CEO เจพีมอร์แกนเตือน 'รอยร้าวในตลาดพันธบัตร' กำลังจะมา

CEO เจพีมอร์แกนเตือน 'รอยร้าวในตลาดพันธบัตร' กำลังจะมา

'เจมี ไดมอน' เตือน 'รอยร้าวในตลาดพันธบัตร' กำลังจะเกิดขึ้น สหรัฐก่อหนี้มากเกินตัว ทั้งการใช้จ่ายของรัฐและการทำ QE ของเฟด

"เจมี ไดมอน" ซีอีโอของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค (JPMorgan Chase & Co.) เตือนว่า "รอยร้าวในตลาดพันธบัตรกำลังจะเกิดขึ้น" หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) "ใช้จ่ายเกินขนาด" และดำเนินนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) มากเกินไป

“ผมไม่รู้ว่ามันจะกลายเป็นวิกฤติในอีก 6 เดือน หรือ 6 ปี แต่ผมหวังว่าเราจะสามารถเปลี่ยนทั้งแนวโน้มของหนี้และความสามารถของ market maker ในการดูแลสภาพคล่องของตลาดได้" ไดมอน กล่าวในงาน Reagan National Economic Forum เมื่อวันศุกร์และเสริมว่า “โชคร้ายที่เราอาจจะต้องเจอเหตุการณ์นั้นก่อนถึงจะตื่นกัน”

บลูมเบิร์กรายงานว่า "พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ" กำลังจะเผชิญกับ "การขาดทุนรายเดือนเป็นครั้งแรกของปีนี้" หลังจากที่การเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกะทันหันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ความกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลงบประมาณกำลังเพิ่มสูงขึ้นในเดือนพ.ค. โดยสัมพันธ์กับร่างกฎหมายลดภาษีที่กำลังพิจารณากันในสภาคองเกรส

ซีอีโอของเจพีมอร์แกนได้กล่าวย้ำหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาว่า เขากังวลเกี่ยวกับ "การใช้จ่ายเกินตัวของรัฐบาลทั่วโลก" และเมื่อถูกถามในงานสัมมนาเมื่อวันศุกร์ว่า "Bond vigilantes" กลับมาแล้วหรือไม่ เขาตอบว่า "ใช่" โดย bond vigilantes คือกลุ่มนักลงทุนขาใหญ่ที่หลายฝ่ายอาจเรียกว่าเป็นผู้พิทักษ์ตลาดพันธบัตร เพราะมักจะเทขายพันธบัตรเพื่อตอบโต้มาตรการของรัฐบาลที่ก่อหนี้มากเกินไป 

ไดมอนซึ่งเป็นซีอีโอของ "ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ" ยังได้ย้ำคำพูดเมื่อเดือนก่อนด้วยว่า เขาคาดว่าจะเกิด "ความวุ่นวาย" ในตลาดพันธบัตร ซึ่งจะกระตุ้นให้ "เฟด" ต้องเข้ามาแทรกแซง โดยในตอนนั้นเขาอ้างถึงเกณฑ์ควบคุมความเสี่ยง SLR และกฎเกณฑ์อื่นๆ ของแบงก์พาณิชย์ในสหรัฐที่ยังมีข้อบกพร่องร้ายแรง ซึ่งหากได้รับการแก้ไข ก็จะทำให้ธนาคารต่างๆ สามารถมีบทบาทในการดูแลตลาดได้มากขึ้น

“ผมบอกเรื่องนี้กับหน่วยงานกำกับดูแลของผม” ไดมอนกล่าว “ผมบอกพวกคุณได้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นแน่นอน และพวกคุณจะตื่นตระหนก แต่ผมจะไม่ตื่นตระหนก พวกเราจะรับมือได้ดี และบางทีเราอาจจะทำเงินได้มากขึ้นด้วยซ้ำ แล้วเพื่อนผมบางคนจะบอกว่า JPMorgan ชอบวิกฤติเพราะมันทำให้แบงก์รวยขึ้น ซึ่งก็ไม่เชิงหรอก"

ที่มา: Bloomberg