ยิ่งกว่าหนังไซไฟ ‘จีน’ เผชิญแบคทีเรียชนิดใหม่ ระหว่างสำรวจอวกาศ

ยิ่งกว่าหนังไซไฟ ‘จีน’ เผชิญแบคทีเรียชนิดใหม่ ระหว่างสำรวจอวกาศ

นักวิทยาศาสตร์จีนในสถานีอวกาศเทียนกง เจอแบคทีเรียใหม่ ไม่เคยพบมาก่อนบนโลก ราวนิยายวิทยาศาสตร์ เกิดคำถามใหม่ๆ ต่อชีวิตในห้วงอวกาศ และความเสี่ยงจุลชีววิทยา

KEY

POINTS

Key Points

  • ในระหว่างภารกิจประจำที่ลูกเรือเสินโจว-15  ได้ทำการเก็บตัวอย่างจากโมดูลที่อยู่อาศัยบนสถานีอวกาศเทียนกง ได้พบแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ไม่เคยพบมาก่อนบนดาวเคราะห์โลกของเรา
  • เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้มีความคล้ายคลึงกับแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • จุลินทรีย์ที่มองไม่เห็นอาจมีบทบาทสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จ หรือความล้มเหลวของภารกิจสำรวจอวกาศครั้งยิ่งใหญ่ 

เว็บไซต์ Farmingdale - observer ได้เผยแพร่บทความของ บ๊อป รูบีล่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เผยรายงานการสำรวจอวกาศของจีนที่ส่งมายังโลกว่า  เมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ในระหว่างภารกิจประจำที่ลูกเรือเสินโจว-15  ได้ทำการเก็บตัวอย่างจากโมดูลที่อยู่อาศัยบนสถานีอวกาศเทียนกง ได้พบแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ไม่เคยพบมาก่อนบนดาวเคราะห์โลกของเรา

แบคทีเรียชนิดนี้มีชื่อว่า Niallia tiangongensis ตามชื่อสถานที่ที่พบ แบคทีเรียชนิดนี้ จุดประกายความน่าสนใจให้กับนักวิทยาศาสตร์ เนื่องจากมีลักษณะเฉพาะและสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในอวกาศได้ดี

แบคทีเรียชนิดนี้มีชื่อว่า Niallia tiangongensis ตามชื่อสถานที่ที่พบ ซึ่งได้จุดประกายความน่าสนใจให้กับนักวิทยาศาสตร์ เนื่องจากมีลักษณะเฉพาะและสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในอวกาศได้ดี

จากการศึกษาที่ดำเนินการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการไมโครไบโอมบริเวณที่อยู่อาศัยของสถานีอวกาศจีน (CHAMP) พบว่า ไมโครไบโอมบนสถานีอวกาศเทียนกงมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากไมโครไบโอมบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS)

นักสำรวจพบว่า มีจุลินทรีย์จำนวนมากที่มีเกี่ยวข้องกับมนุษย์ และยังมีความหลากหลาย ทั้งเชิงการทำงาน และพันธุกรรมอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะมีการกลายพันธุ์ที่อาจเกี่ยวข้องกับการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะที่รุนแรงในอวกาศ เช่น สภาวะไร้น้ำหนัก การแผ่รังสีที่เพิ่มขึ้น และสภาพโดยรอบที่ให้เป็นพื้นที่สะอาด หรือปลอดเชื้ออย่างเข้มงวด

"Niallia tiangongensis มีสายพันธุ์ใกล้ชิดกับ Niallia circulans ซึ่งเป็นแบคทีเรียในดินที่รู้จักกันว่า แบคทีเรียชนิดนี้ มีความแข็งแรง ซึ่งเคยถูกจัดให้เป็นแบคทีเรียก่อให้เกิดโรคมาก่อน" นักสำรวจระบุ 

เช่นเดียวกับสายพันธุ์ใกล้เคียงกับแบคทีเรียชนิดนี้ ก็สามารถสร้างสปอร์ได้ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาโต้ตอบแสดงให้เห็นว่า แบคทีเดียตัวนี้พยายามเอาตัวรอด เมื่อเผชิญกับสิ่งแวดล้อมกดดัน

แต่สิ่งที่แตกต่างคือ ความร้ายกาจของแบคทีเรียที่ไม่เคยมีมาก่อนในการย่อยเจลาติน เพื่อสกัดไนโตรเจนและคาร์บอน ซึ่งเป็นแหล่งอันมีค่าสำหรับการสร้างไบโอฟิล์มป้องกัน และทนต่อสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย

เสี่ยงด้านสุขภาพ และปลอดภัยในภารกิจ

นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ว่าจะยังไม่ทราบแน่ชัดว่า Niallia tiangongensis เป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อสุขภาพของนักบินอวกาศหรือไม่ แต่เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้มีความคล้ายคลึงกับแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีเมื่อเกิดการกลายพันธุ์ขึ้น ต้องเฝ้าสังเกตการณ์ในสถานีอวกาศดังกล่าว การจัดการอาจทำให้มีการปนเปื้อนใดๆ และระวังหากสัมผัสกับอุปกรณ์ ซึ่งจะทำให้เรื่องมีความซับซ้อนมากขึ้น

นักสำรวจย้ำถึงความสำคัญต่อการทำความเข้าใจ วิถีของจุลินทรีย์เหล่านี้ดำรงอยู่ พัฒนา และโต้ตอบกับมนุษย์และสภาพแวดล้อมบนเรืออวกาศได้อย่างไร เพราะความเสี่ยงไม่ใช่เป็นแค่เรื่องสุขภาพเท่านั้น แต่การแพร่กระจายของจุลินทรีย์ที่ควบคุมไม่ได้ อาจสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์ และอาจส่งผลกระทบต่อภารกิจสำรวจอวกาศด้วย

เปิดประสบการณ์รับมือแบคทีเรีย ท้าทายภารกิจ

การค้นพบแบคทีเรีย Niallia tiangongensis อยู่ดีๆก็ไม่ใช่ครั้งแรกได้เจอแบคทีเรียชนิดใหม่ ซึ่งในการศึกษาวิจัยในห้องปลอดเชื้อของนาซ่า (NASA) ระหว่างการเตรียมภารกิจฟีนิกซ์ไปยังดาวอังคาร ได้เผยให้เห็นการมีอยู่ของแบคทีเรียที่ไม่รู้จักหลายสิบสายพันธุ์

เมื่อต้องเผชิญกับภารกิจที่มีมนุษย์ไปดวงจันทร์ ดาวอังคาร และเป้าหมายที่ไกลกว่านั้น การควบคุมไมโครไบโอมในอวกาศจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญ โดยที่ไม่ใช่แค่เรื่องของการป้องกันการปนเปื้อนอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของการคาดการณ์ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ จะปรับตัวและวิวัฒนาการในสภาพแวดล้อมที่ปิดและรุนแรงได้อย่างไร 

การค้นพบแบคทีเรียที่ไม่รู้จักนี้ในสถานีอวกาศเทียนกง เปิดหน้าใหม่ในการค้นคว้าเกี่ยวกับชีวิตในอวกาศ เป็นการเตือนใจว่า แม้จะใช้มาตรการป้องกันต่างๆ มากมายแล้ว มนุษย์ก็ไม่เคยโดดเดี่ยวในการเดินทางระหว่างดวงดาว เพราะจุลินทรีย์ที่มองไม่เห็นอาจมีบทบาทสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จ หรือความล้มเหลวของการผจญภัยในอวกาศครั้งยิ่งใหญ่ในอนาคต

อ้างอิง Farmingdale - observer