เวเนซุเอลา-สหรัฐ กับการขยายอาณาเขต | บ้านเขาเมืองเรา

เวเนซุเอลา-สหรัฐ กับการขยายอาณาเขต | บ้านเขาเมืองเรา

ผลการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐและสมาชิกรัฐสภาในเวเนซุเอลาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นไปตามคาด ผู้อยู่ฝ่ายประธานาธิบดี นิโคลัส มะดูโลชนะการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ 23 ใน 24 รัฐ พร้อมกับได้เสียงข้างมากในรัฐสภาต่อไป

ปัจจัยที่ทำให้ฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายคงมิได้บ่งชี้ว่า ชาวเวเนซุเอลาส่วนใหญ่พอใจในการบริหารบ้านเมืองของฝ่ายนายมะดูโล หากเพราะฝ่ายตรงข้ามเกือบทั้งหมดงดเข้าร่วมการเลือกตั้งโดยอ้างว่า ฝ่ายนายมะดูโลตั้งหน้าตั้งตาโกงเช่นเดียวกับในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปีที่ผ่านมา

ในการเลือกตั้งครั้งนั้น ฝ่ายรัฐบาลของนายมะดูโลประกาศชัยชนะดื้อ ๆ โดยไม่ให้ข้อมูลอะไรทั้งนั้น ส่วนฝ่ายค้านและผู้สังเกตการณ์ทั่วไปแน่ใจว่านายมะดูโลแพ้แบบหมดรูป

การเปลี่ยนการพ่ายแพ้เป็นชัยชนะของฝ่ายที่กุมอำนาจรัฐอยู่ หรือการโกงแบบโจ่งแจ้งนั้นไม่เป็นที่ประหลาดใจสำหรับผู้ติดตามความเป็นไปในเวเนซุเอลามานาน ดังที่อ้างถึงในคอลัมน์นี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สังคมเวเนซุเอลาโกงกันถึงขั้นที่อาจเรียกได้ว่าเข้ากระดูกดำ

ทำให้เวเนซุเอลาได้คะแนนความโปร่งใสเพียง 10 ใน 100 ซึ่งนับเป็นลำดับที่ 178 ใน 180 ประเทศจากการสำรวจความเห็นของผู้รอบรู้ทั่วโลกและการวิเคราะห์โดยองค์กรความโปร่งใสสากล

ปัจจัยที่ทำให้ชาวเวเนซุเอลาส่วนใหญ่ไม่พอใจรัฐบาล ซึ่งเป็นเผด็จการแนวลับลวงพรางมานานคงเพราะการบริหารจัดการของรัฐบาลทำให้เศรษฐกิจตกต่ำถึงขั้นล้มละลาย ทั้งที่มีน้ำมันปิโตรเลียมขายในลำดับต้น ๆ ของโลก

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า เศรษฐกิจของเวเนซุเอลาถดถอยไปในราว 80% ส่วนราคาสินค้าพุ่งขึ้นไปในระดับนับ 1,000% ในบางปีทั้งที่รัฐบาลพยายามควบคุมราคา

สภาพดังกล่าวส่งผลให้ชาวเวเนซุเอลากว่า 80% ตกอยู่ในภาวะยากจนและกว่า 50% ขาดปัจจัยสี่อย่างต่อเนื่อง จำนวนมากจึงพยายามอพยพออกนอกประเทศไปตายดาบหน้าทั้งในลาตินอเมริกาและในสหรัฐ

ในช่วงนี้ ผู้ที่เข้าไปในสหรัฐแบบผิดกฎหมายยังตกอยู่ในภาวะหนีเสือปะจระเข้อีกด้วยเนื่องจากรัฐบาลอเมริกันนำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ต้อนรับและจับส่งกลับประเทศ เมื่อเวเนซุเอลาไม่รับกลับก็จับส่งไปให้ประเทศอื่นคุมขัง เช่น เอลซัลวาดอร์

ในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีสิ่งใหม่ได้แก่ รัฐบาลเปิดโอกาสให้ชาวเวเนซุเอลาที่มีถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ติดกับเขตพื้นที่ “เอสเซคิโบ” ของประเทศกายอานาเลือกผู้ว่าการเขตนั้นด้วย โดยประกาศว่าพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าขนาดมากกว่า 40% ของกายอานานั้นเป็นของเวเนซุเอลา ผลปรากฏว่านายพลเรือฝ่ายนายมะดูโลชนะ 

การกระทำของรัฐบาลเวเนซุเอลาจะเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจหรือไม่คาดเดาได้ยาก อาจเป็นความต้องการอย่างแท้จริงที่จะขยายอาณาเขตของประเทศโดยยึดพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้านที่มีทรัพยากรมากแต่ไม่มีทางสู้ก็ได้ เนื่องจากกายอานามีประชากรไม่ถึง 1 ล้านคนในขณะที่เวเนซุเอลามีกว่า 28 ล้านคน

รัฐบาลกายอานาออกมาประณามตามคาด แต่อาจไม่กลัวเวเนซุเอลาจะส่งกำลังทหารเขาไปยึดพื้นที่ ทั้งนี้เพราะมีประเทศใหญ่ ๆ หนุนหลังอยู่โดยเฉพาะสหรัฐซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับรัฐบาลเผด็จการของเวเนซุเอลามานาน

ยิ่งกว่านั้น กายอานาเพิ่งค้นพบน้ำมันปิโตรเลียมปริมาณสูงมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จนส่งผลให้มีน้ำมันต่อประชากรในอัตราสูงเป็นลำดับ 2 รองจากคูเวตเท่านั้น และบริษัทอเมริกันเป็นผู้นำการขุดเจาะและสูบน้ำมันนั้นขึ้นมาขาย

ในกรณีที่เวเนซุเอลาส่งทหารเข้ายึดพื้นที่ของกายอานาและสหรัฐจะทำอย่างไร โดยใช้อะไรเป็นข้ออ้าง เป็นแง่มุมที่น่าสนใจเป็นพิเศษ  สหรัฐคงอ้างการขยายเขตพื้นที่ของประเทศโดยการรุกรานประเทศเพื่อนบ้านได้ยาก

เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์พูดเสมอว่าอาจจะยึดแคนาดาและกรีนแลนด์เป็นของสหรัฐ แรงจูงใจในการกระทำเช่นนั้นคงไม่มีอะไรมากนอกเหนือจากแคนาดาและกรีนแลนด์มีทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมากและหลากหลาย 

อย่างไรก็ตาม ในสังคมมนุษย์ซึ่งมีนิทานเรื่องหมาป่ากับลูกแกะเป็นข้อเตือนใจ สหรัฐย่อมจะหาข้ออ้างได้อย่างแน่นอน