ทรัมป์ขู่รอบใหม่ iPhone ต้องเสียภาษี 25% ถ้าไม่ได้ผลิตในสหรัฐ

ทรัมป์ขู่รอบใหม่ 'iPhone' ต้องเสียภาษี 25% หากไม่ได้ผลิตในสหรัฐ เผยย้ำกับ 'ทิม คุก' ไปนานแล้ว ขณะที่ยังไม่มีท่าทีว่าแอปเปิ้ลจะย้ายกลับมาผลิตในสหรัฐ
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ในทรูธ โซเชียลล่าสุดว่า บริษัท "แอปเปิ้ล อิงค์" (Apple) จะต้องเสียภาษีนำเข้า 25% ขึ้นไปสำหรับโทรศัพท์มือถือ iPhone ที่ผลิตนอกสหรัฐ และย้ำว่าตนได้แจ้งเรื่องนี้กับทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของแอปเปิ้ลไปนานแล้ว
"ผมได้แจ้งทิม คุก ซีอีโอแอปเปิ้ลไปนานแล้วว่า ผมคิดว่าไอโฟนที่จะจำหน่ายในสหรัฐจะต้องถูกผลิตและประกอบในสหรัฐ ไม่ใช่ในอินเดียหรือที่อื่นใด หากไม่เป็นเช่นนั้น แอปเปิ้ลจะต้องเสียภาษีนำเข้าอย่างน้อย 25% ให้กับสหรัฐ” ทรัมป์โพสต์เมื่อวันศุกร์
ด้าน ราคาหุ้นแอปเปิ้ล ร่วงลงทันที 3% หลังจากที่ทรัมป์โพสต์ข้อความนี้ ก่อนจะปิดตลาดลบไป 6.09 ดอลลาร์ หรือ 3.02% ปิดที่ 195.27 ดอลลาร์
ทั้งนี้ สมาร์ทโฟนเรือธงของแอปเปิ้ลนั้นผลิตใน "ประเทศจีน" เป็นหลัก แต่บริษัทได้ทยอยย้ายการผลิตไปที่ "อินเดีย" แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอินเดียมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่เป็นมิตรกับสหรัฐมากกว่าจีน
อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆ นี้ ซีเอ็นบีซีเพิ่งรายงานว่า ทรัมป์ได้กล่าวกับซีอีโอของแอปเปิ้ลว่า ไม่ต้องการให้แอปเปิ้ลย้ายไปผลิตสินค้าในอินเดีย และเรียกร้องให้หันกลับมาผลิตในสหรัฐแทน โดยอ้างถึงคำมั่นของแอปเปิ้ลที่เคยประกาศไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า จะลงทุนในสหรัฐมูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 16 ล้านล้านบาท
นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทบางรายคาดการณ์ว่า การย้ายการผลิตไอโฟนมายังสหรัฐ จะทำให้ราคาสมาร์ทโฟนตัวนี้แพงขึ้นอย่างน้อย 25%
แดน ไอฟส์จาก Wedbush คาดการณ์ต้นทุนโดยประมาณของไอโฟนในสหรัฐไว้ที่ 3,500 ดอลลาร์ ขณะที่ปัจจุบัน ราคา iPhone 16 Pro มีราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ 1,000 ดอลลาร์
ทรัมป์ยังเปิดเผยกับนักข่าวเมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ว่า การเก็บภาษีนำเข้านี้จะนำไปใช้กับผู้ผลิตสมาร์ตโฟนรายอื่นๆ เช่น Samsung ด้วย และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน
“ผมตกลงกับทิมว่า เขาจะไม่ทำเช่นนี้ เขาบอกว่าเขาจะไปอินเดียเพื่อสร้างโรงงาน ผมบอกว่าจะไปอินเดียก็ไม่เป็นไร แต่คุณจะขายของที่นี่ไม่ได้หากไม่เสียภาษีศุลกากร และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น” ทรัมป์กล่าว
บลูมเบิร์กรายงานว่า นี่คือการโจมตีแอปเปิ้ลครั้งล่าสุดของทรัมป์ ซึ่งในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อบริษัทนี้และซีอีโอให้หันมาเพิ่มการผลิตในประเทศแทน ขณะที่ทรัมป์และคุกเพิ่มพบกันที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคาร ตามรายงานของ Politico
ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สก็อตต์ เบสเซนท์ ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันศุกร์ว่า เขาไม่ได้เข้าร่วมการประชุมที่ทำเนียบขาว แต่สถานการณ์ของแอปเปิ้ลอาจเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ ในการนำ "การผลิตที่แม่นยำ" กลับมาสู่สหรัฐ
"องค์ประกอบหลักๆ ของแอปเปิ้ลคือ เซมิคอนดักเตอร์ ดังนั้นเราจึงต้องการให้แอปเปิ้ลช่วยเราทำให้ห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์มีความปลอดภัยมากขึ้น" เบสเซนท์ กล่าว
ทั้งนี้ คุกบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับกองทุนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ และเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ขณะที่แอปเปิ้ลยังได้ประกาศจะลงทุน 500,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ในฮูสตันด้วย
อย่างไรก็ตาม Apple ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
บริษัทเพิ่งเปิดเผยในรายงานผลประกอบการเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมว่า คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับภาษีศุลกากรประมาณ 900 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสปัจจุบัน และกล่าวว่าแนวโน้มภาษีศุลกากรนั้น "คาดเดาได้ยาก" หลังจากเดือนมิถุนายนไป ซึ่งอาจหมายถึงการผ่อนผันภาษีศุลกากรตอบโต้ 90 วัน กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้







