'ฮาร์วาร์ด' ใจสู้ เตรียมควัก 250 ล้านดอลล์ หนุนนักวิจัย หลังสหรัฐตัดงบเกือบ 3 พันล้าน

'ฮาร์วาร์ด' ใจสู้ เตรียมควัก 250 ล้านดอลล์ หนุนนักวิจัย หลังสหรัฐตัดงบเกือบ 3 พันล้าน

มหาวิทยาลัยฮาวาร์ดเตรียมทุ่มงบ 250 ล้านดอลลาร์ของตนเอง สนับสนุนนักวิจัย หลังรัฐบาลสหรัฐระงับให้เงินทุนสนับสนุน เกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์

มหาวิทยาลัยฮาวาร์ดเตรียมทุ่มงบ 250 ล้านดอลลาร์ของตนเอง สนับสนุนนักวิจัย หลังรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระงับสัญญาและงบประมาณจากรัฐบาล เกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา

มหาวิทยาลัยไอวีลีกชั้นนำในเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐ เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยเป้าหมายที่น่าจับตามาที่สุดของทรัมป์

ประธาธิบดีสหรัฐได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการปฏิรูปมหาวิทยาลัยและโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศที่เขามองว่าสนับสนุนการต่อต้านอเมริกา เป็นลัทธิมากซ์ และเป็นพวกฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง

ทรัมป์ยังได้วิจารณ์ฮาร์วาร์ดโดยเฉพาะเรื่องการจ้างบุคคลที่มีชื่อเสียงจากพรรคเดโมแครตมาดำรงตำแหน่งอาจารย์หรือตำแหน่งผู้นำ

ด้านฮาร์วาร์ดฟ้องรัฐบาลทรัมป์ที่ตัดสินใจตัดทุนนักวิจัยของสถาบันซึ่งส่วนใหญ่เป็นทุนในสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยฮาร์วาร์ดเรียกความพยายามที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญนี้ว่าเป็น การจำกัดเสรีภาพทางวิชาการและสิทธิในการพูด

เมื่อเดือนที่แล้วรัฐบาลประกาศตัดงบมหาวิทยาลัย เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก ดร.อาลัน การ์เบอร์ อธิบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดประณามรายการเรียกร้องอันยาวเหยียดของรัฐบาลทรัมป์ที่ต้องการให้สถาบันปฏิรูปความเป็นผู้นำ การสอน และการรับนักเรียนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย และตรวจสอบทัศนคติของนักเรียนและอาจารย์

ในแถลงการร่วมของดร.การ์เบอร์กับโพรโวสต์ จอห์น แมนนิง ระบุว่า รัฐบาลทรัมป์ปิดกั้นการวิจัยเพื่อช่วยชีวิต” และกล่าวว่าเป็น “ช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างมาก” สำหรับมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และร่ำรวยที่สุดในประเทศ

ล่าสุดเมื่อวันพุธ (14 พ.ค.) ฮาวาร์ดเผยว่า ดร.การ์เนอร์ได้เสนอลดเงินเดือนของตนเองโดยสมัครใจ 25% เริ่มเดือน ก.ค. เป็นต้นไป และทางสถาบันก็เพิ่งประกาศระงับการจ้างงานเพิ่ม

แถลงการณ์ดังกล่าวระบุด้วยว่ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด “ไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด” หลังเงินสนับสนุนถูกระงับซึ่งรัฐบาลทรัมป์ระบุว่ามีมูลค่ามากกว่า 2,600 ล้านดอลลาร์ และทางมหาวิทยาลัยกำลังทำงานร่วมกับนักวิจัยเพื่อช่วยหาแหล่งทุนทางเลือกอื่น

 

อ้างอิง: Reuters