ทั่วโลกลดบทบาท ‘ดอลลาร์’ ในทุนสำรอง ร่วงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ทั่วโลกลดบทบาท ‘ดอลลาร์’ ในฐานะทุนสำรอง เหลือ 57.8% ร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แบงก์ชาติหลายแห่งหันซบ ‘ทองคำ-เงินเยน’ ดันสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
สำนักข่าวนิกเคอิเอเชียรายงานว่า สัดส่วนของ “เงินดอลลาร์” ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั่วโลกลดลงสู่ระดับต่ำสุดในช่วงสิ้นปี 2567 ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากประเทศต่างๆ เริ่มกระจายการถือครองเงินทุนสำรองของตัวเองไปในสินทรัพย์หรือเงินสกุลอื่นๆ มากขึ้น
ข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า ปัจจุบัน เงินดอลลาร์มีสัดส่วน 57.8% ของเงินทุนสำรองทั่วโลกทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 12.36 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลง 0.6% และถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลย้อนหลังไปถึงปี 2538 ก่อนหน้านี้ดอลลาร์เคยรุ่งเรืองในช่วงปี 2543โดยมีสัดส่วนในทุนสำรองโลกสูงถึงประมาณ 70%
ลดบทบาทดอลลาร์ หันซบ 'ทองคำ'
หลายประเทศ และธนาคารกลางทั่วโลกกำลังมองหาทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการถือเงินดอลลาร์เพียงอย่างเดียว โดยหันมาสนใจ "ทองคำ" ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ขึ้นอยู่กับการควบคุมของรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ สหรัฐใช้การเข้าถึงระบบการชำระเงินด้วยเงินดอลลาร์เป็นเครื่องมือในการลงโทษทางการเงินประเทศที่ไม่ถูกใจ เช่น รัสเซีย และจีน โดยหลังจากที่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนในปี 2565 ธนาคารหลักๆ ของรัสเซียก็ไม่สามารถใช้เครือข่ายการชำระเงินระหว่างประเทศที่เรียกว่า SWIFT ได้
จากข้อมูลของสภาทองคำโลก พบว่า ปริมาณทองคำสำรองของรัสเซียเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับ 10 ปีที่แล้ว โดยล่าสุดรัสเซียมีทองคำเก็บไว้ในคลังสำรองระหว่างประเทศประมาณ 2,300 ตัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 32% ของเงินสำรองทั้งหมดของประเทศ
คิโยทากะ ซาโตะ ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโยโกฮามา กล่าวว่า ประเทศที่ไม่พอใจสหรัฐ และประเทศตะวันตกอื่นๆ ดูเหมือนกำลังพยายามสร้างระบบการชำระเงินที่ใช้สกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่ดอลลาร์
ภายใต้การดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นว่า ทั่วโลกจะลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์มากขึ้น
เคอิจิ อิกูจิ นักวิเคราะห์ของ Resona Holdings เตือนว่า ตลาดกังวลอย่างมากว่าบทบาทสำคัญของเงินดอลลาร์ในระบบเศรษฐกิจโลกอาจจะอ่อนแอลง
‘เงินเยน’ ถูกเลือกเป็นเงินสำรองเพิ่มขึ้น
หลายประเทศเริ่มหันมาสนใจ "เงินเยน" สกุลเงินของญี่ปุ่นมากขึ้น สังเกตได้จากสัดส่วนของเงินเยนที่อยู่ในเงินสำรองระหว่างประเทศของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยล่าสุดเพิ่มขึ้น 0.1% ไปอยู่ที่ 5.82% จากในช่วงปี 2552 ที่เคยต่ำกว่า 3%
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เงินเยนน่าสนใจขึ้นก็คือ ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าระดับ 0% ทำให้ผลตอบแทนจากการถือพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งปัจจัยนี้มีแนวโน้มที่จะจูงใจให้หลายประเทศถือเงินเยนในเงินสำรองมากขึ้น
นอกจากนี้ อากิระ โมโรกา หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Aozora Bank กล่าวว่า การที่ทรัมป์มีจุดยืนที่แข็งกร้าวแม้กระทั่งกับพันธมิตร อาจทำให้เกิดการขายดอลลาร์ และสะสมเงินเยนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
ตอนนี้ เงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั่วโลกเกือบครึ่งอยู่ในเอเชีย ซึ่งจีนเพียงประเทศเดียวมีสัดส่วนถือเงินสำรองประมาณ 1 ใน 4 ของทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่า 3.45 ล้านล้านดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมา ทำให้จีนถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในฐานะสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง
ไดสึเกะ คารากามะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารมิซูโฮ ให้ความเห็นว่า ขณะนี้มีการพูดถึงและคาดการณ์กันมากขึ้นถึงแนวโน้มที่ระบบการเงินโลกจะเปลี่ยนผ่านจากระบบปัจจุบัน จากดอลลาร์ ไปสู่ระบบใหม่ที่จะมีเงินสกุลหลักให้เลือกใช้หลากหลายมากขึ้น เช่น เงินยูโร และเงินเยน
ในกระบวนการเปลี่ยนผ่านนี้ เงินเยนของญี่ปุ่นอาจมีแนวโน้มที่จะถูกเลือกใช้หรือมีความสำคัญมากขึ้นเป็นพิเศษ โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะเงินเยนมีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใกล้กับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย
อ้างอิง Nikkei
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







