อั้นไม่ไหว! 'ไนกี้' จ่อขึ้นราคาสินค้า 2-10 ดอลลาร์ต่อชิ้น

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า บริษัท "ไนกี้" (Nike) จะเริ่ม "ปรับขึ้นราคาสินค้า" ในสัปดาห์หน้า โดยสินค้าประเภทเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์กีฬาสำหรับผู้ใหญ่จะขึ้นราคาประมาณ 2-10 ดอลลาร์ต่อชิ้น ส่วนสินค้าราคาระหว่าง 100-150 ดอลลาร์จะขึ้นราคา 5 ดอลลาร์ต่อชิ้น

ขณะที่สินค้าประเภทรองเท้าที่มีราคาเกิน 150 ดอลลาร์ จะถูกขึ้นราคามากที่สุดถึง 10 ดอลลาร์ต่อคู่ ส่วนสินค้ามูลค่าต่ำกว่า 100 ดอลลาร์และรองเท้ารุ่น Air Force 1 (ราคา 155 ดอลลาร์) จะไม่มีการปรับขึ้นราคา

อย่างไรก็ดี บริษัทจะไม่เพิ่มราคาสินค้าสำหรับเด็กเพื่อเตรียมพร้อมกับช่วงเปิดเทอม

ทั้งนี้ ไนกี้สั่งผลิตสินค้าส่วนใหญ่จาก "จีนและเวียดนาม" แต่บริษัทไม่มีการระบุเหตุผลว่าเกี่ยวข้องกับมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐหรือไม่ ขณะที่ทวีปอเมริกาเหนือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของไนกี้ในแง่รายรับรวม ณ ปี 2024 

"เราประเมินธุรกิจของเราเป็นประจำ และปรับราคาเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนตามฤดูกาล" ไนกี้ ระบุ
 

ในช่วงต้นเดือนพ.ค. บริษัทเครื่องกีฬา "พูมา" (Puma) จากเยอรมนี ส่งสัญญาณในทำนองเดียวกันว่าได้ลดการส่งออกสินค้าจากจีนไปสหรัฐ และอาจจะปรับขึ้นราคาสินค้าในสหรัฐเนื่องจากผลกระทบจากมาตรการภาษี

นอกจากการปรับขึ้นราคาแล้ว ไนกี้ยังเปิดเผยว่าบริษัทจะกลับมาเริ่มขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม "แอมะซอน" (Amazon) อีกครั้งภายใต้นโยบายของ "เอลเลียตต์ ฮิลล์" ซีอีโอคนใหม่ เพื่อทวงตลาดคืนจากคู่แข่งใหม่ๆ

ไนกี้ยกเลิกการค้าขายบนแอมะซอนตั้งแต่ปี 2019 เนื่องจากต้องการขายสินค้าหน้าร้านและบนเว็บไซต์ของตัวเองเป็นหลัก โดยสินค้าปัจจุบันที่พบได้บนแอมะซอนล้วนมาจากผู้ขายอิสระ แต่ล่าสุดทางแอมะซอนได้แจ้งต่อผู้ค้าบางรายว่า จะห้ามการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไนกี้บางรายการตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. เป็นต้นไป เนื่องจากแอมะซอนกำลังทำงานร่วมกับไนกี้โดยตรง

การกลับมาขายสินค้าบนแอมะซอนในสหรัฐเป็นหนึ่งในวิธีที่ไนกี้กำลังลงทุนในมาร์เก็ตเพลสเพื่อขยายการเข้าถึงผู้บริโภค รวมถึงการเพิ่มหน้าร้านต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า Printemps

แปลและเรียบเรียงโดย นฤภร วิริยะผล นักศึกษาฝึกงาน