‘บริษัทจีน-ฮ่องกง’ แห่เข้าตลาดหุ้น ‘สิงคโปร์’ หวังรุกอาเซียน หนีพิษภาษีทรัมป์

‘บริษัทจีน-ฮ่องกง’ แห่เข้าตลาดหุ้น ‘สิงคโปร์’ หวังรุกอาเซียน หนีพิษภาษีทรัมป์

บริษัทจากจีนและฮ่องกง เตรียมหันมาจดทะเบียนใน ‘สิงคโปร์’ ภายใน 12-18 เดือน หวังหลบความตึงเครียดจากภาษีทรัมป์ และตอกย้ำบทบาทสิงคโปร์ ในฐานะประตูสู่ภูมิภาคอาเซียนสำหรับบริษัทจีน

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า มีบริษัทจาก “จีนแผ่นดินใหญ่” หรือ “ฮ่องกง” ประมาณอย่างน้อย 5 แห่ง กำลังวางแผนที่จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากกว่าหนึ่งแห่งพร้อมกัน ออกหุ้น IPO หรือเสนอขายหุ้นเพิ่มเติมใน “สิงคโปร์” ภายในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า เพื่อขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่ามกลางความตึงเครียดจากภาษีทรัมป์

แหล่งข่าวระบุว่า บริษัทที่จะจดทะเบียนในสิงคโปร์เหล่านี้ มีตั้งแต่บริษัทพลังงานของจีน กลุ่มธุรกิจด้านสาธารณสุขของจีน และกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่ตั้งอยู่ในเซี่ยงไฮ้ อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อของตนเองและชื่อของบริษัท เนื่องจากแผนการยังไม่เป็นที่สิ้นสุด

การจดทะเบียนหุ้นเหล่านี้ จะช่วยหนุนตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Singapore Exchange หรือ SGX) ให้คึกคักมากขึ้น

เจสัน ซอว์ หัวหน้ากลุ่มวาณิชธนกิจแห่ง CGS International Securities กล่าวว่า บริษัทจีนกำลังมองหาการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เพื่อพยายามเข้าสู่ตลาดหรือขยายธุรกิจในแถบอาเซียน ท่ามกลางสงครามการค้ากับสหรัฐ

ซอว์กล่าวว่า หลังจากที่ทรัมป์ยกระดับมาตรการทางการค้าต่อจีน คำถามเกี่ยวกับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ก็ “พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก”

“ในอีกหลายปีหรือหลายทศวรรษข้างหน้า ช่องทางเชื่อมต่อจากจีนสู่โลกจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น” พอล เดอ วิน กรรมการผู้จัดการอาวุโส หัวหน้าฝ่ายขายของ SGX กล่าว

“สิงคโปร์เป็นประตูสำคัญ ไม่ว่าจะในด้านการค้า หรือกิจกรรมทางธุรกิจจากจีนสู่โลกภายนอก และการจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญของสิ่งนั้น” เดอ วินกล่าว

CGS International ซึ่งเป็นหน่วยงานในเครือของบริษัทหลักทรัพย์ China Galaxy Securities ที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ กำลังร่วมงานกับบริษัทจากจีนแผ่นดินใหญ่อย่างน้อยสองแห่ง เพื่อเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ให้เร็วที่สุดภายในปีนี้ ตามข้อมูลจากซอว์ โดยเขาปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อบริษัท

แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า บริษัทจากจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงบางแห่ง อาจสามารถระดมทุนได้ราว 100 ล้านดอลลาร์ ผ่านการจดทะเบียนหลักในตลาดสิงคโปร์

กระแสจดทะเบียนในสิงคโปร์ เกิดขึ้นหลังจากสิงคโปร์ประกาศมาตรการเสริมความแข็งแกร่งให้กับตลาดหุ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการให้ส่วนลดภาษี 20% สำหรับการจดทะเบียนหุ้น

ริงโก้ ชอย ผู้ให้คำปรึกษา IPO แก่ลูกค้าของบริษัทตรวจสอบบัญชี Ernst & Young ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า มาตรการเหล่านี้ จะช่วยกระตุ้นความสนใจในตลาด IPO ภายในประเทศ โดยเสริมว่า ความมั่นคงทางการเมืองและท่าทีเป็นกลางของสิงคโปร์ในภูมิรัฐศาสตร์ จะดึงดูดบริษัทต่าง ๆ ได้

อย่างไรก็ตาม ยังมีไม่มากนักที่มองว่า “สิงคโปร์” จะสามารถไล่ทัน “ฮ่องกง” ในด้านการจดทะเบียนหุ้นได้ในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ฐานนักลงทุนของสิงคโปร์ที่ค่อนข้างอนุรักษนิยม และข้อกำหนดในการจดทะเบียนที่เข้มงวดกว่า

“คุณจำเป็นต้องทำให้การจดทะเบียนง่ายขึ้น โดยเฉพาะสำหรับบริษัทเทคโนโลยี” กรรมการผู้จัดการของบริษัทซอฟต์แวร์ข้ามชาติแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในสิงคโปร์กล่าว

“สตาร์ทอัพส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ ดังนั้น ที่นี่จึงควรเป็นสถานที่ที่พวกเขาเข้าจดทะเบียน”


อ้างอิง: cnbc