตั้งให้นำการปฏิรูประบบราชการ และลดงบประมาณรัฐบาลในกระทรวง Department of Government Efficiency กลับต้องมาต่อสู้เพื่อรักษาเงินอุดหนุนรัฐบาลสำหรับธุรกิจของตัวเอง โดยเขาได้ออกมาล็อบบี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมถึงไมค์ จอนสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร
บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก ยังระบุอีกว่า ทรัมป์ มีประวัติการใช้อำนาจรัฐบาลโจมตีศัตรูส่วนตัว เช่น การโจมตีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนสำหรับธุรกิจของ มัสก์ในความขัดแย้งครั้งนี้
ความขัดแย้งนี้สร้างความคลุมเครือว่า ทรัมป์ จะยังคงสนับสนุนนโยบายที่ มัสก์ต้องการหรือไม่ โดยเฉพาะกรอบการทำงานสำหรับรถยนต์ไร้คนขับที่ มัสก์มองว่าสำคัญต่ออนาคต และมูลค่าของเทสลา
ที่สำคัญ รอสส์ เกอร์เบอร์ จากบริษัทจัดการ การลงทุน Gerber Kawasaki ผู้ถือหุ้นเทสลา เตือนว่าพฤติกรรมของ มัสก์ อาจนำไปสู่การฟ้องร้องจากนักลงทุน และอาจลดมูลค่าของ SpaceX ลงครึ่งหนึ่ง
อ้างอิง: Bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







