ยิงดับ 2 จนท.สถานทูตอิสราเอล วอชิงตัน เป็นคู่รักที่กำลังจะหมั้น

เกิดเหตุสะเทือนขวัญในเมืองหลวงสหรัฐ คนร้ายก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่จนท.สถานทูตอิสราเอล 2 ราย เสียชีวิตใกล้พิพิธภัณฑ์ยิว พบเป็นคู่รักที่กำลังจะเข้าพิธีหมั้นกัน ขณะที่คนร้ายวกกลับเข้าที่ก่อเหตุ คนในงานไม่รู้ให้น้ำดื่มและที่หลบภัย
คริสตี โนม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ เปิดเผยว่า เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอลประจำกรุงวอชิงตันดีซี จำนวน 2 ราย ถูกยิงเสียชีวิต ในวันนี้ (22 พ.ค.) ที่บริเวณด้านนอกพิพิธภัณฑ์ Capital Jewish Museum
"เราจะนำผู้กระทำความผิดเลวทรามคนนี้มาลงโทษตามกฎหมาย" รมว.โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X
เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายระดับสูง 4 นายเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คนร้ายได้เปิดฉากยิง และกระสุนพุ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่ชายคนหนึ่งและหญิงอีกคนหนึ่ง โดยชายผู้ก่อเหตุตะโกนว่า "ปลดปล่อยปาเลสไตน์" ในขณะที่ถูกจับกุมตัว อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยชื่อและข้อมูลของคนร้ายรายนี้
แดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ (UN) โพสต์ข้อความบนเอ็กซ์ว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่พิพิธภัณฑ์ Capital Jewish Museum กำลังจัดงาน และระบุว่า "การทำร้ายชุมชนชาวยิวกำลังล้ำเส้น"
CNN รายงานว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองคนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอล ยังเป็นคู่รักที่กำลังจะเข้าพิธีหมั้นหมายกัน
โดยในภายหลัง สถานเอกอัคราชทูตอิสราเอลประจำกรุงวอชิงตันได้เผยแพร่รูปและชื่อของผู้เสียชีวิตทั้งสองรายนี้ คือ ยารอน ลิชินสกี และซาราห์ มิลกริม
“เมื่อเช้านี้ พวกเราทั้งตกใจและหวาดกลัวเมื่อทราบข่าวการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายที่โหดร้าย ซึ่งคร่าชีวิตเจ้าหน้าที่สถานทูตของเราสองคนในกรุงวอชิงตัน ได้แก่ ยารอน ลิชินสกี และซาราห์ ลินน์ มิลกริม” กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลโพสต์ใน X เมื่อวันพฤหัสบดี
“เราขอโอบกอดครอบครัวที่กำลังโศกเศร้าในช่วงเวลาอันเจ็บปวดนี้ และจะยังคงสนับสนุนพวกเขาตลอดไป” โพสต์ดังกล่าวระบุ
คนร้ายวกกลับมาที่เกิดเหตุ ทำผู้อยู่ในเหตุการณ์สับสน
พยานในเหตุการณ์เล่าให้ CNN ฟังถึงความตกตะลึงและความสับสนที่เกิดขึ้นในพิพิธภัณฑ์ Capital Jewish Museum ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานอีเวต์ โดยมือปืนก่อเหตุสังหารเจ้าหน้าที่สถานทูต 2 ราย ที่ด้านนอกพิพิธภัณฑ์ ขณะทั้งคู่กำลังเดินทางออกจากงาน
ซารา มารินูซซี ผู้เข้าร่วมงานวัย 28 ปี กล่าวว่า งานดังกล่าวที่พิพิธภัณฑ์จบลงเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. เมื่อมีเสียงปืนดังขึ้นที่นอกอาคาร
จากนั้นผู้เข้าร่วมงานได้เห็นชายคนหนึ่งวิ่งเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ เขาดูหวาดกลัว ทำให้หลายคนคิดว่าเขาเป็นผู้เห็นเหตุการณ์หรือเป็นพยาน หลายคนเข้าไปถามว่าเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยื่นน้ำดื่มให้เขา
“ฉันเดินไปหาเขาและถามว่าเขาโอเคไหม เขาพึมพำว่า ‘โทรเรียกตำรวจ’ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาบอกว่าโอเค จากนั้นฉันจึงถามว่าเขาโดนยิงหรือเปล่า เขาบอกว่าไม่” เพจ ซีเกล ผู้เข้าร่วมอีกคนหนึ่งกล่าว
มารินูซซี ยังเล่าว่าชายคนดังกล่าวขอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโทรเรียกตำรวจ และเขา “มีพฤติกรรมที่แปลกประหลาด”
เมื่อตำรวจมาถึงประมาณ 10 นาทีต่อมา ชายคนดังกล่าวจึงบอกว่าเขาเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งทำให้บรรดาคนรอบข้างพากันตกใจที่มือปืนผู้ก่อเหตุอยู่ข้างๆ ตัว
“ฉันเป็นคนทำ ฉันทำเพื่อกาซา ปลดปล่อยปาเลสไตน์!” มารินุซซีอ้างถึงคำกล่าวของผู้ก่อเหตุ







