ทรัมป์ประกาศห้ามคนจาก 12 ประเทศเข้าสหรัฐ มีผลบังคับใช้วันจันทร์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ฟื้นนโยบายห้ามการเดินทางตั้งแต่ดำรงตำแหน่งสมัยแรก โดยลงนามในประกาศเมื่อคืนวันพุธ เพื่อห้ามไม่ให้ผู้คนจาก 12 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐ
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ฟื้นนโยบายห้ามการเดินทางเข้าสหรัฐ ตั้งแต่ครั้งดำรงตำแหน่งสมัยแรก โดยลงนามในประกาศเมื่อคืนวันพุธ (4 มิ.ย.68) เพื่อ ห้ามไม่ให้ผู้คนจาก 12 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐ
12 ประเทศห้ามเดินทางเข้าสหรัฐ ได้แก่
- อัฟกานิสถาน
- เมียนมา
- ชาด
- สาธารณรัฐคองโก
- อิเควทอเรียลกินี
- เอริเทรีย
- เฮติ
- อิหร่าน
- ลิเบีย
- โซมาเลีย
- ซูดาน
- เยเมน
นอกจากการห้ามดังกล่าวซึ่งจะมีผลบังคับใช้เวลา 00.01 น. ของวันจันทร์ที่จะถึงแล้ว
ยังมีการจำกัดการเดินทางเข้าสหรัฐที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยวจาก 7 ประเทศได้แก่ บุรุนดี คิวบา ลาว เซียร์ราลีโอน โตโก เติร์กเมนิสถาน และเวเนซุเอลา
ทรัมป์อ้างความมั่นคง
“ผมต้องดำเนินการเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ และผลประโยชน์ของชาติสหรัฐ และประชาชน” ทรัมป์ กล่าวในประกาศ
รายชื่อประเทศดังกล่าวเป็นผลมาจากคำสั่งฝ่ายบริหารที่ทรัมป์ออกเมื่อวันที่ 20 มกราคม โดยกำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศ และความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ รวมถึงผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติจัดทำรายงานเกี่ยวกับ "ทัศนคติที่ไม่เป็นมิตร" ต่อสหรัฐอเมริกา และว่าการเข้าประเทศจากประเทศบางประเทศถือเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่
ในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรก ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหารในเดือนมกราคม 2017 ห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็น มุสลิม ซึ่งรวมถึงอิรัก ซีเรีย อิหร่าน ซูดาน ลิเบีย โซมาเลีย และเยเมน เดินทางไปสหรัฐอเมริกา
นับเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวาย และสับสนที่สุดช่วงหนึ่งของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา นักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านี้ถูกห้ามไม่ให้ขึ้นเครื่องบินไปยังสหรัฐอเมริกา หรือถูกกักตัวที่สนามบินของสหรัฐอเมริกาหลังจากลงเครื่องแล้ว ซึ่งรวมไปถึงนักเรียน และคณาจารย์ ตลอดจนนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว และผู้ที่ไปเยี่ยมเพื่อน และครอบครัว คำสั่งดังกล่าวซึ่งมักเรียกกันว่า “การห้ามชาวมุสลิม” หรือ “การห้ามเดินทาง” ได้รับการปรับปรุงใหม่ท่ามกลางการฟ้องร้องทางกฎหมาย จนกระทั่งศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามคำสั่งฉบับหนึ่งในปี 2018
คำสั่งห้ามดังกล่าวส่งผลกระทบต่อนักเดินทาง และผู้อพยพหลายประเภทจากอิหร่าน โซมาเลีย เยเมน ซีเรีย และลิเบีย รวมถึงชาวเกาหลีเหนือ เจ้าหน้าที่รัฐบาลเวเนซุเอลา และครอบครัวของพวกเขา
ทรัมป์และคนอื่นๆ ได้ปกป้องคำสั่งห้ามฉบับแรกด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ โดยให้เหตุผลว่าคำสั่งดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องประเทศ ไม่ใช่มีพื้นฐานมาจากอคติต่อชาวมุสลิม อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีได้เรียกร้องให้มีการห้ามชาวมุสลิมอย่างชัดเจนระหว่างการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาวครั้งแรก
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







