เก็บตกเวที Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 30 l World Pulse

ในฐานะโต๊ะข่าวต่างประเทศ World Pulse ติดตามเวทีนี้มาหลายครั้งหลายหน ปีนี้โชคดีได้ไปสัมผัสบรรยากาศจากสถานที่จริง สมควรนำมาเล่าสู่กันฟัง

สัปดาห์ก่อน World Pulse ติดตามคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ “มาริษ เสงี่ยมพงษ์” ไปแสดงปาฐกถา Nikkei Forum  Future of Asia ครั้งที่ 30 ในหัวข้อ Asia’s Challenge in a Turbulent World ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รัฐมนตรีเผยว่า หนังสือพิมพ์ Nikkei   เชิญนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร มาแสดงปาฐกถาในงานสำคัญประจำปี ซึ่งนายกฯ ได้มอบหมายรัฐมนตรีต่างประเทศมาทำหน้าที่นี้แทน 

“Nikkei เขาเชิญเรามาหลายปี ถ้าจำได้ปีที่แล้วนายกฯ เศรษฐาท่านมาเอง เวทีนี้มีบุคคลสำคัญหลากหลาย ทั้งท่าน (โมฮัมหมัด) ยูนุส ที่ปรึกษารัฐบาลบังกลาเทศ ซึ่งท่านมีความสนิทสนมกับนายกรัฐมนตรีแพทองธารเป็นอย่างมาก ท่านเพิ่งมาเยือนประเทศไทย และเป็นคนที่สามารถพูดโน้มน้าวเด็กรุ่นใหม่ๆ ได้ดี” 

รมว.มาริษกล่าวด้วยว่า การได้มาพูด ณ Nikkei Forum ถือเป็นโอกาสให้ไทยได้แสดงจุดยืน สิ่งที่รัฐมนตรีพูดบนเวทีสรุปสั้นๆ ได้ห้าประเด็นคือ 1. เสริมสร้างการค้าการลงทุนระหว่างกันทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี 2. ห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นและอัจฉริยะ   3. การเปล่ี่ยนผ่านสีเขียวและการเติบโตอย่างยั่งยืน  4. การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและการทำงานในอนาคต และ  5. พัฒนาประชาชนและความมั่นคงของมนุษย์ 

รัฐมนตรีเล่าว่า หลังพูดจบมีหลายคนมาแสดงความยินดีและเห็นด้วยกับสิ่งที่ตนได้พูดไป รายละเอียดของปาฐกถาครั้งนี้หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจรายงานไปหมดแล้ว ไม่ขอพูดซ้ำอีก วันนี้จะขอเล่าเฉพาะบรรยากาศเอ็กซ์คลูสีฟ ซึ่งตามกำหนดการ รมว.มาริษ ต้องขึ้นพูดเป็นคนที่ 3 ในวันแรกของการจัดงาน แต่ World Pulse เห่อจัดไปเฝ้าเวทีตั้งแต่ไก่โห่ ค่อยๆ สังเกตคนเข้ามาร่วมงานทีละคนสองคนจนเต็มห้องแขกราว 500 คน ความเก๋อยู่ที่ว่า เวทีระดับสากลแบบนี้พิธีกรต้องใช้ภาษาอังกฤษ แต่มีพิธีกรบางคนพูดภาษาญี่ปุ่น วิทยากรใส่หูฟังแปลสดจากล่ามภาษาอังกฤษ สามารถพูดคุยถามตอบกันได้อย่างออกรสออกชาติโดยที่ภาษาไม่ได้เป็นอุปสรรค 

ไฮไลท์หนึ่งของเวทีวันแรกคือ ปาฐกถาของโมฮัมหมัด ยูนุส ที่ปรึกษารัฐบาลรักษาการบังกลาเทศ ซึ่งเมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย. ท่านได้มาร่วมประชุมผู้นำ BIMSTEC ที่กรุงเทพฯ และได้แสดงปาฐกถากับเยาวชน ณ ห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ World Pulse ติดภารกิจอื่นไม่ได้ไปฟัง  เวที Nikkei Forum จึงเป็นครั้งแรกที่ World Pulse ได้เห็นยูนุสด้วยตาเนื้อ ฟังท่านแบบสดๆ เห็นภาพผู้ใหญ่ใจดี พูดจาสุภาพ ไม่เกรี้ยวกราด สร้างความหวังให้กับคนหนุ่มสาว ที่จำได้ติดหูคือ ยูนุสบอกว่า เราไม่ควรเป็นแค่คนหางาน แต่ต้องเป็นคนสร้างงาน นั่นคือจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ 

ตกเย็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่วิทยากรและแขกผู้มีเกียรติ World Pulse ก็ไปสังเกตการณ์หน้างานเหมือนเดิม บริเวณโถงด้านหน้าห้องจัดเลี้ยง หนังสือพิมพ์ Nikkei  จัดนิทรรศการย้อนรอยเวทีเสวนาที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1995 มีภาพผู้นำประเทศเอเชียที่เคยมาแสดงปาฐกถามากมายหลายท่านเห็นแล้วตื่นตาตื่นใจ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็เคยมา 

ที่เซอร์ไพรส์มากคือ ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มาร่วมงานตั้งแต่ยังหนุ่ม ปีนี้ก็ไม่พลาดแถมยังแข็งแรงมากทั้งๆ ที่เพิ่งมีข่าวท่านเข้าโรงพยาบาลเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ดร.มหาธีร์ควงมาดามสิตี ฮัสมาห์ โมฮัมหมัด อาลี ภริยามาด้วย แข็งแรงสมวัยด้วยกันทั้งคู่ สมเป็นผัวแก้วเมียขวัญ 

ผู้นำคนอื่นๆ ที่ World Pulse จำได้คือ ทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศลาว, รองนายกรัฐมนตรีกัน คิมยง ของสิงคโปร์, อดีตนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ตัวจริงหนุ่มกว่าที่เห็นในภาพ   และยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียว เธอเคยมาเยือนไทยพบปะกับผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เมื่อต้นเดือน ก.พ. ตอนนั้น World Pulse เห็นว่าตัวจริงเธอสาวและสวยมาก มาเจออีกครั้งที่โตเกียวยิ่งสวยกว่าเดิม 

ส่วนคนไทยอีกหนึ่งคนที่ร่วมแสดงปาฐกถาในปีนี้คือธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งได้พูดคุยกับรัฐมนตรีมาริษอยู่นานสองนานในงานเลี้ยงอาหารค่ำ รัฐมนตรีเล่าว่า ทั้งสองได้หารือกันเรื่องบทบาทของประเทศไทยในด้านความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมให้เอสเอ็มอีด้านการเกษตรของไทยมีบทบาทด้านนี้มากขึ้น รัฐมนตรีให้คำมั่นกับ World Pulse พร้อมเป็นตัวเชื่อมให้เอสเอ็มอีที่มีศักยภาพพัฒนาสินค้าของตนเองขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญด้าน food security "เพราะท้ายที่สุดแล้วโลกต้องการความมั่นคงด้านอาหาร" 

นี่คือบรรยากาศเล็กๆ น้อยๆ จากโตเกียว ได้เห็นบทบาทสื่อมวลชนกระแสหลักที่นอกจากต้องรายงานข้อเท็จจริงสู่ผู้อ่านแล้ว ยังเป็นเวทีเชื่อมโยงความคิดเห็นอันหลากหลายเพื่อสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้น รมว.มาริษเล่าด้วยว่า ตอนที่พบกับประธาน Nikkei ตนได้เสนอความร่วมมือระหว่างสื่อกระแสหลักของไทยกับ Nikkei อยากให้มีการแลกเปลี่ยนการทำงานระหว่างกันรวมถึงแลกเปลี่ยนในแง่ธุรกิจด้วย World Pulse  ในฐานะสื่อได้ฟังไอเดียนี้แล้วก็ชื่นใจส่วนผลจะเป็นอย่างไรคงต้องติดตามกันต่อไป