'อังกฤษ' เล็งปฏิรูปกองทัพ ทุ่มลงทุน 'นิวเคลียร์-เรือดำน้ำ' 6.6 แสนล้านบาท

เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เผยแผนปฏิรูปกองทัพครั้งใหญ่ เตรียมขยายขีดความสามารถโครงการนิวเคลียร์และซื้ออาวุธหนัก แต่ปฏิเสธเผยเป้าหมายบรรลุการใช้จ่ายงบประมาณกลาโหม 3% ของจีดีพี
เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า สหราชอาณาจักรเตรียมก้าวสู่ตำแหน่งประเทศที่พร้อมรบ เพื่อตอบสนองต่อภัยตุกตามและความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นในโลก ขณะที่รัฐบาลประกาศแผนลงทุน 15,000 ล้านปอนด์ ในโครงการหัวรบนิวเคลียร์ และสร้างเรือดำน้ำมากถึง 12 ลำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือ AUKUS ที่ดำเนินการร่วมกับสหรัฐและออสเตรเลีย
“หากต้องการยับยั้งความขัดแย้ง วิธีที่ดีที่สุดคือการเตรียมพร้อมสำหรับความขัดแย้ง” สตาร์เมอร์กล่าวกับสถานีวิทยุบีบีซีก่อนที่รัฐบาลจะเผยแพร่แผนการป้องกันเชิงยุทธศาสตร์
“โลกเปลี่ยนไปแล้ว เราต้องพร้อม” สตาร์เมอร์ย้ำ
นอกจากนี้ การลงทุนโครงการนิวเคลียร์รอบใหม่ ยังมาพร้อมกับการสร้างโรงงานผลิตอาวุธใหม่ 6 แห่ง เพื่อสร้างการผลิตทางอุตสาหกรรมที่มีการดำเนินงานตลอดเวลา รวมถึงซื้อขีปนาวุธพิสัยสูงถึง 7,000 ลูก และจะลงทุนด้านความปลอดภัยไซเบอร์ และคลังอุปกรณ์สนับสนุนต่างๆ
แผนด้านกลาโหมดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความสงสัยเกี่ยวกับความเต็มใจของสหรัฐในการรับประกันความปลอดภัยในยุโรปในช่วงเวลาที่รัสเซียรุกรานยูเครน ซึ่งกระตุ้นให้รัฐบาลอังกฤษต้องประกาศแผนเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเป็น 2.5% ของจีดีพีในปี 2570 จากประมาณ 2.3% ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม แผนการเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเป็นระดับ 3% ของจีดีพี ตามที่มาร์ก รุตต์ เลขาธิการนาโตรแนะว่า สมาชิกควรใช้จ่ายกลาโหมอย่างน้อย 3.5% ยังคงคลุมเครือ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเรียกร้องให้สมาชิกใช้จ่ายกลาโหมมากถึง 5%
บลูมเบิร์กระบุว่า เนื่องจากมีแรงกดดันด้านเวลา สตาร์เมอร์จึงยังไม่ให้คำมั่นสัญญาเกี่ยวกับเป้าหมายการใช้จ่ายกลาโหม จนกว่าจะทราบว่าจะนำงบประมาณมาจากที่ใด
แผนกลาโหมที่เผยแพร่ในวันจันทร์ (2 มิ.ย.) ยัตมีขึ้นหลังจากอังกฤษจกอยู่ในช่วงที่ประเทศลงทุนในอุตสาหกรรมกลาโหมน้อยเกินไป ทำให้ขนาดของกองทัพอังกฤษลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ยุคสงครามนโปเลียน
ด้านเดอะซันเดย์ไทม์ส รายงานว่า รัฐบาลพรรคแรงงานยังต้องการซื้อเครื่องบินขับไล่ที่ผลิตในสหรัฐด้วย ซึ่งเป็นเครื่องบินที่สามารถบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีได้ นอกจากนี้ รายงานยังระบุด้วยว่า มีการนำเสนอโล่แบบใหม่ (อาจหมายถึงระบบป้องกันขีปนาวุธ เช่น ไอรอนโดมของอิสราเอล) เพื่อปกป้องประเทศจากขีปนาวุธของศัตรู และจัดตั้งกองกำลังพลเรือนป้องกันตนเองขึ้นใหม่
ทั้งนี้ สงครามของรัสเซียในยูเครนทำให้สถานการณ์ด้านกลาโหมของประเทศในยุโรปเป็นที่สนใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งสตาร์เมอร์กล่าวว่า สหราชอาณาจักร “ไม่สามารถเพิกเฉย” ต่อภัยคุกคามจากรัฐบาลของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียได้
อ้างอิง: Bloomberg







