'วอลโว่' เลิกจ้างกว่า 3,000 ราย เหตุต้องการประหยัดงบประมาณ

"วอลโว่" ประกาศเลิกจ้างพนักงานกว่า 3,000 ราย เนื่องจากต้องการประหยัดงบประมาณ หลังจากประสบปัญหาด้านการผลิต
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า วอลโว่ (Volvo Cars) บริษัทรถยนต์จากสวีเดนเตรียมเลิกจ้างพนักงานกว่า 3,000 ราย ตามแผนการรับมือกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ความต้องการสินค้าประเภทรถยนต์ไฟฟ้าที่น้อยลง และความไม่แน่นอนของตลาด โดยการเลิกจ้างครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะลดค่าใช้จ่ายของบริษัทพร้อมทั้งกระตุ้นตลาดหุ้นและความต้องการรถยนต์ของบริษัทที่กำลังตกต่ำ
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซีอีโอ ฮาคาน ซามูเอลสัน ได้เปิดเผยแผนการลดค่าใช้จ่ายของบริษัทมากกว่า 1.8 หมื่นล้านโครนอร์สวีเดน หรือประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์ รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานออฟฟิศในบริษัทจำนวนมาก ซึ่งพนักงานประเภทนี้นับเป็น 40% ของพนักงานทั้งหมด
ตำแหน่งหลักๆ ที่บริษัทเลิกจ้าง ได้แก่ ฝ่ายสื่อสาร แผนกวิจัยและพัฒนา และฝ่าย HR ซึ่งซามูเอลสันยอมรับว่าเป็นการเลิกจ้างในจำนวนค่อนข้างมาก และส่งผลกระทบต่อหลายแผนกในบริษัท นอกจากนี้เขายังออกความเห็นอีกว่า การเลิกจ้างครั้งนี้จะส่งผลดีต่อบริษัท ทั้งในด้านการลดค่าใช้จ่ายและการเปิดโอกาสให้พนักงานปัจจุบันได้รับผิดชอบงานที่ใหญ่ หรืองานสำคัญมากขึ้น
ซามูเอลสันกลับมารับตำแหน่งซีอีโออีกครั้งเป็นสมัยที่ 2 ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากเคยดำรงตำแหน่งซีอีโอของบริษัทวอลโว่ตั้งแต่ปี 2012 ถึงปี 2022
ด้านเฟรดริก แฮนส์สัน ซีเอฟโอของโวลโว่บอกกับรอยเตอร์สว่า การตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อทุกแผนกและทุกสาขา แต่การเลิกจ้างส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่สาขาในเมืองโกเธนเบิร์ค โดยเขาได้กล่าวว่าทั้งหมดนี้เป็นการ “ปรับโครงสร้างบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับสถานที่นั้นๆ ด้วย”
ทั้งนี้ พนักงานที่ถูกเลิกจ้างนับเป็น 15% ของพนักงานทั้งหมดของวอลโว่ และจะส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด 1.5 พันล้านโครนอร์ แต่งบประมาณส่วนนี้ใช้จ่ายนี้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
บริษัทโวลโว่มีฐานผลิตอยู่ในยุโรปและจีนเป็นหลัก จึงได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐมากกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ อาจทำให้บริษัทไม่สามารถส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าราคาที่ถูกที่สุดขไปยังสหรัฐได้
นอกจากนี้ บริษัทได้ระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า จะปรับปรุงโครงสร้างบริษัทใหม่ภายในฤดูใบไม้ร่วงในปีนี้
อ้างอิง: Reuters







