PBOC บีบธนาคารใช้หยวน 40% ของมูลค่าธุรกรรมการค้าข้ามพรมแดน

PBOC บีบธนาคารใช้หยวน 40% ของมูลค่าธุรกรรมการค้าข้ามพรมแดน

ธนาคารกลางจีน เพิ่มอัตราส่วนขั้นต่ำการใช้หยวนในการค้าข้ามพรมแดนจาก 25% เป็น 40% หวังลดพึ่งพาดอลลาร์

ธนาคารกลางจีน (People's Bank of China) ได้ออกมาตรการปรับเพิ่มอัตราส่วนขั้นต่ำสำหรับการใช้เงินหยวนในธุรกรรมการค้าข้ามพรมแดนจาก 25% เป็น 40% ภายใต้การปรับปรุงระบบประเมินความระมัดระวังระดับมหภาค (Macro Prudential Assessment) การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของปักกิ่งในการส่งเสริมการใช้เงินหยวนเป็นสกุลเงินสำหรับการค้าระหว่างประเทศ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้นกับสหรัฐอเมริกา

การเพิ่มขึ้นสัดส่วนเงินหยวนขึ้น 15% จาก 25% เป็น 40% ถือเป็นการปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่ามาตรการนี้จะไม่มีลักษณะบังคับใช้ในทางกฎหมาย แต่บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กระบุว่า ธนาคารที่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจะได้รับคะแนนการประเมินที่ต่ำลง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการขยายธุรกิจในอนาคต กลไกนี้สร้างแรงจูงใจให้สถาบันการเงินปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการให้บริการเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล

มาตรการนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาอยู่ในสภาวะตึงเครียด ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราสูงสุดถึง 145% ซึ่งจีนได้ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งสร้างพื้นที่สำหรับการเจรจาต่อรอง

การปรับนโยบายในช่วงเวลานี้สะท้อนถึงกลยุทธ์ของจีนในการลดการพึ่งพาระบบการเงินที่มีดอลลาร์สหรัฐเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ความน่าดึงดูดของสินทรัพย์ในสกุลเงินดอลลาร์อาจลดลงเนื่องจากนโยบายภาษีที่รุนแรง

ทั้งนี้ มูลค่าการค้ารวมของจีนในปี 2024 มีมูลค่าสูงถึง 43.8 ล้านล้านหยวน หรือเทียบเท่า 6.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตัวเลขขนาดใหญ่นี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการขยายการใช้เงินหยวนในระบบการค้าโลก หากสามารถเพิ่มสัดส่วนการใช้หยวนจาก 30% ปัจจุบันไปสู่ 40% ตามเป้าหมายใหม่ จะหมายความว่ามีมูลค่าธุรกรรมเพิ่มขึ้นประมาณ 4.38 ล้านล้านหยวน หรือราว 6.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลจากผู้ว่าการธนาคารกลางจีน Pan Gongsheng ระบุว่า สัดส่วนการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยเงินหยวนในการค้าสินค้าอยู่ที่ 30% ในขณะนี้ การบรรลุสัดส่วนดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจีนได้ประสบความสำเร็จระดับหนึ่งในการส่งเสริมการใช้เงินหยวนในระดับสากล อย่างไรก็ตาม การเพิ่มเป้าหมายขึ้นเป็น 40% สะท้อนถึงความต้องการที่จะเร่งรัดกระบวนการนี้ให้เร็วขึ้น

เงินหยวนในประเทศแข็งค่าขึ้น 1.57% ในปีนี้ และอยู่ที่ระดับประมาณ 7.187 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ การแข็งค่าของเงินหยวนนี้อาจเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของความต้องการใช้หยวนในการค้าระหว่างประเทศ และนโยบายใหม่นี้อาจส่งเสริมแนวโน้มดังกล่าวให้ดำเนินต่อไป

น่าสนใจว่า มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวของจีนในการสร้างระบบการเงินทางเลือกที่ไม่ขึ้นอยู่กับดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก การเพิ่มการใช้เงินหยวนในการค้าข้ามพรมแดนจะช่วยลดความเสี่ยงจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์-หยวน

มากไปกว่านั้น นโยบายนี้ยังเปิดโอกาสให้ธนาคารสามารถเสนอค่าธรรมเนียมบริการในอัตราที่ลดลงแก่ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าเพื่อสนับสนุนการใช้เงินหยวน การลดต้นทุนการทำธุรกรรมนี้จะเป็นแรงจูงใจเพิ่มเติมสำหรับผู้ประกอบการในการเลือกใช้เงินหยวนแทนสกุลเงินอื่น

อ้างอิง:Bloomberg