ทรัมป์ไฟเขียว 2 ยักษ์เหล็ก 'นิปปอน สตีล' เป็นพันธมิตร 'ยูเอส สตีล'

ทรัมป์ไฟเขียวดีลยักษ์ 'นิปปอน สตีล' จับมือเป็นพันธมิตรกับ 'ยูเอส สตีล' หลังจากเคยค้านหัวชนฝามานาน แต่ยังไม่ลงรายละเอียดว่าเป็นดีลซื้อกิจการ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือไม่
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความตื่นตะลึงให้ตลาดให้เมื่อวันศุกร์ด้วยการประกาศความเป็นพันธมิตรกันระหว่างบริษัท United States Steel Corp. หรือ ยูเอส สตีล และบริษัท Nippon Steel Corp.ของญี่ปุ่น โดยทรัมป์กล่าวว่าเป็นข้อตกลงที่จะทำให้บริษัทที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของอเมริกันแห่งนี้ยังคงดำเนินกิจการในสหรัฐต่อไป แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม
บลูมเบิร์กรายงานว่า ทรัมป์ยังไม่ถึงกับกล่าวสนับสนุนอย่างชัดเจนต่อข้อเสนอก่อนหน้านี้ที่นิปปอน สตีล จะเข้าซื้อกิจการของยูเอส สตีล มูลค่า 1.41 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่หุ้นของบริษัทก็พุ่งขึ้นไปแล้วมากถึง 26% ในการซื้อขายช่วงเย็นวันศุกร์ ซึ่งนับเป็นสัญญาณของความคาดหวังในเชิงบวกต่อแนวโน้มของดีลนี้
"ผมภูมิใจที่จะประกาศว่า หลังจากการพิจารณาและเจรจากันอย่างถี่ถ้วนแล้ว ยูเอส สตีล จะยังคงอยู่ในอเมริกา และยังคงตั้งสำนักงานใหญ่ในเมืองพิตต์สเบิร์ก” ทรัมป์โพสต์ในแพลตฟอร์ม Truth Social “นโยบายภาษีศุลกากรของผมจะทำให้มั่นใจได้ว่าเหล็กจะกลับมาผลิตในอเมริกาตลอดไป”
ด้านบริษัททั้งสองแห่งรวมถึงผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของยูเอส สตีล ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ชื่นชมข้อตกลงดังกล่าว แต่ก็ยังไม่มีการให้รายละเอียดอื่นๆ ที่ชัดเจนเช่นกัน
ในขณะที่คนงาน นักลงทุน และคนอื่นๆ ในโรงงานเหล็ก ต่างรอคอยการตัดสินใจของสหรัฐ เกี่ยวกับอนาคตของบริษัทมาอย่างยาวนาน และยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทรัมป์ได้ให้การรับรองการเข้าซื้อกิจการหรือไม่
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะสร้างงานได้อย่างน้อย 70,000 ตำแหน่ง และเพิ่มมูลค่า 14,000 ล้านดอลลาร์ให้กับเศรษฐกิจสหรัฐ โดยการลงทุนส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วง 14 เดือนข้างหน้า และเขาจะเข้าร่วมงานที่จัดขึ้นในวันที่ 30 พฤษภาคมที่เมืองพิตต์สเบิร์กด้วย







