'อีลอน มัสก์' จ่อยุติบทบาทที่ปรึกษาทรัมป์ แล้ว DOGE จะเป็นยังไงต่อ ?

“อีลอน มัสก์” ประกาศลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษของโดนัลด์ ทรัมป์ หลังหลายสำนักข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้เขาวิพากษ์ร่างงบประมาณรายจ่ายของทรัมป์ ปล่อยอนาคตของ DOGE ตกอยู่ในความไม่แน่นอน
อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของเทสลา ประกาศวันนี้ (29 พ.ค.68) ว่า วาระการดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใกล้สิ้นสุดแล้ว ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอนาคตของกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (Department of Government Efficiency หรือ DOGE) ที่เขาเป็นผู้นำ
มัสก์ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X ของเขาว่า "เมื่อเวลาที่กำหนดไว้ในฐานะพนักงานรัฐบาลพิเศษใกล้สิ้นสุด ผมขอขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์สำหรับโอกาสในการลดการใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง ภารกิจของ DOGE จะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อมันกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติทั่วทั้งรัฐบาล"
บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างอิงเเหล่งข่าวในทำเนียบข่าวว่า ตามกฎหมายสถานะของมัสก์ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐบาลชั่วคราว กำหนดให้สิ้นสุดภายในวันที่ 30 พฤษภาคม แม้ว่าวันที่แน่นอนจะขึ้นอยู่กับการคำนวณจำนวนวันทำงานจริง โดยมัสก์เริ่มกระบวนการลาออกเมื่อคืนวันพุธซึ่งถือเป็นการตัดสินใจของเขาเองภายใต้การสนับสนุนของประธานาธิบดี
น่าสนใจว่า การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากมัสก์ให้สัมภาษณ์วิพากษ์วิจารณ์นโยบายสำคัญที่สุดของทรัมป์ คือ ข้อเสนอลดภาษีที่เรียกว่า "One Big Beautiful Bill" ว่าไม่เพียงพอในการลดการขาดดุลงบประมาณกลาง
แคมเปญของมัสก์ในการลดขนาดรัฐบาลสหรัฐ ส่งผลกระทบมหาศาลต่อสหรัฐเองเพราะมีหน่วยงานบางแห่งถูกยุบเลิกอย่างสิ้นเชิง พนักงานกลางหลายหมื่นคนถูกปลดออกหรือยอมรับเงินชดเชย อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการประหยัดค่าใช้จ่ายตามที่คาดหวังไว้
เดิมทีทรัมป์กำหนดให้โครงการนี้สิ้นสุดในวันที่ 4 กรกฎาคม 2026 โดยให้เวลา DOGE เกือบ 18 เดือนในการลดงบประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์ตามที่มัสก์สัญญาไว้เดิม ต่อมามัสก์ลดเป้าหมายลงเหลือ 1 ล้านล้านดอลลาร์ และลดลงอีกเหลือ 1.5 แสนล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ มัสก์ วัย 53 ปี เคยกล่าวในเชิงล้อเล่นว่าตำแหน่งของเขาในทำเนียบขาวคือ "Chief Nothing Officer" และยืนกรานว่าเขาไม่จำเป็นต่อภารกิจในการลดงบประมาณครั้งนี้ แต่เวลาผ่านไปไม่นานเขากลับกลายเป็นจุดสนใจของผู้วิพากษ์วิจารณ์โครงการ ที่มุ่งเน้นไปที่ภาพลักษณ์ของเขาที่เป็นคนคนร่ำรวยที่สุดในโลก และเข้ามาทำงานเพื่อช่วยรื้อถอนแรงงานและหน้าที่ของรัฐบาล
ทั้งนี้ ผลงานของ DOGE ถูกฟ้องร้องเรื่องอำนาจ และการเข้าถึงข้อมูลรัฐบาลแบบเกินของเขต ข้อกล่าวอ้างบางประการเกี่ยวกับการประหยัดค่าใช้จ่ายแบบไม่ถูกต้อง และไม่เป็นธรรม ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความรับผิดชอบของโครงการ ที่สำคัญในช่วงที่ผ่านมามัสก์ยังเผชิญกับคำถามเกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในฐานะนักธุรกิจด้านเทคโนโลยีที่มีธุรกิจหลากหลาย และเป็นผู้เล่นสำคัญในรัฐบาลของทรัมป์
การวิพากษ์วิจารณ์มัสก์จากงานการเมืองทำให้ตัวเขาเองกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อบริษัทของตัวเอง โดยเฉพาะเทสลา ที่สำคัญยอดการขายรถยนต์อีวีของมัสก์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบสามปีในไตรมาสแรกของปี ราคาหุ้นดิ่งลง นักวิเคราะห์หลายรายลดคาดการณ์การเติบโต
ท้ายที่สุด คำถามที่หลายคนอยากรู้คือ แล้วอนาคตของกระทรวง DOGE จะเป็นอย่างไรต่อไป คงเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ในเวลานี้เพราะการลาออกของมัสก์เพิ่มจะเกิดขึ้นในวันพุธตามเวลา ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 29 ของประเทศไทย แต่ทำเนียบขาวยังยืนยันว่าภารกิจในการลดการใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐบาลยังคงดำเนินต่อไป
อ้างอิง: Bloomberg News
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







