‘Sell America’ ไม่จบ ! บอนด์ยีลด์ 30 ปีทะลุ 5% หลังมูดี้ส์ดาวน์เกรด

‘Sell America’ ไม่จบ ! บอนด์ยีลด์ 30 ปีทะลุ 5% หลังมูดี้ส์ดาวน์เกรด

“บอนด์ยีลด์” 30 ปีสหรัฐ เพิ่มขึ้นถึงระดับจิตวิทยาที่ 5% และฟิวเจอร์ของดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลงพร้อมกับค่าเงินดอลลาร์ หลังจากบริษัทมูดี้ส์ หั่นอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ

KEY

POINTS

  • มูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐจาก Aaa เป็น Aa1 เนื่องจากการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องโดยไม่มีแนวโน้มจะลดลง
  • บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 30 ปีพุ่งทะลุระดับจิตวิทยาที่ 5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 ขณะที่พันธบัตร 10 ปีอยู่ที่ 4.52% 
  • เกิดกระแส "Sell America" อีกครั้ง โดยฟิวเจอร์ของดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลงมากกว่า 1% และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า 

ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาว (บอนด์ยีลด์ตัวยาว) มีผลตอบแทนเพิ่มขึ้นถึงระดับจิตวิทยาที่ 5% และฟิวเจอร์ของดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลงพร้อมกับค่าเงินดอลลาร์ หลังจากบริษัท มูดี้ส์ เรทติ้งส์ ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐซึ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับหนี้ของประเทศ โดยมูดี้ส์ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลอเมริกันจากระดับสูงสุด Aaa เป็น Aa1

สาเหตุของการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ

บริษัท มูดี้ส์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายสุดท้ายที่ปรับลดอันดับสหรัฐ กล่าวโทษประธานาธิบดี และสมาชิกรัฐสภาที่ผ่านมา หลายรัฐบาลว่า เป็นผู้ทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณที่พุ่งสูงขึ้น และไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือนี้เสริมความกังวลที่เพิ่มขึ้นในวอลล์สตรีทเกี่ยวกับตลาดพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐ 

‘Sell America’ ไม่จบ ! บอนด์ยีลด์ 30 ปีทะลุ 5% หลังมูดี้ส์ดาวน์เกรด

ผลกระทบต่อตลาดการเงิน

สำหรับตลาดพันธบัตร บอนด์ยีลด์ชนิด 10 ปีเพิ่มขึ้น 0.04%สู่ระดับ 4.52% และพันธบัตรอายุ 30 ปีเพิ่มขึ้น 0.06% สู่ระดับ 5.00% หากบอนด์ยีลด์ตัวยาวทะลุระดับ 5% จะใกล้เคียงกับระดับที่เคยเห็นครั้งล่าสุดในปี 2566 ซึ่งในปีนั้นผลตอบแทนสูงสุดอยู่ที่ 5.18% นับเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550

นักกลยุทธ์จากเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค คาดการณ์ว่า "ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและ 30 ปีจะเพิ่มขึ้นอีก 0.05-0.1% เนื่องจากการปรับลดอันดับเครดิตของมูดี้ส์"

 ตลาดเงินตรา

แม้ว่าผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นมักจะช่วยทำให้นักลงทุนสนใจตลาดพันธบัตร และเข้ามาซื้อจนทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น แต่ความกังวลเกี่ยวกับหนี้อาจเพิ่ม "คำถามต่อสถานะของเงินดอลลาร์" โดยดัชนีบลูมเบิร์กของเงินดอลลาร์ชี้ว่าตอนนี้ดัชนีฯ อยู่ใกล้จุดต่ำสุดของเดือนเมษายน แล้ว และความรู้สึกของนักลงทุนในตลาดออปชันเป็นลบมากที่สุดในรอบห้าปี

นักกลยุทธ์จากโซซิเอเต เจเนราล ให้ข้อมูลต่อลูกค้าว่า "ผลตอบแทนที่สูงขึ้นเป็นเวลานานจะเพิ่มต้นทุนดอกเบี้ยสุทธิของรัฐบาล และการขาดดุล ในระยะยาว การลดลงของสถานะความปลอดภัยของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมีผลกระทบต่อเงินดอลลาร์และความต้องการต่างประเทศสำหรับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และสินทรัพย์อื่นๆ ของสหรัฐ"

คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า การเสื่อมค่าลงของเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโรเป็นเรื่องที่ขัดกับหลักการ แต่สะท้อนถึง "ความไม่แน่นอน และการสูญเสียความเชื่อมั่นในนโยบายของสหรัฐในบางส่วนของตลาดการเงิน"

ตลาดหุ้น

ฟิวเจอร์ของ S&P 500 ลดลงมากกว่า 1% ณ เวลา 07:30 น. ในลอนดอนในวันจันทร์ ซึ่งคิดเป็นประมาณ18:30 น. ของวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2025  ขณะที่สัญญาของ Nasdaq 100 ลดลงเล็กน้อย ในวันศุกร์ กองทุน ETF ที่ติดตามดัชนี S&P 500 ลดลงประมาณ 1%หลังจากปิดการซื้อขายตามปกติ เนื่องจากการปรับลดอันดับของมูดี้ส์

ด้าน แม็กซ์ โกคแมน รองประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของแฟรงคลิน เทมเพิลตัน อินเวสต์เมนต์ โซลูชั่นส์ กล่าวว่า "การปรับลดอันดับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจท่ามกลางการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่มีแหล่งทุนรองรับอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีแนวโน้มจะเร่งตัวขึ้น ต้นทุนการบริการหนี้จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนักลงทุนรายใหญ่ทั้งภาครัฐ และสถาบันเริ่มทยอยเปลี่ยนจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ สิ่งนี้อาจสร้างวงจรอันตรายที่ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น เพิ่มแรงกดดันต่อเงินดอลลาร์ และลดความน่าสนใจของหุ้นสหรัฐ"

ส่วนนักกลยุทธ์ของบลูมเบิร์ก กล่าวว่า "การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐโดยมูดี้ส์ไม่ได้ทำให้สินทรัพย์อเมริกันน่าสนใจน้อยลง ไม่ได้บั่นทอนสถานะของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทั้งหมด เนื่องจากขนาดของตลาดแต่แนวโน้มพื้นฐานที่สนับสนุนการกระจายความเสี่ยงออกจากอเมริกายังคงอยู่"

 

 

อ้างอิง: Bloomberg 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์