'อิสราเอล' รับ 'ข้อตกลงหยุดยิงกาซา' ของสหรัฐ แต่ฮามาสขอคิดก่อน

'อิสราเอล' รับ 'ข้อตกลงหยุดยิงกาซา' ของสหรัฐ แต่ฮามาสขอคิดก่อน

อิสราเอลลงนามข้อตกลงหยุดยิงในกาซาที่สหรัฐเสนอเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ฮามาสขอพิจารณาข้อเสนอก่อน เนื่องจากยังมีเงื่อนไขที่ไม่ตรงตามที่ฮามาสต้องการ

ทำเนียบขาวเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (29 พ.ค.) อิสราเอลลงนามข้อเสนอหยุดยิงในกาซาของสหรัฐแล้ว และฮามาสเผยว่า กำลังพิจารณาข้อตกลงดังกล่าว แม้เงื่อนไขไม่ตรงตามที่กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ต้องการ

ขณะที่ระบบการแจกจ่ายความช่วยเหลือด้านอาหารที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐกำลังขยายการดำเนินงาน สื่ออิสราเอลรายงานว่า เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีได้แจ้งกับครอบครัวตัวประกันที่ถูกจับกุมในกาซาว่า อิสราเอลได้ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงในกาซาที่สตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ประจำตะวันออกกลาง

อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงดังกล่าว แต่นิวยอร์กไทม์สได้อ้างอิงแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อิสราเอลที่ทราบเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าวและเปิดเผยว่าในระยะแรกจะมีการหยุดยิงเป็นเวลา 60 วัน และจะมีการส่งมอบความช่วยเหลือทางมุนษยธรรมผ่านการดำเนินงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น)

ด้านฮามาสเผยว่ากำลังพิจารณาข้อเสนอของสหรัฐ และซามี อาบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่ฮามาสอาวุโสบอกกับรอยเตอร์สว่ากลุ่มยังคงหารือเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวอยู่

แต่อาบู ซูห์รี บอกว่า เงื่อนไขของข้อตกลงสะท้อนให้เห็นจุดยืนของอิสราเอลและไม่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการยุติสงคราม ด้วยการถอนกองทัพของอิสราเอลออกไป หรือการอนุญาติให้ส่งมอบความช่วยเหลือตามที่ฮามาสต้องการ

ความคิดเห็นการด้านการยุติสงครามที่แตกต่างอย่างมากระหว่างฮามาสและอิสราเอลถือเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการฟื้นฟูข้อตกลงหยุดยิงที่ประสบล้มเหลวในเดือนมีนาคมหลังดำเนินการไปได้เพียง 2 เดือน

ที่ผ่านมา ฝ่ายอิสราเอลยืนยันว่า ฮามาสต้องปลดอาวุธทั้งหมดและยุบกองกำลังทหารและกองกำลังฝ่ายบริหารส่วนตัวประกันทั้ง 58 คนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซาต้องถูกส่งตัวกลับก่อนจึงจะยอมยุติสงคราม

ขณะที่ฮามาสปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ยอมสละอาวุธ และว่าอิสราเอลต้องถอนทหารออกจากฉนวนกาซาเพื่อยุติสงคราม

ก่อนหน้านี้ในวันพุธ (28 พ.ค.) วิทคอฟฟ์เผยกับสื่อว่า ตนมีความความรู้สึกดีๆ มากมายเกี่ยวกับการยุติสงครามในระยะยาว การหยุดยิงชั่วคราว การแก้ปัญหาความขัดแย้งในระยะยาวและเป็นไปอย่างสันติ

 

อ้างอิง: Reuters