รัฐบาลจีนเร่งแก้ปัญหา ‘รถป้ายแดงมือ 2’ เกลื่อนตลาด ผลพวงสงครามราคา

รัฐบาลจีนเรียกประชุมผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่แก้ปัญหารถค้างสต็อก เพิ่มยอดขาย ‘รถมือสอง 0 ไมล์’ ปรากฏการณ์จากสงครามราคา ฉุดหุ้นผู้ผลิตรถยนต์จีนร่วง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์จีน จะพบกับหน่วยงานอุตสาหกรรมและผู้ผลิตรถยนต์ รวมถึง BYD และ Dongfeng Motor ในช่วงบ่ายวันนี้(27พ.ค.) เพื่อหารือเรื่องการเพิ่มยอดขาย “รถมือสอง 0 ไมล์” ที่ไม่เคยขับมาก่อน หรือที่เรียกกันว่า "รถป้ายแดงมือสอง"
การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นาย เว่ย เจี้ยนจวิน (Wei Jianjun) ประธานบริษัท Great Wall Motor ได้ให้สัมภาษณ์กับ Sina Finance เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเปิดเผยถึงปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "รถมือสอง 0 ไมล์" ที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดจีน ปรากฏการณ์นี้เป็นผลพวงโดยตรงจากสงครามราคาที่ดุเดือดและยืดเยื้อมานานหลายปี ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน
เว่ย เจี้ยนจวิน ได้อธิบายถึงปรากฏการณ์รถมือสอง 0 ไมล์ที่กำลังเป็นที่แพร่หลายใน ตลาดรถยนต์งจีน ว่า นี่คือรถยนต์ที่ถูกจดทะเบียนและมีป้ายทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหมายความว่าได้ถูก "ขาย" ออกไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว รถเหล่านั้นไม่เคยถูกขับใช้งานเลย และกลับถูกนำไปขายต่อในตลาดรถมือสองแทน ซึ่งมีผู้ขายประเภทนี้บนแพลตฟอร์มรถมือสองของจีน 3,000 ถึง 4,000 ราย ที่กำลังขายรถยนต์ลักษณะดังกล่าว
กลยุทธ์การขายรถมือสอง 0 ไมล์หรือรถที่ถูกจดทะเบียนแล้วแต่ไม่เคยถูกขับใช้งานจริง กำลังถูกมองว่าเป็นวิธีการที่มีศักยภาพที่ผู้ผลิตรถยนต์และตัวแทนจำหน่ายในอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนนำมาใช้ เพื่อ สนับสนุนยอดขายรถยนต์ใหม่
จีนเรียกประชุมค่ายรถ-แพลตฟอร์มมือสอง แก้วิกฤติรถป้ายแดงค้างสต็อก
ผู้ที่ได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมกับกระทรวงพาณิชย์จีนครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ค่ายรถยักษ์ใหญ่อย่าง BYD และ Dongfeng Motor เท่านั้น แต่ยังรวมถึงองค์กรสำคัญในอุตสาหกรรมอย่าง สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีน (CAAM) และ สมาคมตัวแทนจำหน่ายรถยนต์แห่งประเทศจีน (CADA) รวมถึงแพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือสองบางแห่งด้วย
หลังจากสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข่าวการประชุมนี้ หุ้นของผู้ผลิตรถยนต์จีนในตลาดหุ้นฮ่องกงก็ปรับตัวลดลงทันที โดยหุ้นของ BYD และ Leapmotor ร่วงลง 3.1% ขณะที่ดัชนี Hang Seng Automobile ลดลงมากกว่า 2%
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จีน, BYD, Dongfeng Motor และ CADA ยังไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ ในทันที ขณะที่ Great Wall และ CAAM ก็ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้







