แบงก์จีนเตรียมรับมือวิกฤติสภาพคล่อง เงินฝากไหลออก 1.5 ล้านล้านหยวน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “ธนาคารจีน” เตรียมเผชิญบททดสอบสภาพคล่องครั้งใหญ่ในเดือนมิ.ย.นี้ เนื่องจากต้องรับมือกับภาระหนี้ที่ครบกำหนดชำระสูงเป็นประวัติการณ์ และความเสี่ยงที่เงินฝากจะไหลออกจำนวนมาก

ในเดือนหน้าธนาคารหลายแห่งจะต้องชำระคืนบัตรเงินฝาก (Certificates of Deposit) ที่มีมูลค่ารวมสูงถึง 4.2 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 18 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ สถานการณ์นี้เกิดขึ้นพร้อมกับที่เงินฝากออมทรัพย์ลดลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ถูกปรับลดลงทำให้ผู้ลงทุนหันไปหาผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยนักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่ายอดการถอนเงินอาจสูงถึงหลายล้านล้านหยวน

ยอดถอนเงินฝากอาจสูงถึง 1.5 ล้านล้านหยวน 

ถึงแม้ว่าการลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้คนนำเงินออมไปลงทุน และจับจ่ายใช้สอย เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว แต่สถานการณ์นี้ก็อาจทำให้ธนาคาร ขาดสภาพคล่องได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดเงิน

Lv Pin นักวิเคราะห์ตราสารหนี้จาก Topsperity Securities ให้ความเห็นว่า "ความตึงเครียดด้านสภาพคล่อง และความผันผวนของตลาดเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน เพราะนักลงทุนอาจถอนเงินฝากออกจากธนาคาร เพื่อนำเงินไปลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ ทำให้สภาพคล่องของธนาคารไม่มั่นคง"

Xu Yongbin นักวิเคราะห์จาก U-Shine Private Equity FD Mgt Co. คาดการณ์ว่า เงินฝากประมาณ 1.5 ล้านล้านหยวน จะถูกถอนออกไป และนำไปลงทุนในผลิตภัณฑ์เพื่อความมั่งคั่งอื่นๆ ซึ่งจะทำให้ธนาคารต่างๆ เผชิญกับความตึงเครียดด้านสภาพคล่อง เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในไตรมาสที่สองของปีที่แล้ว

ในเดือนเม.ย.  ที่ผ่านมา มีเงินฝากสูงถึง 3.9 ล้านล้านหยวน ไหลออกจากธนาคาร ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สถานการณ์นี้เป็นผลมาจากความพยายามของจีนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการลดความน่าสนใจของเงินฝากธนาคารลง นอกจากนี้ทางการยังได้กำหนดกฎเกณฑ์เพื่อจำกัดไม่ให้ธนาคารแข่งขันกันเพื่อดึงดูดเงินฝาก ด้วยการเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษอีกด้วย

อ้างอิง Bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์