เวียดนามจับมือสหรัฐ พัฒนา 'โรงไฟฟ้านิวเคลียร์' ดึงร่วมลงทุน-ถ่ายทอดเทคโนโลยี

‘เวียดนาม’ จับมือ ‘สหรัฐ’ พัฒนา ‘โรงไฟฟ้านิวเคลียร์’ ในเวียดนาม โดยมุ่งเน้นที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการฝึกอบรมบุคลากร
“เวสติ้งเฮาส์” (Westinghouse) บริษัทสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในสหรัฐ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกับ “เปโตรเวียดนาม” (PetroVietnam) บริษัทพลังงานรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามแล้ว เพื่อพัฒนา “โรงไฟฟ้านิวเคลียร์” ตามรายงานของทางการฮานอยเมื่อวันอังคาร (20 พ.ค.) ขณะที่เวียดนามพยายามหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีในอัตราสูงจากรัฐบาลทรัมป์
ข้อตกลงดังกล่าวมุ่งเน้นที่รูปแบบการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการฝึกอบรมทรัพยากรบุคคล ตามที่ระบุไว้ในข้อตกลง
ทั้งนี้ ฮานอยและวอชิงตันกำลังอยู่ใน “ช่วงเจรจาการค้ารอบที่สอง” หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐขู่จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเวียดนามในอัตรา 46%
เวียดนามมีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐ มากเป็น “อันดับสาม” ของโลก รองจากจีนและเม็กซิโก และกำลังเร่งหาทางแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้า เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีตามที่ถูกขู่
เหงียน ฮ่อง เดียน รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนามกล่าวระหว่างการประชุมกับผู้บริหารของเวสติ้งเฮาส์ว่า ความร่วมมือด้านการพัฒนาพลังงานจะเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ ซึ่งมีส่วนช่วย ‘ปรับสมดุลการค้า’ ระหว่างเวียดนามและสหรัฐ”
กระทรวงฯ อ้างคำกล่าวของมากาเร็ต โคเซนติโน รองประธานบริหารฝ่ายกิจการองค์กรของบริษัทเวสติ้งเฮาส์ว่า บริษัทให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อแผนของเวียดนาม พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือด้านพลังงานในระยะยาว
คณะผู้แทนของเวียดนามยังได้เข้าสู่การเจรจาการค้ารอบที่สองเมื่อวันอังคารด้วย ตามรายงานของกระทรวง โดยทั้งสองฝ่ายใช้เวลาในการหารือถึงแนวทางโดยรวม ในการแก้ไขประเด็นพื้นฐานที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสนใจร่วมกัน
ทั้งนี้ เวียดนามต้องการรื้อฟื้นแผนพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขึ้นใหม่ เพื่อรองรับความต้องการพลังงานที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และได้ลงนามในข้อตกลงกับรัสเซียเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Ninh Thuan
โครงการดังกล่าวซึ่งประกอบด้วยโรงไฟฟ้า 2 แห่งในจังหวัด Ninh Thuan ตอนกลาง มีกำลังการผลิตรวม 4,000 เมกะวัตต์ เดิมทีมีแผนจะพัฒนาด้วยความร่วมมือจากบริษัท Rosatom ของรัสเซีย และกลุ่มบริษัทญี่ปุ่น JINED แต่แผนการถูกยกเลิกไปเมื่อปี 2016
อ้างอิง: barrons







